Skip to main content

ความทรงจำบางๆ ที่เมืองเชียงตุง

 
 

ครั้งหนึ่งผมยังจำได้ผมได้ไปเที่ยวเมืองเชียงตุง  เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับคนเมือง ชาติพันธุ์ไทเขิน ไทยอง คนเมือง หรืออื่นๆ  แต่บอกได้คำเดียวเชียงตุงยังคงเป็นเมืองที่บริสุทธ์มาก ทั้งธรรมชาติวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนท้องที่ที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ภาพจาก www.trekkingthai.com

                การเดินทางไปเชียงตุง การเดินทางค่อนข้างยากลำบากพอสมควร เพราะเราเอารถส่วนตัวเดินทางเข้าไป ตั้งแต่ด่านแม่สายพวกเราก็ไปตรวจตราที่ด่านและได้ใบผ่านแดนเพื่อเข้าไปท่องเที่ยวในพม่า (เมืองเชียงตุง) มา ตลอดทางเห็นสภาพวิถีชีวิตคนพม่า วิถีชีวิตการเดินทาง และที่สำคัญเราโดนถามจากพี่น้องทหารพม่ามาตลอดทาง “มาทำไมกันเหรอ”  “มาเที่ยวอะไรกัน” คงไม่แปลกอะไรที่เขาจะถาม เพราะการเมืองพม่าเท่าที่เราทราบๆกันอยู่ ว่าเป็นอย่างไร เส้นทางของการขับรถไปเจอทางที่คดเลี้ยว แต่มีต้นไม้รายรอบเขียวไปหมด ต้นไม้ต้นใหญ่ๆทั้งนั้น  (ปล. เป็นเมืองไทยโดนแอบตัดเรียบ)  บางช่วงทางกำลังสร้างคนยังเอาหินเอาทรายมาลงและกำลังเกลี่ยทางในบางที่  เวลารถผ่านไปมาเขามักเอาเงินโยนไปให้คนงานที่กำลังก่อสร้าง (ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันเขาทำเพราะอะไร) กว่าที่เราจะมาถึงเชียงตุงก็เกือบค่ำ แต่ที่ผมยังทันถ่ายรูปคือภาพเมืองเชียงตุงที่เห็นวิวสวยงาม (โหล่งเมืองเชียงตุง) ซึ่งหมดภาระกิจของวันแรกแล้ว (การเดินทางที่แสนทรหด)

                วันต่อมารุ่งเช้าตรู่ เรานัดกันไปตลาดเมืองเชียงตุง มีอาหารมากมาย ผมจำได้ไม่หมด ทั้งข้าวแคบ เป็ดเป็นๆดิ้นกระแด่วๆ ถั่วเน่า ผมเดินไปๆมาๆ เพลินดูสิ่งที่ผมอยากเห็นและอยากรู้มันเยอะไปหมดเลยครับ สักพักก็เห็นผู้ชายกลุ่มใหญ่เสื้อเขียวสะพายปืนอาก้า นึกว่าอะไรที่แท้ก็พี่น้องทหารพม่าที่เขาเดินตรวจตราความสงบของเมืองอยู่นี่เอง         เราเดินไปมาทั้งตลาดและวัดวาแถวนั้นจนใกล้ๆเที่ยง ผมได้ไปเจอร้านหนึ่งเป็นร้านที่คล้ายๆร้ายก๋วยเตี๋ยว เพราะทำแบบข้าวเกียบปากหม้อ แต่เอาแป้งไปคลี่เป็นแผ่นที่ไอ้น้ำแล้วเอามาตัดเป็นเส้น ใส่ซอสใส่ผักก็อิ่มได้ ผมกินไประมาณ 2 ชามอร่อยดีครับ ชามก็ประมาณชามละ 5 บาท รสชาดอร่อยดีเป็นธรรมชาติหอมมากๆ

 

                ช่วงบ่ายต่อมาเราเดินทางไปดอยอะไรนะ ผมจำชื่อไม่ได้ เพราะมีตำนวนเรื่องปูสร้างเมือง และตำนานที่เกี่ยวข้องอื่นในที่นั้น เหมือนเมืองที่ผมกำลังเข้าไปโลกแห่งนิยาย ณ ที่นั้นเองผมเดินไปเดินมา เห็นหนุ่มน้อยไทเขิน 2 คนกำลังเต๊ะท่าถ่ายรูปอยู่ จึงขอถ่ายรูปเด็ก 2 คนนั้น เด็กก็น่ารักมากมาหวัดดีผมทั้งที่พูดภาษาไทยไม่ชัดนัก “ผมกำลังคิดว่าผมเข้าใจผิดไปสิ้นเชิงนะ ที่ ณ ช่วงหนึ่งเรากำลังปลุกภาพพม่าบุกรุกไทยโดยเอาประวัติศาสตร์มาย้ำ คนที่นี่เขาเฉยไม่ได้คิดอะไรกับเราเลย ผมเสียอีกที่กลับคิดว่าเขากำลังจะทำอะไรผมไหม ผมว่าผมมาครั้งนี้ดีมาก เพราะทำให้ผมได้ประวัติศาสตร์ฉบับกระเป๋าของผมแบบใหม่ มองคนพม่าพี่น้องเราแบบใหม่” กลับเข้าเรื่องครับ  ณ ที่นี่หมู่บ้านนี้เล่นเอาผมอึ้ง เพราะทั้งหมู่บ้านมี โทรทัศน์ 1 เครื่อง ทุกคนจะมาดูรวมกันที่ศาลาดูโทรทัศน์ ค่าดูคนละประมาณ 20 จ๊าต ความจริงก็ประมาณ 1 บาทมั้งผมว่า ทั้งที่บ้านเราเมืองไทยโทรทัศน์มีไม่ต่ำกว่าบ้านละ 1 เครื่องหรือมากกว่านั้น ที่สำคัญมีหมดจอกลม จอแบน ทั้งที่หมู่บ้านนี้มีแค่ให้ดูก็บุญมากโข ผมว่านะครับเมืองเชียงตุงเมืองที่หลากหลายชาติพันธุ์พี่น้องจริง รวมทั้งเมืองแห่งการปลอดแสงสีที่ดีมาก และก็จปทริปวันนี้ของผม

                วันต่อมา วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมอยู่เมืองนี้ก่อนเดินทางไปที่อื่น แต่ก่อนผมเดินทางไปที่อื่นผมได้ไปไหว้พระ ทุกคนครับพระองค์นี้แปลกมากชี้นิ้วลงบนแผ่นดิน  โดยความเป็นคนขี้สงสัยของผม ไม่รู้ว่าถูกที่หรือเปล่าก็ไปไขความลับมา และที่สำคัญก็ทำให้ผมคงเศร้าและได้แง่คิดพอสมควร “ผมก็ไล่สอบถามผู้รู้ทั้งคนแก่ไทลื้อ แถวนั้น ปรากฏได้ความว่า รัฐบาลพม่าเป็นผู้สร้างให้ ผมจึงถึงบางอ้อทันทีนี่คือการเมืองขั้นสูงมากเล่นเอาสัญลักษณ์มาใช้คือ การที่รัฐบาลสร้างพระชี้นิ้วลงที่แผ่นดินนี้ นี่คือแผ่นดินพม่า ไม่ใช่แผ่นดินเชียงตุง อีกต่อไป หมดสิ้นซึ่งหอคำ(วังเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง) หมดสิ้นซึ่งเชื้อเครือเจ้าฟ้าเมืองเชียงตุง หอคำกลายเป็นโรงแรมของรัฐบาลไปในปัจจุบัน เจ้ายอดศึกเชื้อเครือเจ้าฟ้าเจ้าเชียงตุงเจ้าพลัดแผ่นดิน” ผมคงไม่พูดอะไรมากกว่านี้ แต่ที่ผมเห็นแล้วก็อดนึกลึกๆไม่ได้ว่า เมืองเชียงตุงเมืองพี่น้องที่หลากหลาย เมืองแห่งความขัดแย้งในราก เมืองแห่งธรรมมะ และเมืองที่มีความเงียบสงบท่ามกลางอดีตที่ดุดันผ่านมา ผมจึงขอให้คงความสงบและความเป็นแบบนี้ตลอดไป.....ลาก่อนเชียงตุงและผมจะกลับมาเยี่ยมใหม่

 

...............................

บล็อกของ นายหมูแดงอวกาศ

นายหมูแดงอวกาศ
The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต         ก่อนเข้าอ่านเนื้อเรื่อง ผมอยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านของผมลองเข้าไปดูที่ link นี้ก่อนเพื่อดูMVของเรื่องนี้ครับ http://www.youtube.com/watch?v=m52MiAtI7p8 เพื่อเข้าใจความหมายของหนังเรื่องนี้ "คนแรกของหัวใจคนสุดท้ายของชีวิต"   ที่ดูแล้วยังบอกอีกว่า จำความรักครั้งแรกได้ไหม และที่ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าต่อก็เพราะความประทับใจที่ภาษารักของหนังสื่อสารออกมาอย่างละเมียดละไม ทั้งความหมายที่ซ่อนในฉาก หรือแม้แต่การแสดงของตัวละครแต่ละตัวของเรื่อง    ภาพจาก www.siamzone.com     …
นายหมูแดงอวกาศ
กฏหมายอุ้มบุญ ทางแพร่งที่ต้องเลือกเดิน เกริ่นนำ  บทความชิ้นนี้เคยเขียนเพื่อเผยแพร่ครั้งหนึ่งแล้วที่ www.prachatai.com และ www.thaingo.org เพื่อเปิดประเด็นกับสังคมเรื่องกฏหมายรับจ้างตั้งท้องแทน เพื่อขยายมุมมองมากขึ้น ผู้เขียนพยายามวิเคราะห์แนวคิดตนเองลงไปในบทความและนี่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะยังมีประเด็นที่มีความแตกต่างหลากหลายอยู่ ภาพจาก http://babyhothit.blogspot.com/2...399.html      "โดยที่เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธ์ในปัจจุบันได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและได้ช่วยคู่สมรสฝ่ายหญิงซึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ให้สามารถมีบุตรได้ด้วยการให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน…
นายหมูแดงอวกาศ
.... สัมพันธ์ เรารักกัน สายใยผูกพันธ์ แน่นเหนียว หวังช่วยคนจน คนยากจน เด็ดเดี่ยว สามัคคีกลมเดียวใจเดียวกับชุมชน...      เนื้อหาที่ผมนำมาเกริ่นเป็นท่อนต้นของเพลงประจำสถาบัน และครั้งนี้เป็นการอบรมรับเจ้าหน้าที่ใหม่จากหลายส่วน ครั้งที่ 5 โดยหวังเป็นหนึ่งเดียวเรื่องการทำงานรับใช้ชุมชนฐานรากและการทำงานที่เป็นทีมเป็นหนึ่งเดียวในการพัฒนา  แต่เอาเข้าจริงๆ วันที่เขาเดินทางผมเองกับไม่ได้มาพร้อมกัน เพราะผมติดนำเสนองานงานหนึ่งอยู่ จึงต้องตามมาอีกวันหนึ่ง ซึ่งบรรดาเพื่อพี่น้องก็ได้ปีนเขาก่อนหน้าไปเสียแล้ว ซึ่งยอมรับว่าตัวเองมีความเสียดายมาก (…
นายหมูแดงอวกาศ
The devil wear of prada นางมารสวมปราด้า             "The devil wear of prada ดูละครย้อนดูตัวเอง ชีวิตการงานเร่งรีบกระโดดเร้าเข้ามาเหยงๆ อย่างกะกุ้งเต้น เจ้านายจู้จี้ขี้บ่น ทำได้ไหม ทำไม เอาอันนี้มาหน่อย แบบนี้สิดี ไม่เอาไม่เหมาะ พระเจ้า และเราจะจัดการได้อย่างไร หนังเรื่องนี้มีคำตอบและจะสามารถค้นพบตัวเองเป็นหนังในฝันของผมที่อยากเอามาแบ่งปันแม้นานแค่ไหนนะครับ  เพราะดูยังไงก็ไม่เบื่อครับ" ปล.เจ้านายคุณเป็นคนยังไงครับ ลองถามและมาเทียบกับหนังดูดีกว่านะครับ เผื่ออ่านแล้วลองนึกถึงเจ้านายแล้วคุณจะรู้อะไรดีๆๆ   ภาพจาก www.kapook.com  …
นายหมูแดงอวกาศ
เกริ่นนำ  (อะไร และ ทำไม)           บทความดังกล่าวเขียนในช่วง 2551 คงยังจำได้ที่ประเด็นเรื่องการรับบริจาคเลือดจากกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ถูกนิยามว่าเป็นเลือดที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเด็นดังกล่าวจึงต้องหยิบยกมาเล่ากันอีกครั้งหนึ่ง เหมือนเหล้าเก่าเล่าใหม่ ประเด็นคือ ในสังคมคงยังเข้าใจว่าคนรักเพศเดียวกันนั้นยังเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่ รักแล้วเลิก เลิกแล้วฆ่า หรืออื่นๆ และประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้ที่สังคมปิตาไลย (ชื่อฟังยากผู้ชายยิ่งใหญ่)  เพราะทุกคนในโลกนี้ต่างมีสิทธิของตัวเองทั้งสิ้น ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่เสมอ…
นายหมูแดงอวกาศ
กาลครั้งหนึ่ง..ณ ..เมืองปาย   "กาลครั้งหนึ่ง..ณ ..เมืองปาย จากขุนเขาสู่เมืองใหม่ "         ผมเขียนบทความนี้อีกครั้งเพราะเห็นหนังเรื่องหนึ่งที่เผอิญท่องโลก www. และไปเห็น เลยเอามาเขียน  ปายอินเลิฟ และ ผมเองก็คิดถึงปายที่ผมไปเที่ยวมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว  เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักปายเลยแหละครับ(อ้วก เมา หลับคือปาย) และไปเที่ยวปายอีกหลายๆครั้งต่อมาเรื่อยๆเพราะหลงมัน เหมือนการเสพย์ติดเมืองปายเข้าไปแล้ว มีเวลาว่างหน่อยไม่ได้เป็นอันแบกกระเป๋ามาปายทุกทีซินะครับ เฮ้อเที่ยวมากก็หมดเงินไปมากโขอยู่แต่ไงได้มันอยากไป…