Skip to main content
 
ข่าวคุณ "ไชยวัฒน์ยื่นถวายฎีกาขอนายกฯพระราชทาน"  ทำให้ผมอัศจรรย์ใจกุ้งว่าแกคิดยังไงถึงได้ไปรบกวนเบื้องยุคลบาทแบบนั้น?
 
ผมคาดคะเนว่าคุณไชยวัฒน์อาจคิดแบบใดแบบหนึ่งทำนองนี้นะครับ
 
๑) เรายังอยู่ในการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่ทันเปลี่ยนแปลงการปกครองเลย จึงขอพระราชทานนายกฯจากในหลวงได้ดื้อ ๆ ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย 
 
๒) หรืออย่างเบาะ ๆ ก็คือ ขอยกเว้นประชาธิปไตยไว้ชั่วคราว ใช้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เฉพาะกิจก่อน (ad hoc absolutism) พระราชทานนายกฯคนนี้ลงมา แล้วจบ กลับไปใช้ระบอบประชาธิปไตยใหม่
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ 
 
ซึ่งเรื่องหลังนี้ ในหลวงเคยตรัสครั้งคุณสนธิเรียกร้องแล้วดังต่อไปนี้
 
" ข้าพเจ้ามีความเดือดร้อนมาก ที่เอะอะอะไรก็ขอพระราชทานนายกพระราชทาน ซึ่งไม่ใช่การปกครองแบบประชาธิปไตย. ถ้าไปอ้างมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ เป็นการอ้างที่ผิด. มันอ้างไม่ได้. มาตรา 7 มี 2 บรรทัดว่า อะไรที่ไม่มีในรัฐธรรมนูญ ก็ให้ปฏิบัติตามประเพณีหรือตามที่เคยทำมา ไม่มี เขาอยากจะได้นายกพระราชทานเป็นต้น. จะขอนายกพระราชทานไม่ใช่เป็นเรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นการปกครองแบบ ขอโทษพูด แบบมั่ว แบบไม่มี ไม่มีเหตุมีผล. สำคัญอยู่ที่ท่านที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกา มีสมองที่ ที่แจ่มใส สามารถ ควรที่จะสามารถที่จะไปคิดวิธีที่จะปฏิบัติ. คือ ปกครองต้องมี ต้องมีสภา สภาที่ครบถ้วน ถ้าไม่ครบถ้วน เขาว่าไม่ได้. แต่ก็เขา แต่อาจจะหาวิธีที่จะ ที่จะตั้งสภาที่ไม่ครบถ้วน และทำงาน ทำงานได้. ก็รู้สึกว่ามั่วอย่างที่ว่า. ต้องขอโทษอีกทีนะ ใช้คำว่ามั่ว ไม่ถูก ไม่ทราบใครจะทำมั่ว แต่ว่าปกครองประเทศมั่วไม่ได้ ที่จะคิดอะไรแบบ แบบว่าทำปัดๆ ไป ให้เสร็จๆ ไป. ถ้าไม่ได้ เขาก็โยนให้พระมหากษัตริย์ทำ ซึ่งยิ่งร้ายกว่าทำมั่วอย่างอื่น เพราะพระมหากษัตริย์ ไม่ ไม่มีหน้าที่ที่จะไปมั่ว.ก็เลยขอร้องฝ่ายศาลให้คิดช่วยกันคิด.ว่าเป็นการปกครองแบบมั่ว" 
 
ผู้จงรักภักดีอย่างคุณไชยวัฒน์ย่อมควรน้อมนำพระราชดำรัสองค์นี้ใส่เกล้าใส่กระหม่อมแล้วทบทวนพฤติกรรมการถวายฎีกาของตนกับพวกดูว่าเป็นการระคายเคืองเบื้องยุคลบาทหรือไม่? เป็นการเอาสถาบันกษัตริย์ไปใช้เป็นเครื่องมือการเมืองอย่างสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของสถาบันฯเองแบบคิดสั้นมองสั้นหรือเปล่า?
 
๓) คุณไชยวัฒน์ไม่ชอบนายกฯพระราชทานยิ่งลักษณ์ จะเอานายกฯพระราชทานคนใหม่ จึงขอต่อพระองค์ให้พระราชทานคนใหม่มา แต่นายกฯในระบอบประชาธิปไตยนั้น ในหลวงทรงพระราชทานตามที่ผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งคัดกรองสนับสนุนแล้วถวายรายชื่อแด่พระองค์นะครับ ไม่ใช่ใครหน้าไหนไม่กี่ร้อยกี่พันคนนึกไม่ชอบหน้านายกฯพระราชทานคนนี้ จะเอานายกฯคนโน้นแทน ก็จะไปเรียกเอาร้องเอาจากในหลวงโดด ๆ โดยไม่ฟังเสียงและไม่เคารพอำนาจอธิปไตยของคนไทย ๗๐ ล้านคนเลยได้ มิฉะนั้น ก็จะมีคนเปลี่ยนหน้า ม็อบเปลี่ยนหน้ากาก ไชยวัฒน์บ้าง สนธิบ้าง ชูวัดบ้าง สุทธิบ้าง หน้ากากขาวเขียวเหลืองชมพูน้ำตาลโกโก้กรมท่าน้ำเงินฟ้าสารพัดสี เข้าแถวเรียงรายผลัดกันขอนายกฯพระราชทานคนใหม่คนแล้วคนเล่าเอากับองค์พระประมุขไม่เว้นแต่ละวัน แล้วจะให้พระองค์ทรงทำอย่างไร?

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
"ในฐานะผู้เคยทำการปฏิวัติด้วยความรุนแรง ผมใคร่บอกว่าเราต้องหาทางเจือผสมการปฏิวัติด้วยความไม่รุนแรงให้มากที่สุด เพราะเหตุใดน่ะหรือ? ก็เพราะว่าบรรดาไพร่ทาสราษฎรสามัญชนโดยทั่วไปนั้นหาได้มีอาวุธสงครามในมือเหมือนกลไกรัฐภายใต้การบังคับควบคุมของชนชั้นปกครองไม่.."    
เกษียร เตชะพีระ
กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด
เกษียร เตชะพีระ
เฉพาะหนึ่งปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่ขายในประเทศร่ำรวย อาทิ ญี่ปุ่นและอเมริกา กลับมียอดแซงหน้าในประเทศตลาดเกิดใหม่ จีนไม่ใช่ประเทศที่มีอัตรายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดอีกต่อไป หากกลับเป็นไทย (ที่ ๖๐%!) และอินโดนีเซีย (ที่ ๓๕%) ในรอบปีที่ผ่านมา
เกษียร เตชะพีระ
ก้องกังวานสะท้านฟ้ามหาสมุทร ด้วยคลั่งแค้นแสนสุดประกาศกล้า เป็นแสนเสียงล้านเสียงมหาประชา สยบขวัญสั่นอุราเผด็จการ...
เกษียร เตชะพีระ
"ประชานิยม" "คนชั้นกลางนิยม" "คนรวยนิยม" "อำมาตย์นิยม" "ประชาธิปัตย์นิยม" "ม.๑๑๒ นิยม" "ราชบัณฑิตนิยม" "ยิ่งลักษณ์นิยม" "ทักษิณนิยม" "พันธมิตรนิยม" "นิติราษฎร์นิยม" "นิด้านิยม"