เครื่องบินลงจอดที่เมืองย่างกุ้งในเวลาใกล้มืด เพื่อนที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเดินเข้าไปถามจุดบริการรถแท๊กซี่ของเอกชนว่ามีรถโดยสารประจำทางไปพุกามในเย็นวันนี้ไหม คนขับรถแท๊กซี่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนฉันถาม และตอบกลับมาว่าจะพาพวกเราไปหาโรงแรมในเมืองย่างกุ้ง เพื่อนฉันบอกคนขับรถแท๊กซี่อีกครั้งว่าพวกเราต้องการไปเมืองพุกามในวันนี้ คนขับรถแท๊กซี่บอกว่าไม่มีเมืองพุกาม เพื่อนฉันจึงพยายามอธิบายถึงหน้าตาเมืองพุกาม พอคุยกันไปเรื่อยๆก็ถึงบางอ้อว่าไอ้ที่คนไทยเรียกว่าพุกาม คนพม่าและคนทั้งโลกเขาเรียกว่าบากัน
พวกเราไปถึงย่างกุ้งค่ำเกินไป รถโดยสารไปบากันออกไปหมดแล้ว จึงจ้างรถแท๊กซี่ในราคา10 USD เพื่อไปหาโรงแรมในเมืองย่างกุ้ง และซื้อตั๋วรถโดยสารไปบากันวันพรุ่งนี้
ตั่วรถจากย่างกุ้ง - บากัน พวกเราซื้อคนละ 18,000 จ๊าด แต่นักท่องเที่ยงบางซื้อ 15,000 จ๊าด
คืนนี้พักโรงแรมย่านอินเดียทาวน์ ถนนหน้าโรงแรมมีตลาดกลางคืนที่คึกคัดมาก มีร้านอาหาร ร้านน้ำชา ร้านผลไม้ ร้านขายอาหารสด กุ้งตัวโตๆ 6 ตัวที่พม่าขายเพียง 3,000 จ๊าด มีร้านขายน้ำเย็นที่ไม่ได้มาจากตู้แช่หรือถังน้ำแข็ง แต่มาจากเครื่องทำน้ำเย็นแบบพิเศษ กลไกลการทำงานของเครื่องนี้ คือ วางน้ำแข็งไว้ในพาชนะคล้ายกรวย มีผ้าขาวบางวางรองน้ำแข็ง จากนั้นเทน้ำเปล่าผ่านน้ำแข็งก็จะได้น้ำเย็น 1 แก้ว
ย่านอินเดียทาวน์ไม่มีสถานบันเทิงยามราตี ไม่ร้านสะดวกซื้อและร้านขายอาหารฟาดฟู้ดที่พวกเราคุ้นเคย นั่นอาจจะเป็นเพราะประเทศพม่าถูกนานาชาติแซงชั่นในด้านการค้าการลงทุน ส่งผลให้คนพม่าไม่มีทางเลือกในการบริโภคเหมือนบ้านเรา
กุ้งสำหรับนักท่องเที่ยวจานละ 3,000 จ๊าด คิดว่าคนท้องถิ่นน่าจะถูกกว่านี้ แม่ค้าหักหัวกุ้งทิ้งก่อนเอาใส่ถุงให้ลูกค้า
ร้านขายน้ำเย็น
มีผู้หญิงเดินไปมาบริเวณนี้ แต่ไม่มีผู้หญิงนั่งที่ร้านอาหาร หรือร้านน้ำชา
หมากสำเร็จพร้อมเคี้ยว สินค้าที่ขายดีที่สุด มีลูกค้ามาซื้อตลอดเวลา
เช้าวันแรกที่ประเทศพม่า พวกเรารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมจัดให้ จากนั้นเหมารถแท๊กซี่ในราคาชั่วโมงละ 4,000 จ๊าดไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์เอาเลิกเอาชัยที่วัดเทพทันใจ และมหาเจดีย์ชเวดากอง สถานที่ 2 แห่งนี้มีคนพม่าจำนวนมากเดินทางมากราบไหว้ด้วยความศรัทธาไม่ขาดสาย จากนั้นไปชมภัตาคารการะเวก และไปต่อที่ตลาดโบโจเพื่อแลกเงินจ๊าด อัตราแลกเปลี่ยนที่ตลาดโบโจดีที่สุดในประเทศพม่า โดย 100 USD แลกได้ 890,000 จ๊าด ในขณะที่อื่นๆแลกได้ประมาณ 800,000 – 850,000 จ๊าด
สถานที่เก็บสร้อยแหวนเงินทองพร้อมทั้งเพชรพลอยในวัดเทพทันใจ ประชาชนเดินทางมากราบไหว้พร้อมทั้งโยนธนบัตรเข้าไปด้านใน พวกเราก็โยนเข้าไปคน 1 ใบ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าสมบัตินี้ได้มาจากไหน และโยนธนบัตรเข้าไปทำไม
คนพม่ากราบไหว้และสรงน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวันเกิดที่อยู่รอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง
นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเสียค่าเข้าชมและสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดาดองคนละ 5 USD กล้องตัวละ 1 USD วัดเทพทันใจต้องเสียเช่นกันแต่จะไม่แพงเท่าที่นี้
ชมเมืองย่างกุ้งพอประมาณแล้วก็กลับมาทานมื้อเที่ยงและอาบน้ำที่โรงแรม จากนั้นไปขนส่งเมืองย่างกุ้งเพื่อเดินทางไปต่อยังเมืองบากัน สำหรับบรรยากาศบนรถโดยสารไปเมืองบากันไม่แตกต่างอะไรจากรถทัวร์ป. 2 บ้านเรา มีเบาะเสริม ไม่มีห้องน้ำ แถมด้วยความบันเทิงเสียงดังตลอดการเดินทาง รถโดยสารออกจากขนส่งเมืองย่างกุ้งเวลา 18.00 น. และไปถึงบากันประมาณตี 5 โดยพักรับประทานอาหารและเข้าห้องน้ำระหว่างทาง 1 ครั้ง
อากาศยามเช้าที่บากันหนาวเย็นพอสมควร เมื่อพวกเราลงรถจะมีคนขับรถม้าเข้ามาเสนอขายบริการนำเที่ยวพร้อมที่พัก พวกเราต่อรองราคานิดหน่อยจากนั้นกระโดดขึ้นรถม้าเพื่อไปหาที่พัก ที่เมืองบากันพวกเราได้ห้องพักสำหรับ 3 คน ในราคา 20 USD เมื่อได้ห้องพักแล้วพวกเราก็ออกเที่ยวทันที ทริ๊ปแรกของวันคือดูพระอาทิตย์ขึ้น
ความสว่างแรกที่เมืองบากัน เจดีย์นับร้อยพันผุดขึ้นกลางทะเลหมอก
หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว พวกเราเริ่มหิวและมีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงให้รถม้าไปส่งที่โรงแรมเพื่อรับประทานอาาหรเช้าและนอนหลับพักผ่อนนิดหน่อย พวกเรานัดรถม้าให้มารับไปเที่ยวอีกครั้งตอนสายๆ โปรแกรมทั้งวันของพวกเราคือชมความงามของเจดีย์ที่มีกว่า 2,000 องค์ และปิดท้ายด้วยการชมพระอาทิตย์ตก