Skip to main content



\\/--break--\>
มันมาจากระเบียงบ้านชั้นบน

แมงกัดกินไม้มากับเม็ดฝน  ปรากฏตัวขึ้นกลางเดือนพฤษภาคม
กัดกินระเบียงดูพระจันทร์กลางคืนจนเป็นผุยผง
จนเม็ดไทรตกลงมางอกงาม
ไม่นาน  มันกัดกินไปถึงห้องนอน
เตียงนอนไม้เก่าๆกับที่ว่างโล่งๆขังวัวได้ทั้งฝูง
วัวโง่ๆที่หลบมาเลียแผลจากแผ่นดินอื่น
บอกเธอกี่ครั้งที่รัก  ระวังแมงกัดกินไม้จะเข้ามากัดกินหัวใจของเรา
แล้วโพลงกลวงๆจะกลายเป็นที่พักอาศัยของมันไปตลอดกาล
แล้วแมงกัดกินไม้ที่มากับเม็ดฝนก็กัดกินหัวใจเราจริงๆ
มันเขย่าเส้นเลือดทุกเส้นในกายฉัน
มันกัดกินอวัยวะภายในทุกอณูของตัวเธอ
และมันกำลังจะลุกลามไปถึงหัวใจลูกชายของเรา
ในชีวิตฉัน  ไม่เคยทำให้เลือดในกายใครต้องหลั่งริน
หากการไล่ล่าตัวเหี้ยในวัยกลัดมัน  จะนำพาเวรกรรมมาให้
นั่นก็นานไม่เกินความไร้เดียงสาจะลบรอยออกไปได้ง่ายๆ
หรือเหตุผลการเดินตามหลังแม่ชีบิณฑบาตในวัยเด็กของฉัน
จะนำพามาก่อบุญครั้งใหม่  ด้วยนำฉันไปเซ่นสังเวยความปรารถความดีงามของพวกผีร้าย
ฉันนึกแล้วที่รัก  มันจะมาถึงระเบียงไม้หน้าบ้าน
ที่โล่งทางลมผ่าน  ฉันจะได้นั่งดูใบไม้ผลิใบใหม่ทุกเช้า
ดูพวกกระรอกยกโขยงมาขโมยผลเสาวรสบนกิ่งมะม่วง
เฝ้าคอยผีเสื้อปีกลายงามมาบินตอมดอกบุหงาส่าหรี
นั่งรำพึงกับราตรีแผ่กิ่งก้าน มะลิเครือเปลี่ยนช่อดอกขาวและถ้วยทองทอดยอดกลางอากาศ
มือคนปลูกไม่อยู่อีกแล้ว
ฉันนั่งมองดอกบานแล้วร้องไห้กล้ำกลืนบ่อยๆ
ยามมิตรสหายมาหา  มันเป็นระเบียงนั่งพูดคุยฟุ้งฝันพวกนอกรีตนอกคอกกากสังคม
แล้วแมงที่มันกลายร่างเป็นปลวกก็กัดกินระเบียงไม้ทั้งวันทั้งคืน
กลางคืนฉันนอน  พวกมันตื่น
กลางวันฉันตื่น   พวกมันตื่น
มันไม่มีทีท่าจบลงง่ายๆ ที่รัก
มันกำลังตั้งแถวเข้าไปในห้องครัว
แล้วชวนกันไปกัดกินเม็ดข้าวสารที่เหลือก้นถัง
ไม่เว้นแม้ก้านคะน้าเน่าๆ  เซ่นสังเวยให้เขี้ยวคมของมัน
โพลงในหัวใจฉันมืดดำขยายกว้าง  ยิ่งขยายกว้างออกไปเรื่อยๆ
ไม่นาน  วัวโง่จะถูกต้อนมาขังไว้
แล้วเสียงกัดกินสนามหญ้าวิญญาณจะดังทั้งวันทั้งคืน
แล้วธารน้ำสีเลือดจะเปลี่ยนเป็นน้ำใสๆได้อย่างไร
แล้วเสียงหัวใจจะไม่หยุดเต้นได้อย่างไร
ฉันสงสัยพวกมันเหลือเกิน  พวกมันเข้ามากัดกินเย็นเยียบเพียงนั้นได้อย่างไร
พวกมันมากับยาเม็ดแก้ปวด  หรือยาแก้แพ้ความดีงาม
ฉันสงสัยพวกมันเหลือเกิน  พวกมันมีชีวิตไปสู่ชีวิตอมตะชนิดไหน
ซึ่งเสียงแตกหักแหลกเหลวตามไปไม่ถึงนั่นหรือ
มันไม่จบลงง่ายเสียแล้ว  ที่รัก
มันกำลังลุกลามไปกัดกินฐานรากของบ้าน
ซึ่งบทกวีหนึ่งเล่ม  ปากกาหนึ่งด้าม หินจากแม่น้ำกลางป่าอยู่ในนั้นด้วย
แล้วฝูงวัวโง่ๆจะถูกต้อนไปอยู่ในนั้นด้วย
พวกมันเชี่ยวชาญการกินอยู่แบบกัดกินหญ้าวิญญาณไม่รู้อิ่ม
กลางคืนฉันนอน  พวกมันตื่น
กลางวันฉันตื่น  พวกมันตื่น
ฉันสงสัยพวกมันเหลือเกิน  พวกมันเข้าสู่กระแสเลือดเป็นชีวิตอมตะได้อีกนานแค่ไหน

 

 

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
เพลงรบต่อเนื่องกันมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย  ยังมีบันไดอีกหลายขั้นทอดไป  และยังมีบันไดขั้นใหม่ๆทอดข้ามไปมา  ข้ามพรมแดนแปลกหน้าหากันและกัน  ไม่ว่าเพลงจะเกิดขึ้นในถ้ำ  เกิดในศูนย์ลี้ภัย  เกิดตามป่า  เกิดในเมือง  เพลงยังมีชีวิตเดินทางไปตามหาคนฟังต่อไปยามเพลงเดินไปตามไร่ข้าว  ห้างไร่  ออกตามหาคนฟัง  ผมไม่นึกว่าภาพนั้นจะกลายเป็นเรื่องราวอื่นไปได้มากกว่านั้น  คนเกี่ยวข้าวหยุดพัก  ตีวงล้อมเข้ามา  นั่งฟังเพลงคนหนุ่มที่ใช้เวลากับการเล่นเพลง  แต่งเพลง  ร้องฟังกันเองในแค้มป์ผู้ลี้ภัย  เหมือนโลกไม่เคยเห็น …
ชนกลุ่มน้อย
ระหว่างรอความหมายเพลงของเหล่อวา  ซึ่งผมเขียนไว้ว่าจะนำมาขึ้นจอ  แต่เพลงของเขาอยู่ระหว่างทางแปลความหมาย  สัปดาห์ต่อไปน่าจะถึงฝั่งน้ำปิง  นอนรอ  นั่งรอ ... บังเอิญนึกถึงเพลงศิลปินเพลงอีกชุดหนึ่ง  รูปปกเทปดอกกุหลาบแดงพ้อต่อฉื่อโพ  -- กุหลาบน้อย   เป็นชื่อบนปกเทปนานมาแล้วผมเคยเขียนถึง  ผ่านคนบอกเล่า  และคนแปลความหมายเนื้อเพลง  ว่ากันว่า  เป็นงานเพลงที่รวบรวมเอาเพลงอมตะสองฟากฝั่งสาละวิน  เลือกเอาคุ้นหูคนตะเข็บชายแดนมาไว้ในที่เดียวกัน  ผ่านเสียงร้องหวานเศร้าจับใจ  ในโทนเนื้อเสียงใกล้เคียง  นอร่าห์ โจนส์ (Norah…
ชนกลุ่มน้อย
ผมพบเขาครั้งแรกในหน้าหนาวเมื่อหลายปีก่อน  หมู่บ้านเล็กๆ  ใจกลางเทือกถนนธงชัย  เขาไม่ค่อยมองสบตาในช่วงแรกๆ  เงียบเหมือนหิน  ยิ้มยาก  เคร่งขรึมอบอวลอยู่ภายใน  ผมนึกว่าคนจากพื้นล่าง  ขึ้นมารอซื้อของป่า  หรือพูดง่ายๆว่าอาจเป็นพ่อค้าซื้อของป่าสักอย่าง  ซึ่งมักปิดปากเงียบ  ไม่อยากให้รายละเอียดใครต่อใคร  ถึงจุดหมายที่มาของตัวเองต่อคนแปลกหน้าด้วยกัน  และของป่าที่จะซื้อก็ใช่ว่ามันจะเถรตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย  หรือจะพูดอีกอย่างว่า  ได้มาง่าย  ได้มาถูกๆ  ได้ของมาโดยไม่เหมือนคนอื่น …
ชนกลุ่มน้อย
ขณะผมนั่งเขียนต้นฉบับ พระสงฆ์ในพม่าออกมาเดินบนท้องถนนเป็นวันที่แปด คนออกมาร่วมเดินไปตามถนนด้วยนับแสนคน ถนนกลางกรุงร่างกุ้งเชิญชวนให้คนออกมาเดิน ดูท่าคนจะเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆผมเห็นทิวแถวพระสงฆ์เหมือนแม่น้ำใหญ่สาละวินหน้าฝน พร้อมถั่งโถมใส่สิ่งกีดขวางทุกอย่าง หอบลงอันดามันสายตานักรบมองจ้องนักบวช ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ สะท้อนถึงเรื่องใด รัฐบาลเผด็จการทหารจะใช้วิธีสลายผู้ชุมนุมด้วยกระสุนปืนอีกหรือไม่ ล้วนเป็นที่จับตามองจากชาวโลกเย็นนี นักศึกษาพม่ากำลังขมักเขม้นทำเพลง ว่าด้วยโศกนาฏกรรมฆ่าประชาชนกลางกรุงร่างกุ้งเมื่อปี 1988 เกือบยี่สิบปีก่อน เขาเลือกเอาเชียงใหม่เป็นสถานที่ทำเพลง…