Skip to main content

  

When I was young, my Dad would say Come on Son let's go out and play
เมื่อยังเยาว์วัย พ่อจะบอกมานี่มาลูก ออกไปเล่นนะ
Sometimes it seems like yesterday
อย่างกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
And I'd climb up the closet shelf When I was all by my-self
และฉันจะปีนชั้นตู้เสื้อผ้าเมื่ออยู่คนเดียว

Grab his hat and fix the brim Pretending I was him
คว้าหมวกของเขามาใส่ และทำตัวเป็นพ่อ
no matter how hard I try
แต่ไม่ว่าจะพยายามหนักเท่าไหร่
No matter how many tears I cry
แต่ไม่ว่าจะร้องไห้มากเพียงใด
No matter how many years go by
แต่ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไป
I still can't say good-bye
ฉันยังไม่สามารถบอกลา
He always took care of Mom and me. We all cut down a Christmas tree
เขาดูแลแม่และฉันเสมอ โค่นต้นไม้เพื่อทำต้นคริสมาสต์
He always had some time for me
เขามีเวลาให้ฉันเสมอมา
Wind blows through the trees
ลมพัดผ่านยอดไม้
Street lights, they still shine bright
ไฟข้างทางยังส่องแสง
Most things are the same
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
but I miss my Dad to-night
ขาดเพียงพ่อในค่ำนี้
I walked by a Salvation Army store Saw a hat like my daddy wore
ฉันเดินเข้าเกณฑ์ทหารแล้วเห็นหมวกที่เหมือนของพ่อ
Tried it on when I walked in Still trying to be like him
ลองสวมและยังพยายามที่จะเป็นเหมือนเขา
No matter how hard I try
แต่ไม่ว่าจะพยายามหนักเท่าไหร่
No matter how many tears I cry
แต่ไม่ว่าจะร้องไห้มากเพียงใด
No matter how many years go by
แต่ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไป

I still can't say good-bye
ฉันยังไม่สามารถบอกลา

\\/--break--\>

(แปลโดย โพล้เพล้)

 

อะไรที่ทำให้ผมเหมือนเขา และอะไรที่ทำให้ผมเป็นไม่เหมือนเขา

บอกหน่อยสิพ่อ ผมรวดร้าวมาจากเมื่อวาน

ผมยังมองไม่เห็นหนทางของวันพรุ่งนี้

ไม่มีอะไรนำใจสักอย่าง ไม่มีอะไรได้มาง่ายดายเลยพ่อ

พ่อบอกว่า พ่อจะอยู่กับผมเสมอ

ก่อนจากกัน พ่อยื่นนาฬิกาให้ผม

วันนี้นาฬิกาพ่อไม่มีถ่าน เข็มยาวไม่ไล่ตามเข็มสั้น

ยังวางอยู่บนตู้หนังสือเลยพ่อ

พ่อคิดถึงผม ผมอยากบอกว่ารักพ่อสักครั้งหนึ่ง

นั่น นานมาแล้ว

วันที่เราเดินตามหลังกัน ไปให้ถึงเตาเผาถ่านกลางป่าลึก

กลิ่นควันไฟที่หายใจอึดอัดปกคลุมตัวเราไว้

พ่อบอกว่า กลิ่นถ่านจะช่วยให้ลูกมีเสื้อนักเรียนตัวใหม่

พ่อบอกว่า ถ้าเราเดินไปไกลกว่านี้อีกหน่อย เราจะพบความจริงอีกอย่าง

ลูกต้องเข้าใจให้ได้ว่า วันไหนไม่มีพ่ออยู่บ้าน

เชื่อเถอะว่า พ่อคิดถึงลูกอยู่เสมอ

ถ้านึกอะไรไม่ออก ก็ให้นึกเพลงของลุง chet atkins

ลุง chet ใส่หมวกปีกร้องเพลงนี้ด้วยน้ำตา

 

 

 

 

บล็อกของ ชนกลุ่มน้อย

ชนกลุ่มน้อย
เพลงรบต่อเนื่องกันมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย  ยังมีบันไดอีกหลายขั้นทอดไป  และยังมีบันไดขั้นใหม่ๆทอดข้ามไปมา  ข้ามพรมแดนแปลกหน้าหากันและกัน  ไม่ว่าเพลงจะเกิดขึ้นในถ้ำ  เกิดในศูนย์ลี้ภัย  เกิดตามป่า  เกิดในเมือง  เพลงยังมีชีวิตเดินทางไปตามหาคนฟังต่อไปยามเพลงเดินไปตามไร่ข้าว  ห้างไร่  ออกตามหาคนฟัง  ผมไม่นึกว่าภาพนั้นจะกลายเป็นเรื่องราวอื่นไปได้มากกว่านั้น  คนเกี่ยวข้าวหยุดพัก  ตีวงล้อมเข้ามา  นั่งฟังเพลงคนหนุ่มที่ใช้เวลากับการเล่นเพลง  แต่งเพลง  ร้องฟังกันเองในแค้มป์ผู้ลี้ภัย  เหมือนโลกไม่เคยเห็น …
ชนกลุ่มน้อย
ระหว่างรอความหมายเพลงของเหล่อวา  ซึ่งผมเขียนไว้ว่าจะนำมาขึ้นจอ  แต่เพลงของเขาอยู่ระหว่างทางแปลความหมาย  สัปดาห์ต่อไปน่าจะถึงฝั่งน้ำปิง  นอนรอ  นั่งรอ ... บังเอิญนึกถึงเพลงศิลปินเพลงอีกชุดหนึ่ง  รูปปกเทปดอกกุหลาบแดงพ้อต่อฉื่อโพ  -- กุหลาบน้อย   เป็นชื่อบนปกเทปนานมาแล้วผมเคยเขียนถึง  ผ่านคนบอกเล่า  และคนแปลความหมายเนื้อเพลง  ว่ากันว่า  เป็นงานเพลงที่รวบรวมเอาเพลงอมตะสองฟากฝั่งสาละวิน  เลือกเอาคุ้นหูคนตะเข็บชายแดนมาไว้ในที่เดียวกัน  ผ่านเสียงร้องหวานเศร้าจับใจ  ในโทนเนื้อเสียงใกล้เคียง  นอร่าห์ โจนส์ (Norah…
ชนกลุ่มน้อย
ผมพบเขาครั้งแรกในหน้าหนาวเมื่อหลายปีก่อน  หมู่บ้านเล็กๆ  ใจกลางเทือกถนนธงชัย  เขาไม่ค่อยมองสบตาในช่วงแรกๆ  เงียบเหมือนหิน  ยิ้มยาก  เคร่งขรึมอบอวลอยู่ภายใน  ผมนึกว่าคนจากพื้นล่าง  ขึ้นมารอซื้อของป่า  หรือพูดง่ายๆว่าอาจเป็นพ่อค้าซื้อของป่าสักอย่าง  ซึ่งมักปิดปากเงียบ  ไม่อยากให้รายละเอียดใครต่อใคร  ถึงจุดหมายที่มาของตัวเองต่อคนแปลกหน้าด้วยกัน  และของป่าที่จะซื้อก็ใช่ว่ามันจะเถรตรงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย  หรือจะพูดอีกอย่างว่า  ได้มาง่าย  ได้มาถูกๆ  ได้ของมาโดยไม่เหมือนคนอื่น …
ชนกลุ่มน้อย
ขณะผมนั่งเขียนต้นฉบับ พระสงฆ์ในพม่าออกมาเดินบนท้องถนนเป็นวันที่แปด คนออกมาร่วมเดินไปตามถนนด้วยนับแสนคน ถนนกลางกรุงร่างกุ้งเชิญชวนให้คนออกมาเดิน ดูท่าคนจะเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆผมเห็นทิวแถวพระสงฆ์เหมือนแม่น้ำใหญ่สาละวินหน้าฝน พร้อมถั่งโถมใส่สิ่งกีดขวางทุกอย่าง หอบลงอันดามันสายตานักรบมองจ้องนักบวช ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ สะท้อนถึงเรื่องใด รัฐบาลเผด็จการทหารจะใช้วิธีสลายผู้ชุมนุมด้วยกระสุนปืนอีกหรือไม่ ล้วนเป็นที่จับตามองจากชาวโลกเย็นนี นักศึกษาพม่ากำลังขมักเขม้นทำเพลง ว่าด้วยโศกนาฏกรรมฆ่าประชาชนกลางกรุงร่างกุ้งเมื่อปี 1988 เกือบยี่สิบปีก่อน เขาเลือกเอาเชียงใหม่เป็นสถานที่ทำเพลง…