ทรงจำหนึ่งเมื่อวัยเยาว์ เมื่อหน้าน้ำ น้ำเต็มนา บ่ไหลจากคลองนั้นออกห้วยนี้ ท่วมถนนนั้น ล้นท่อนี้ สารพัดจะเป็นไป ด้วยว่าไม่มีผู้ใดสามารถขัดขวางทางน้ำได้
วิทยาการสมัยใหม่ที่เปลี่ยนทางน้ำ กักทางน้ำ สร้างทางน้ำ นั่นก็อาจเป็นไปได้ไม่นานนักหรอก โบราณว่าไว้ การขัดขืนวิถีของธรรมชาติ โลกจะวิบัติ ในวาระเวลาอย่างนั้น (หมายถึงเมื่อน้ำท่วมทุ่งในทรงจำ) เป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน เพราะนั่นเป็นวาระของฤดูกาล เป็นวาระที่เป็นไปตามธรรมชาติ สม่ำเสมอ ทุกปีๆ หาใช่เรื่องอุทกภัยพิบัติอะไร แล้วเราก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ด้วยนอกจากว่ามันแปลว่าฟ้าฝนดี ซึ่งมันแปลว่าข้าว และพืชพรรณธัญญาหารก็จะดีแล้ว มันก็จะหมายถึง ปลาที่มากับน้ำ เวลาหน้าน้ำนี่แหละเป็นเวลาที่เราหาปลาได้อย่างสนุกสนานนัก
บางครั้งเราก็ไปนอนที่นา แต่ไม่ค่อยได้นอนหรอก ไปหลายคน ดักตาข่ายไว้ตามทางน้ำไหล วางเบ็ด นั่งคุยกันไป ชั่วโมงสองชั่วโมงเราก็ไปดูตาข่าย ดูเบ็ด เอาปลามา เผาปลากิน นั่งคุยกัน กว่าจะได้นอนก็ค่อนรุ่ง แล้วยังต้องตื่นมาแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง เอาปลาแล้วก็กลับบ้าน หลายครั้ง ปลามันเยอะก็ได้ทำปลาร้าหรือปลาย่าง ก็ว่ากันไปว่าได้ปลาอะไรบ้าง
บรรยากาศเหล่านี้ลบเลือนหายไป เมื่อเราเริ่มโต และออกเดินทางจากหมู่บ้าน พวกทั้งหลายเดินทางจากไป เมื่อเราเดินทางผ่านทุ่งชนบททุกหนแห่ง เราจะพบแต่คนเฒ่า และเด็กน้อยเต็มไปหมด แต่หามีคนหนุ่มสาวไม่ หรือถ้ามีก็น้อยเหลือเกิน นั่นเพราะทุกทุ่งทางชนบท ก็ล้วนเป็นไปในวิถีแบบเดียวกับบ้านของเรา
จวบจนเมื่อเรากลับมาบ้าน หลังจากผ่านเวลาไปยาวนาน ที่บ้าน....ถนนหนทางสะดวกสบายมากแล้ว ไม่มีถนนโคลนเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีถนนฝุ่นแบบเก่า ร้านค้าร้านขายเต็มไปหมด แทบจะเหมือนในตลาด เข้าไปอำเภอก็กลายเป็นเมืองใหญ่ขึ้น ถนนในตลาดที่เคยเดินข้ามได้สบาย ที่มีทา.รถวิ่งสวนกันได้สองคัน ที่เขาเรียกว่าถนนสองเลน บัดนี้มันกลายเป็นหกเลนมีเกาะกลางถนน แล้วก็ไฟแดง...นั่นก็ว่าไป มันจะสำคัญหรือไม่อย่างไรก็ช่างเถิด
กลับมาว่าถึงเรื่องน้ำ สองสามปีถึงหลายปีมานี้ น้ำหลากท่วมหลายถิ่นทาง ซึ่งความจริงถ้าโลกดำเนินไปอย่างเป็นปรกติ มันก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาที่น้ำท่วมทุ่ง แต่โลกกลับไม่ได้ดำเนินไปในวิถีธรรมดา นั่นหมายความว่า เมื่อฝนตกมาก น้ำท่วม ใช่เราเห็นน้ำท่วมทุ่งเจิ่งนองทั้งสองฝั่งถนนระหว่างทาง บางแห่งมีผู้คนยกยอ หรือทอดแหหาปลา แต่มันไม่ได้เป็นเวลาแห่งความสนุกสนานเหมือนดังแต่ก่อนแล้ว เพราะมันมักมีข่าวร้ายมาพร้อมกับวาระน้ำหลากนี้เสมอ เป็นต้นว่า บ้านเรือนเสียหาย คนหายไปกับน้ำ หรือไม่ก็ตาย ต่อมา ข้าวกล้าเสียหาย ถนนหนทางขาด รถวิ่งไม่ได้ .....
ฟังว่า ปีนี้ฝนดี น้ำท่วมทั่วทุ่ง ข้าวก็ดี ปลาก็ดี นั่นก็น่ายินดี แต่มีบางภาวะที่เรารู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม เหมือนว่าเมื่อเรากลับมาเจอฤดูน้ำหลากที่บ้านปีนี้ วิถีแห่งโลกก็เปลี่ยนไปแล้ว