Skip to main content
เดินทางแบบกระเด็นกระดอนอยู่ในกระป๋องหนาหนักติดล้อ  และความยาวนานของระยะทาง  กว่า 5 ชั่วโมงไปให้ถึงใจกลางภูเขา  แต่ยิ่งคิดว่าเมื่อไหร่จะถึงใจกลางภูเขาตามมาตรวัดของแผนที่แผ่กางออกกว้าง  ยิ่งกลับเป็นเรื่องยากไปถึงใจกลางภูเขาที่อยู่ในใจ 

ภูเขาเป็นทะมึนก่อกำแพงรายล้อม  

ภูเขาลูกนั้นและภูเขาอีกลูก  ผลัดเปลี่ยนหน้ามาแนะนำใบหน้าตัวเอง  บางใบหน้าผมเผ้ารกรุงรัง  ดูเป็นศิลปะความรุงรัง  อีกหนึ่งใบหน้ากลับโกร๋นเศร้าซึมเงียบเหงา  ใบหน้าหนึ่งกำลังพักผ่อน  งีบหลับไปแล้วไม่อยากให้ใครรบกวน
อีกหนึ่งใบหน้ากำลังศัลยกรรมบนหัวตัวเองด้วยไฟ   

ใบหน้าภูเขาบางลูก  ยืนประกาศตามคำสั่งหน่วยคลื่นอากาศเคลื่อนที่  บอกว่า  ใบหน้าฉันนี่แหละ  รับคลื่นโทรศัพท์ได้ทั่วสารทิศ  ซึ่งภูเขาลูกอื่นไม่สามารถทำได้

อีกหนึ่งใบหน้าระทมอมทุกข์  เป็นสิวเสี้ยนกลากเกลื้อนจนมอมแมม 
ทุกอย่างนั้น  ตั้งอยู่บนความขรุขระทั้งสิ้น    


พ่อของพ่อ  คือปู่ของหลาน  พ่อของลูกคือลูกของพ่อ และลูกของพ่อคือหลานของปู่  ได้เดินทางร่วมกันครั้งแรก  แน่นอนว่าเป็นการเดินทางแบบสมบุกสมบันและลืมบันยะบันยัง  ลืมอายุจริงของปู่  จึงลืมว่าต้องระมัดระวังเรื่องใดบ้าง 

ยิ่งลึกเข้าไป  พ่อของพ่อคือปู่ของหลานยิ่งอัศจรรย์ใจ  กับการพบแผ่นดินที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เหมือนการปรากฎตัวครั้งแรกของพื้นผิวโลกตะปุ่มตะป่ำ

พ่อของลูกคือลูกของพ่อนั้นบอกว่า  เรามาถึงแผ่นดินบนหลังเต่ากันแล้ว  ทุกอย่างในอาณาบริเวณนี้  จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วของเต่า  เตรียมหมอบต่ำเข้าไว้  ย่อเข่าย่อขาให้สั้นลงอีกนิด  อย่าคิดเรื่องที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้หรือวันต่อๆไป  

ขอให้คิดถึง  นาทีนี้ของวันนี้บนความเร็วของเต่า
ส่วนลูกของพ่อคือหลานของปู่นั้น  บอกว่า  เขาเตรียมกระเป๋าเขียนรูป ดินสอ สี กระดาษ  พร้อมจะเขียนรูป 
ความสุขในลูก  คือความสุขในพ่อด้วย

พ่อของพ่อคือปู่ของหลานบอกเป็นบุญตา  ได้มาเห็นดินแดนในที่ลับตา  ไม่ใช่ใครนึกอยากมาก็มาได้ง่ายๆ 
"ให้มีความสุขนะพ่อ  จะพาไปดูไร่ข้าว  ที่เก็บไม้ฟืนของเขา"  พ่อของลูกคือลูกของพ่อบอกพลางชี้ให้ดูเส้นขอบฟ้า  ก็คือเส้นฟันปลาที่มีภูเขาทอดตัวเป็นฟันซี่บนกรามใหญ่ยักษ์
"มีแต่เขากับเขาเปล่าๆ"  พ่อของพ่อคือปู่ของหลานพูดด้วยสำเนียงพื้นถิ่น  ว่าไม่มีอื่นใดปะปนแบ่งแยกจริงๆ  เห็นแต่ภูเขาต่อภูเขา "ไม่รู้กลับบ้านทางไหน  เขามืดแปดด้าน"

ภูเขากั้นไว้ทุกทางจริงๆ
"เขากินไร  อยู่อย่างนี้ปลูกไรขึ้น" พ่อของพ่อคือปู่ของหลานมีข้อสงสัย "ถ้าเกิดอยู่ที่นี่  ไม่รู้ทำไรเหมือนกัน  นั่งเป่าปากไปวันแน่  ทำไรได้เล่า"
"เขาอยู่ให้ช้าลง  ถ้าเร็วขึ้นเมื่อไหร่  เขาก็ลำบากเหมือนกัน"
"เขาปลูกไรมั่ง"
"ปลูกข้าวไร่  นั่น ไร่ข้าวของเขา  ยังผักหญ้าให้เก็บได้เรื่อยๆ"

เท้าเราย่ำไป  มองกี่ครั้งๆ  ภูเขาก็เหมือนก้อนกินที่โดนบีบขยำเป็นขยุ้มด้วยนิ้วมือ  วางตากแดดตากลมเอาไว้  
ความขรุขระเป็นหน้าตาของภูเขา  พ่อของลูกคือลูกของพ่อบอกลูกชาย
เจ้าลูกชาย(ลูกของพ่อหลานของปู่)ถามว่า  ไม่มีที่ราบเลยใช่ไหม
"อยู่ในใจเรา" พ่อของลูกคือลูกของพ่อบอกลูกชายตัวเอง  แล้วเดินไปหาหลัง

เต่าอีกตัวหนึ่ง   ผิวเปลือกหลังเต่าเป็นรูปตาหมากรุก
"ข้าวเปลือกงอกที่นี่" พ่อของลูกคือลูกของพ่อพูด

สามวัย  นั่งมองฉากหลังเต่าเคลื่อนตัวผ่านหน้า  เต่าเป็นฝูงคลานต้วมเตี้ยมไล่ตามกันมา  อีกนานกว่ามันจะเดินผ่านไปทุกตัว

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
เพลงรบต่อเนื่องกันมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย  ยังมีบันไดอีกหลายขั้นทอดไป  และยังมีบันไดขั้นใหม่ๆทอดข้ามไปมา  ข้ามพรมแดนแปลกหน้าหากันและกัน  ไม่ว่าเพลงจะเกิดขึ้นในถ้ำ  เกิดในศูนย์ลี้ภัย  เกิดตามป่า  เกิดในเมือง  เพลงยังมีชีวิตเดินทางไปตามหาคนฟังต่อไปยามเพลงเดินไปตามไร่ข้าว  ห้างไร่  ออกตามหาคนฟัง  ผมไม่นึกว่าภาพนั้นจะกลายเป็นเรื่องราวอื่นไปได้มากกว่านั้น  คนเกี่ยวข้าวหยุดพัก  ตีวงล้อมเข้ามา  นั่งฟังเพลงคนหนุ่มที่ใช้เวลากับการเล่นเพลง  แต่งเพลง  ร้องฟังกันเองในแค้มป์ผู้ลี้ภัย  เหมือนโลกไม่เคยเห็น …
ชนกลุ่มน้อย
ระหว่างรอความหมายเพลงของเหล่อวา  ซึ่งผมเขียนไว้ว่าจะนำมาขึ้นจอ  แต่เพลงของเขาอยู่ระหว่างทางแปลความหมาย  สัปดาห์ต่อไปน่าจะถึงฝั่งน้ำปิง  นอนรอ  นั่งรอ ... บังเอิญนึกถึงเพลงศิลปินเพลงอีกชุดหนึ่ง  รูปปกเทปดอกกุหลาบแดงพ้อต่อฉื่อโพ  -- กุหลาบน้อย   เป็นชื่อบนปกเทปนานมาแล้วผมเคยเขียนถึง  ผ่านคนบอกเล่า  และคนแปลความหมายเนื้อเพลง  ว่ากันว่า  เป็นงานเพลงที่รวบรวมเอาเพลงอมตะสองฟากฝั่งสาละวิน  เลือกเอาคุ้นหูคนตะเข็บชายแดนมาไว้ในที่เดียวกัน  ผ่านเสียงร้องหวานเศร้าจับใจ  ในโทนเนื้อเสียงใกล้เคียง  นอร่าห์ โจนส์ (Norah…
ชนกลุ่มน้อย
ผมพบเขาครั้งแรกในหน้าหนาวเมื่อหลายปีก่อน  หมู่บ้านเล็กๆ  ใจกลางเทือกถนนธงชัย  เขาไม่ค่อยมองสบตาในช่วงแรกๆ  เงียบเหมือนหิน  ยิ้มยาก  เคร่งขรึมอบอวลอยู่ภายใน  ผมนึกว่าคนจากพื้นล่าง  ขึ้นมารอซื้อของป่า  หรือพูดง่ายๆว่าอาจเป็นพ่อค้าซื้อของป่าสักอย่าง  ซึ่งมักปิดปากเงียบ  ไม่อยากให้รายละเอียดใครต่อใคร  ถึงจุดหมายที่มาของตัวเองต่อคนแปลกหน้าด้วยกัน  และของป่าที่จะซื้อก็ใช่ว่ามันจะเถรตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย  หรือจะพูดอีกอย่างว่า  ได้มาง่าย  ได้มาถูกๆ  ได้ของมาโดยไม่เหมือนคนอื่น …
ชนกลุ่มน้อย
ขณะผมนั่งเขียนต้นฉบับ พระสงฆ์ในพม่าออกมาเดินบนท้องถนนเป็นวันที่แปด คนออกมาร่วมเดินไปตามถนนด้วยนับแสนคน ถนนกลางกรุงร่างกุ้งเชิญชวนให้คนออกมาเดิน ดูท่าคนจะเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆผมเห็นทิวแถวพระสงฆ์เหมือนแม่น้ำใหญ่สาละวินหน้าฝน พร้อมถั่งโถมใส่สิ่งกีดขวางทุกอย่าง หอบลงอันดามันสายตานักรบมองจ้องนักบวช ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ สะท้อนถึงเรื่องใด รัฐบาลเผด็จการทหารจะใช้วิธีสลายผู้ชุมนุมด้วยกระสุนปืนอีกหรือไม่ ล้วนเป็นที่จับตามองจากชาวโลกเย็นนี นักศึกษาพม่ากำลังขมักเขม้นทำเพลง ว่าด้วยโศกนาฏกรรมฆ่าประชาชนกลางกรุงร่างกุ้งเมื่อปี 1988 เกือบยี่สิบปีก่อน เขาเลือกเอาเชียงใหม่เป็นสถานที่ทำเพลง…