ตาตื่นก็ตื่นตา ณ เวลาของเช้าใหม่
กลิ่นฝนยังกรุ่นไอ กับลมพัดยังพลิ้วโชย
ก่อนแดดจะแรงส่อง ก่อนสัตว์ผองจะหิวโหย
ก่อนฝนหยาดเม็ดโปรย เห็นผีเสื้อออกโบยบิน
ไม่กี่วันยังเป็นหนอน กัดแซะกร่อนใบไม้กิน
ยังเห็นยังได้ยิน ดั่งเม็ดน้ำที่อาบพรม
เช้านี้เป็นผีเสื้อ ปีกใสเจือเขียวผสม
บางอ่อนบินเล่นลม อันแผ่วพลิ้วที่พัดพา
เป็นเช้าอันสดใส ผีเสื้อใหม่ขับเน้นค่า
สวนชีวิตเปล่งชีวา ได้ชื่นชมความงดงาม
เท่านี้ก็ดีนัก ประจักษ์แจ้งในนิยาม
วิญญาณได้เติมตาม ให้ค้นพบบางสิ่งค้น
เพียงปีกของผีเสื้อ ยังเอื้อเฟื้อวิถีคนบันดาลใจบันดล ให้รู้ค่าชีวิตแท้
ไม่หมดก็ส่วนหนึ่ง คงลึกซึ้งอยู่เป็นแน่
เคลื่อนความอันผันแปร เป็นเสี้ยวหนึ่งซึ่งค้นพบ
นาโก๊ะลี
เมื่อยังเด็ก เราไม่รู้ว่าเมื่อบ้านเราฝนตกนั้น บางแผ่นดินที่ไกลออกไป ฝนไม่ตก เรารู้เพียงแต่ว่าฝนตก กับฝนไม่ตก เวลาต่อมา พอรู้ความมากขึ้น เราเริ่มเห็นม่านฝนที่พุ่งตรงมาหาเรา แล้วก็กลายเป็นฝนตก แต่นั่นก็ไม่ทำให้เรารู้ว่า บางแห่งบนแผ่นดินที่ไกลออกไป ฝนไม่ตก โตขึ้นมาอีกนิด เมื่อบ้านเราฝนตก เราก็เริ่มได้ยินมาว่า มีบางแห่ง ฝนไม่ตก เราจึงเริ่มจินตนาการ ถึงรอยต่อระหว่างที่ๆ มีฝน กับที่ๆ ไม่มีฝน เราคิดว่าตรงรอยต่อนั้นมันจะเหมือนเรารดน้ำต้นไม้ เมื่อเราเทน้ำแรงๆ มันก็เป็นสายน้ำเทลงไป ตรงที่มีน้ำก็คล้ายสายฝน และมันก็ตัดไปเฉยๆ กับที่ๆ ไม่มีฝนนั้น