Skip to main content

วันเวลาเคลื่อนคล้อยไปจนใกล้สิ้นปี สายรุ้งและแม่ผ่านวันเวลาร่วมกันมาอย่างกล้าหาญ เช่นเดียวกับต้นไม้ที่ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางลมพายุ รู้จักการโอนเอนตามแรงลมเมื่อพายุกระหน่ำหนักในขณะที่รากนั้นยึดเกาะดินไว้อย่างมั่นคง

สายรุ้งมีอายุเพิ่มมากขึ้นอีกปี การผ่านวันเวลาไปจนมีอายุเพิ่มขึ้นหนึ่งปีนั้นอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอื่น ๆ แต่สำหรับแม่ของสายรุ้งแล้ว เธอรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่มีความหมาย และความสำคัญอย่างยิ่งยวด
เธอตระหนักถึงคุณค่าของแต่ละวินาที และรู้ว่ากาลเวลาในหนึ่งวินาทีของเธอกับของคนอื่นนั้นแตกต่างกันด้วยเหตุว่าเธอมีมาตรวัดความยาวนานของเวลาต่างออกไป ส่วนสายรุ้งอาจยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจในเรื่องนี้

“ปีใหม่ลูกอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรืออยากให้แม่พาไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า”
“ไม่ครับแม่”
สายรุ้งตอบ “ผมมีความสุขดีอยู่แล้ว ของเล่นผมก็มีเยอะแล้ว ไม่อยากได้อะไรอีก แต่ผมอยากไปเที่ยวครับ เอาไว้หลังปีใหม่เราค่อยไปเที่ยวก็แล้วกันเพราะผมรู้ว่าแม่ไม่ชอบออกไปไหนตอนเทศกาลที่มีคนเยอะ ๆ”

“ถ้างั้นเราจัดงานเลี้ยงรับปีใหม่กันที่บ้านดีไหมลูก”
“ดีครับ แลกของขวัญกันด้วย ผมจะชวนเพื่อนที่โรงเรียนมาด้วย”
“เอาสิลูก แม่กับน้ามลจะเตรียมอาหารไว้ให้”

วันสิ้นปีมาถึงแล้ว ไปที่ไหนก็ได้ยินแต่เสียงอึกทึก เสียงร้องเพลงดังอยู่ทั่ว  สายรุ้งพลอยรู้สึกคึกคักไปด้วย แต่บางทีสายรุ้งก็รู้สึกสงสัยเมื่อเห็นคนเมาเหล้าทั้งชายและหญิงโซซัดโซเซเหมือนคนเสียสติ สายรุ้งสงสัยว่าคนที่อยู่ในสภาพนี้จะมีความสุขได้อย่างไร

 

อากาศเย็นสบายตั้งแต่เช้า ที่หน้าบ้านของสายรุ้งมีหมอกลงด้วย สายรุ้งเดินห่อตัวด้วยความหนาว นกสัญจรที่มากินลูกไม้ร้องเรียกสายรุ้งตั้งแต่เช้ามืด แม้จะไม่ได้ทำรังอยู่ใกล้ ๆ แต่ฝูงนกก็มาที่นี่ทุกวัน มาหาลูกไม้และแมลง

พอตื่นขึ้น สายรุ้งก็สาละวนกับสัตว์เลี้ยงหลากชนิด เอาอาหารให้กระรอกที่วิ่งลุกลี้ลุกลนอยู่บนต้นไม้โดยมีสุนัขคอยล้อมหน้าล้อมหลัง เจ้าเต่าคลานต้วมเตี้ยมเข้ามาหาโดยไม่เกรงกลัวสุนัขที่จ้องมองด้วยสีหน้าฉงน  
แม่ตื่นนานแล้ว ตระเตรียมข้าวของสำหรับงานเลี้ยงส่งวันสิ้นปีและต้อนรับรุ่งอรุณแห่งวันใหม่และปีใหม่ที่กำลังเดินทางมา เธอแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าทางทิศตะวันออกที่ซึ่งดวงอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาเป็นสัญญาณวันใหม่ทุก ๆ วัน  

งานนี้จัดขึ้นเพื่อสายรุ้งโดยเฉพาะ แม่กลัวว่าสายรุ้งจะรู้สึกเงียบเหงาในขณะที่คนอื่นพากันครึกครื้น แสงแดดที่เริ่มร้อนขึ้นขับไล่ความหนาวยามเช้าให้จางจากไป คุณตา น้ามลและเด่นเดินมาพร้อมกัน
“ไง สายรุ้ง” เด่นทักทาย
“แม่อยู่ในครัวครับ” สายรุ้งบอกน้ามล
“เราไปขี่จักรยานออกกำลังกายกันดีกว่า” เด่นชวน ฉวยจักรยานขึ้นมานั่งคร่อม “ถ้าเจอเพื่อนเราก็ได้ชวนมันมาด้วย”
“อย่าออกไปไกลนะ”
คุณตาพูด

พอเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงเสร็จแล้ว คุณตากับน้ามลก็ขอตัวกลับบ้านและจะมาอีกทีตอนเย็น ส่วนเด่นอยู่กับสายรุ้งและเพื่อน ๆ อีกหลายคนที่ไปชวนมา พวกเด็ก ๆ สรรหากิจกรรมมาเล่นหัวกันได้ไม่รู้เบื่อ
ญาติและเพื่อนบ้านมาพร้อมกันอีกครั้งในตอนเย็น เด็ก ๆ กินขนมอิ่มแล้วแต่ก็สามารถกินเพิ่มได้อีก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสุขกับการกินเป็นอย่างมาก

แล้วรายการที่เด็กหลายคนรอคอยก็มาถึงนั่นคือการจับสลากของขวัญ  สายรุ้งค่อยแกะของขวัญที่จับสลากได้ ปรากฎว่าเป็นหนังสือนิทานที่มีทั้งนิทานพื้นบ้านและเทพนิยาย สายรุ้งพอใจกับของขวัญชิ้นนี้มาก

“มา  สายรุ้งมาหาตาหน่อย” คุณตาเรียก
“สายรุ้งเดินเข้าไปหา”
“ขอพรแห่งความดีทั้งหมด ดลบันดาลให้สายรุ้งเติบโตขึ้นอย่างเข็มแข็ง เป็นที่รักใคร่ของทุกคนที่พบเห็น”
คุณตาพูดแค่นั้น ที่จริงคุณตามีอะไรที่ต้องการจะพูดอีกมาก แต่ก็พูดไม่ออก  จากนั้น น้ามลและเพื่อนบ้านต่างก็อวยพรให้สายรุ้ง ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งดี ๆ ทั้งนั้น!

“แม่ไม่อวยพรให้สายรุ้งเหรอครับ” สายรุ้งถาม
แม่ยิ้มและตอบว่า “แม่ขอให้ลูกไต่เส้นสายรุ้งไปสู่ความฝันที่ซึ่งลูกจะมีแต่ความสุข และความรัก ที่ซึ่งแม่จะได้รักลูก ได้เลี้ยงลูกอีก”  

แม่เต็มไปด้วยอารมณ์เมื่อกล่าวคำเหล่านี้ แม่น้ำตาคลอด้วยซ้ำ แต่สายรุ้งไม่ค่อยเข้าใจคำอวยพรของแม่นัก เขารู้แต่เพียงว่ามันต้องเป็นพรปีใหม่จากหัวใจของแม่ แม่ที่เขารักและรักเขา.

 

บล็อกของ นาลกะ

นาลกะ
เย็นวันหนึ่ง สายรุ้งออกไปเล่นฟุตบอลเหมือนเคย แต่วันนี้แม่ของเขาไม่ไปด้วย เพราะมีเพื่อนของแม่มาหาที่บ้าน สายรุ้งจึงไปกับเด่นสองคน สายรุ้งใส่ชุดกีฬาสีขาวตัวโปรด ใส่รองเท้าสีแดงที่แม่เพิ่งซื้อให้ใหม่ ส่วนเด่นใส่สีแดงทั้งชุด“ใส่ชุดนี้แล้วทำประตูได้ทุกที” เด่นคุย สายรุ้งนำฟุตบอลไปด้วย เขาใส่ไว้ในตะกร้าด้านหน้าของจักรยาน แล้วก็บึ่งไปยังสวนสาธารณะพร้อมเด่นเหมือนเคย มีเพื่อนบางคนรออยู่แล้ว พวกเขากำลังเล่นลิงชิงบอลกันอยู่เป็นการวอร์มร่างกาย จากนั้นก็แบ่งทีมกัน พอแบ่งทีมเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เล่น แต่วันนี้มีเด็กสองคนที่สายรุ้งไม่เคยเห็นมาก่อนมาขอเล่นด้วย“สองคนนี่เพิ่งย้ายมา” เด่นกระซิบ “…
นาลกะ
ตอนนี้ปิดเทอมแล้ว สายรุ้งใช้เวลาอยู่กับแม่เกือบตลอด มีเพียงที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเด่นหรือไปที่บ้านคุณตาเท่านั้นที่ห่างจากสายตาแม่ คุณตาจะสอนให้เขาปลูกต้นไม้ ให้เขาเห็นความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อชีวิตและต่อสิ่งแวดล้อม“ต้นไม้แทบไม่เหลือแล้ว” คุณตาบ่น “มีแต่หมู่บ้านจัดสรร”,คุณตาชอบบ่นเกี่ยวกับหมู่บ้านจัดสรรอยู่บ่อย ๆ คุณตาบอกว่าหมู่บ้านจัดสรรทำลายสิ่งแวดล้อม แต่สายรุ้งยังไม่เข้าใจว่าหมู่บ้านจัดสรรจะทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรแม่จะหาโอกาสพาสายรุ้งไปทำกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้งเพื่อไม่ให้สายรุ้งเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน   เย็นวันหนึ่งแม่พาสายรุ้ง เด่นและสุนัขโอเว่นไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ…
นาลกะ
เมื่อมะม่วงต้นใหญ่ที่หน้าบ้านหักโค่นลง คุณปู่ เด่น และสายรุ้งก็จัดการเลื่อยออกเป็นท่อน ขัดอย่างดี แล้วทำเป็นโต๊ะกับม้านั่ง สายรุ้งมักจะชอบนั่งทำการบ้านตรงนั้น สัตว์หลากชนิดที่เลี้ยงไว้ก็จะเข้ามาห้อมล้อมสายรุ้ง โดยเฉพาะเจ้าโอเว่น สุนัขแสนรู้ ที่ชอบกระโดดให้ดูอยู่เสมอแล้วเวลาที่เด่นหรือเพื่อน ๆ มาหาสายรุ้งที่บ้าน โอเว่นก็มักจะอวดการกระโดดสูงให้เพื่อน ๆ ของสายรุ้งชม แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับโอเว่น จนต้องนอนซมไปหลายวัน คืนหนึ่งมีฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาทั้งคืน ลมก็พัดแรง แล้วพอรุ่งเช้าปรากฏว่ากิ่งไม้หักรานไปหลายกิ่งเพราะแรงลมพัดกระหน่ำ ใบไม้หล่นเกลื่อนกราดเต็มลานหน้าบ้าน…