Skip to main content
ได้รับข่าวจากทางสมาคมฟ้าสีรุ้งส่งมาให้เกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนทราบกันดีถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านและรังเกียจ กลุ่มหลากหลายทางเพศ โดยเหตุเกิด ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรื่องนี้ได้รับรายงานมาว่าจากการที่เครือข่ายคนทำงานด้านเอดส์ เพศศึกษา เยาวชน สตรี และกลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศได้ร่วมกันจัดงาน "เชียงใหม่เกย์ไพร์ด ครั้งที่ 2" เพื่อรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ (เอชไอวี) , ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก, ลดอคติ และสร้างความเข้าใจต่อสิทธิของคนกลุ่มน้อยทางเพศ เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2552

ในวันดังกล่าว "กลุ่มเสื้อแดง" ใช้ชื่อว่า "กลุ่มรักเชียงใหม่ 51" ได้เปิดเวทีประณามการจัดงาน และเข้าปิดล้อมพื้นที่ ต่อต้านการเดินขบวนพาเหรดจนไม่สามารถจัดงานได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเมืองไทยเพราะเมืองประชาธิปไตย และเรื่องที่ทางกลุ่มเครือข่ายจัดขึ้นนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย ทำลายวัฒนธรรมแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามการจัดงานครั้งนั้นยังส่งผลประโยชน์ต่อลูกท่านหลานเราเกี่ยวกับข้อมูลที่พึงรู้ต่อเยาวชน สตรี และคนทุกเพศ โดยไม่ได้เจาะจงจัดให้คนหันมาเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ สร้างความเสื่อมเสียแต่อย่างใด และกลุ่มเครือข่าย ฯ ทุกคนต่างเป็นลูกหลานคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่รุนแรงและไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

 


หลังจากนั้นหนึ่งเดือนผ่านไปทางเครือข่ายฯ จึงได้ร่วมกันจัดงานเสวนาครบรอบ 1 เดือนจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในวันที่ 21 มีนาคม 2552 และร่วมกันเดินรณรงค์โบกธงสีรุ้ง เรียกร้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของคนรักเพศเดียวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทำให้ "ธงสีรุ้ง" โบกไสวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อย่างสง่างามตามเมืองประชาธิปไตย



โดยในเรื่องนี้หลายฝ่ายผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมแสดงความคิดเห็นไว้ดังเช่น นายกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย กล่าวในวงเสวนาในวันนั้นว่า "รัฐไม่ได้เป็นที่พึ่งของพวกเรา การที่รัฐกดดันจากความรู้สึกไม่เห็นด้วย เป็นการไร้มนุษยธรรม การปฏิเสธไม่ให้เดินพาเหรด เพราะเชื่อว่าทำลายวัฒนธรรม เป็นการกล่าวหา มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำลายวัฒนธรรม เพราะเราไม่ได้แก้ผ้า การเกิดเหตุการณ์ถูกปิดล้อม และราชการบอกให้เรายอมเป็นการส่งเสริมให้อีกกลุ่มเหิมเกริม กดดันไม่ให้เกิดการเดินพาเหรด"


นายพงศ์ธร จันทร์เลื่อน หนึ่งในผู้ร่วมจัดและต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ถูกปิดล้อม สะท้อนความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "เราไม่ได้รู้สึกเคียดแค้นกับผู้กล่าวร้ายต่อเรา หลายคนที่อยู่ที่นั่นยอมให้คนที่เราไม่รู้จักยืนด่าทอ ตอนแรกรู้สึกเจ็บปวดต่อถ้อยคำเหล่านั้น แต่มันทำให้เราได้ฟัง และมีสติกับการฟัง เขาต้องเหนื่อยกับการตะโกนด่าพวกเราที่อยู่ในวงล้อมอย่างสงบ วันนั้นทำให้ผมรู้สึกว่า มันเลวร้าย เหมือนเราไม่ใช่คน และทำให้ผมรู้สึกสูญเสียความเป็นคนจริงๆ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น"




รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล นักวิชาการจาก มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวความคิดเห็นต่อเหตุการณ์และความรับผิดชอบจากรัฐที่ควรเกิดขึ้นว่า "กลุ่มเสื้อแดง กลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ต้องละอายต่อการกระทำ และต้องออกมาขอโทษกับการกระทำที่ทำกับเกย์ไพร์ด ไม่อย่างนั้น การเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมาก็เป็นเพียงโวหาร ดีแต่ปาก นอกจากนี้ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อ 21 กุมภาฯ สะท้อนให้เห็นว่า กลไกรัฐพึ่งไม่ได้ และขอประนามกลไกรัฐ ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ไปถึงตำรวจที่รับผิดชอบ นอกจากนี้การเพิกเฉยจากรัฐบาลชุดนี้ยังสะท้อนนัยยะถึงการสนับสนุนความรุนแรง"


นายกิตติพันธ์ กันจินะ ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์สะท้อนความคิดเห็นจากเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "ผมคิดว่า เรามีหน้าที่พูดและทำในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเราเยาวชนยังไม่หมดกำลังใจที่จะทำ เราเลือกที่จะใช้สันติวิธี เพื่อจะสะท้อนความจริงใจ สิ่งที่ต้องบอกกับสังคม คือ รักเพศเดียวกันเป็นทางเลือกของชีวิต เราต้องมั่นใจและต้องอยู่ได้ เพราะตอนนี้รู้สึกได้ว่า เราอยู่ในความหวาดกลัวมากๆ"


หลังการเสวนาได้มีการจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ และร่วมกันเดินขบวนรณรงค์ไปตามถนนราชดำเนินไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกล่าวแถลงการณ์ถึงการใช้ความรุนแรงของกลุ่มเสื้อแดงว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวและน่าสลดใจอย่างยิ่ง  การใช้วัฒนธรรมมาเป็นเหตุผลกระทำรุนแรงและการเพิกเฉยของตำรวจกว่าร้อยนายที่อยู่ในเหตุการณ์เท่ากับอนุญาตให้กลุ่มเสื้อแดงใช้ความรุนแรง ทางเครือข่ายขอทวงถามความเป็นธรรมและจะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องทุกเดือน

 

 

โดยส่วนตัวของอิฉัน เป็นหนึ่งในคนไทยที่รักคนไทยและประเทศชาติยิ่งชีพ แม้ตัวเองจะอยู่ห่างไกลเมืองไทย แต่ก็ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างเสมอ ในฐานะของคนไทยในต่างแดนที่ต้องติดต่อและพบปะกับชาวต่างชาติ อิฉันต้องตอบคำถามจากผู้โดยสารที่มาจากทั่วทุกโลกถึงเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในสยามประเทศตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้คำตอบและแสดงความคิดเห็น คนไทยทุกคนอยากเห็นประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า มีความเป็นอยู่ที่ดี ชีวิตเป็นสุขกันถ้วนหน้าและรักกันดังเดิม แต่เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ไปมากกว่าการเอาใจช่วยและภาวนาขอให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้นไม่ใช่เลวลง แต่ถ้าหากเราจำเป็นต้องสู้ "เราก็จะสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว" ใครที่คิดจะทำอะไรขอให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องตามสังคมของชนหมู่มาก ไม่ใช่เพียงผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะอยู่กลุ่มอิทธิพลเสื้อสีไหนก็ตาม เพียงแค่สีไม่ได้ช่วยอะไรได้ แต่จิตใจ สายเลือดเนื้อของคนไทย ยังคงเป็นสีเลือดเดียวกันอยู่ ให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกันสังคม และประเทศชาติก็คงจะไปรอด .... สักวัน ...ฉันหวัง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศ ส่งมาโดยคุณดนัย  ลินจงรัตน์ : โทร. 081-355-0696  และคุณนาดา ไชยจิตต์ : ผู้ประสานงานกลุ่มเสาร์ซาวเอ็ด กลุ่มบุคคลและองค์กรที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านความรุนแรงทางเพศ โทร.087-7097077 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (www.rsat.info/sat21feb2009)

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า


“เม้าท์แตก...ชาวเรา” วางแผงแล้ววันนี้... Behind the scene of come out the closet !ออกพรรษาแล้วนะคะแต่เชื่อว่าหากหลายคนยังรักษาศีลไม่ว่าจะอยู่ในหรือออกนอกพรรษาก็จะได้กุศลอย่างใหญ่หลวง  และเป็นสุขกันถ้วนหน้าค่ะสัปดาห์นี้ ชาน่ายังอยู่เมืองไทยก่อนจะบินไปทำงานประจำที่อเมริกา และยุโรปต้นเดือนหน้า  หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการรวมเล่ม ... “เม้าท์แตก...ชาวเรา”  จึงอยากจะเล่าเรื่องราวความเป็นมา “กว่าจะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คออกสู่สายตามหาชน”ตอนแรกก็เกิดอาการสองจิตสองใจ ว่าจะรวมเล่มดีมั้ย ผลกระทบจะเป็นเยี่ยงไร หลากหลายความคิด  แต่สุดท้าย…
ชาน่า
นางโชว์เป็นอาชีพที่หลายคนสนใจ ส่วนมากเกิดขึ้นจากใจรักและรักที่จะเป็นนักแสดง  หลายคนเคยได้ดูหนังเรื่อง Show Girl ที่ Beyonce นำแสดงต่างชื่นชมถึงความหรูเริ่ดอลังการ แล้วนางโชว์ของไทยล่ะคะ  ...ไม่น้อยหน้าทีเดียวล่ะค่ะคืนก่อนชาน่าได้มีโอกาสไปเที่ยว สีลม ซอย2 ซึ่งเป็นแหล่งพบปะ สังสรรค์ของชาวเราทั้งไทยและเทศ ย่านแสงสีราตรีที่มีเกย์จากหลายทิศทั่วไทย หลากหลายเกย์นานาชาติทั่วโลกเดินทางมาโดยมิได้นัดหมาย เพียงเพื่อผ่อนคลาย ปาร์ตี้ เต้นรำ พบปะ รู้จักเพื่อนใหม่และอีกมากมายเหตุผลของคนที่มาที่นี่...แหล่งบันเทิงหลากหลายต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร…
ชาน่า
สังคมในทุกวันนี้รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจค่ะ  ชายร้อยคนที่เดินผ่าน คุณจะรู้หรือไม่ว่าใครเป็นชายจริง หญิงเหล็ก ชายร่างหญิง หญิงร่างชาย สับสน งงงวยกันไปใหญ่นะคะ โดยเฉพาะหากคุณเป็นสาวกของสมาคมน้องนีหัวโบ(ราณ)ด้วยแล้วล่ะก็  ยากที่จะบอกได้   อันที่จริงหากเป็นชายคนอื่นก็หาได้ใส่ใจไม่ แต่วันใดที่ชายคนนั้นบังเอิ๊ญ บังเอิญอยู่ในตำแหน่งว่าที่สามีสุดเลิฟของคุณล่ะ  คงต้องผ่านกรรมวิธีการสังเกต “ชายของเราเป็นชายจริงหรือเปล่าน๊อ”วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากน้องไก่ สาวแอร์ของสายการบินแห่งชาติญี่ปุ่น ถามว่า  “พี่ชาน่าขา  มีผู้ชายมาจีบหนู หน้าตาดี ดูดีเนี๊ยบมาก เรียบร้อย …
ชาน่า
หยิบแม็กกาซีน Men’s health ฉบับเดือนกันยายนนี้  มีโดม ปกรณ์ ลัมเป็นนายแบบปก  โดยส่วนตัวแล้วชอบอ่านวารสารของผู้ชายเหมือนกันค่ะ เพราะว่าชาน่าก็มีร่างกายเป็นชายเช่นกันนอกจากนั้นยังปลื้มโดม ปกรณ์ ลัม มาตั้งนาน จนเมื่อครั้นไปซาน ฟรานซิสโก เห็นโดมเป็นดีเจในผับแห่งหนี่ง จนตอนนี้หนุ่มไอดอลของวัยรุ่นคนนี้ เป็นดีเจ และนักร้องมืออาชีพ และเป็นผู้ชายที่ชาวกอ (เกย์) และชะนีทั้งหลายปลื้ม ด้วยรูปร่างหน้าตา มาดมั่นชวนฝันอ่านเรื่องราวบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายจากหนุ่ม ๆ หลายคนในหนังสือจึงได้ไอเดียให้กับการดูแลและใส่ใจตัวเอง  …