เมืองสายรุ้ง (12)

29 October, 2007 - 00:13 -- nalaka

เย็นวันหนึ่ง สายรุ้งออกไปเล่นฟุตบอลเหมือนเคย แต่วันนี้แม่ของเขาไม่ไปด้วย เพราะมีเพื่อนของแม่มาหาที่บ้าน สายรุ้งจึงไปกับเด่นสองคน

สายรุ้งใส่ชุดกีฬาสีขาวตัวโปรด ใส่รองเท้าสีแดงที่แม่เพิ่งซื้อให้ใหม่ ส่วนเด่นใส่สีแดงทั้งชุด
“ใส่ชุดนี้แล้วทำประตูได้ทุกที” เด่นคุย

สายรุ้งนำฟุตบอลไปด้วย เขาใส่ไว้ในตะกร้าด้านหน้าของจักรยาน แล้วก็บึ่งไปยังสวนสาธารณะพร้อมเด่น
เหมือนเคย มีเพื่อนบางคนรออยู่แล้ว พวกเขากำลังเล่นลิงชิงบอลกันอยู่เป็นการวอร์มร่างกาย จากนั้นก็แบ่งทีมกัน พอแบ่งทีมเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เล่น แต่วันนี้มีเด็กสองคนที่สายรุ้งไม่เคยเห็นมาก่อนมาขอเล่นด้วย

“สองคนนี่เพิ่งย้ายมา” เด่นกระซิบ “อยู่โรงเรียนเดียวกับเราด้วย”
สายรุ้งเลี้ยงบอลด้วยเท้าซ้ายและขวาอย่างคล่องแคล่ว เขามีความถนัดทั้งขวาและซ้ายพอกัน   เวลาทำการบ้าน เมื่อเขาเขียนหนังสือด้วยมือขวาจนเมื่อยแล้ว เขาก็เปลี่ยนเป็นเขียนด้วยมือซ้ายแทน

บอลหลุดจากเท้าซ้ายไปยังเท้าขวาของสายรุ้งไม่มีพลาด เขาครองบอลอยู่อย่างนั้น ต่อเมื่อหลบหลอกคู่ต่อสู้ได้แล้ว สายรุ้งก็จะส่งให้เด่น เด่นจะใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายบังฟุตบอลเอาไว้ และคอยหมุนหนีไปเรื่อย ๆ

เด่นแข็งแรงประเปรียว  ใช้ไหล่เบียดไหล่และไม่ยอมให้ใครแย่งบอลจากการครอบครองไปได้ง่าย ๆ  

ขณะที่เด่นกำลังครองบอลอยู่นั้น มีใครคนหนึ่งเข้ามาเบียดแย่งบอล แต่เด่นใช้ไหล่กันไว้ เด็กคนนั้นเลยใช้ไหล่กระแทก เด่นจึงใช้ไหล่กระแทกกลับไป กระแทกไป กระแทกมา เด็กคนนั้นก็พูดขึ้นด้วยอารมณ์ว่า
”เล่นอย่างนี้มาต่อยกันดีกว่า!”

พอเด็กคนนั้นพูดขาดคำ เด่นก็ต่อยเปรี้ยงเข้าที่หน้าอย่างว่องไวราวกับนักมวยอาชีพ เป็นผลให้เด็กคนนั้นล้มทั้งยืน 

สายรุ้งไม่เคยเห็นเด่นดูน่ากลัวอย่างนี้มาก่อนเลย พอเด็กคนนั้นล้มลง เด่นทำท่าจะเข้าไปเตะซ้ำ แต่สายรุ้งห้ามไว้ ทันใดนั้นเองที่เพื่อนของเด็กคนนั้นปราดเข้ามาต่อยเด่น โดยที่เด่นไม่ทันระวังตัว

เด็กคนที่ล้มลงลุกขึ้นในฉับพลันทันที และวิ่งเข้าใส่เด่นอีกคน เด่นจึงถูกรุม ล้อมหน้าล้อมหลังด้วยเด็กสองคน เป็นเด็กสองคนที่เพิ่งย้ายมาใหม่  พวกผู้หลักผู้ใหญ่ไม่มีใครคิดจะห้ามเลย ดูเหมือนพวกผู้ใหญ่อยากเห็นเด็กชกต่อยกัน

สายรุ้งจึงเข้าไปช่วยเด่น เขาพยายามแยกไม่ให้ต่อยกัน สายรุ้งกระโดดเข้าไปขวาง แต่ไม่มีใครหยุด ทั้งสามคนกำลังโกรธ สายรุ้งพยายามจะช่วยเด่นโดยการผลักเด็กคนหนึ่งออกไป เด็กอีกคนหนึ่งจึงต่อยสายรุ้งทันที สายรุ้งเซถลาราวนกปีกหัก เขาไม่เคยโดนใครต่อยมาก่อนเลย 

เมื่อเห็นดังนั้น เพื่อนที่เล่นอยู่ด้วยกันทั้งหมดจึงกรูเข้าไปช่วยสายรุ้งเพราะสายรุ้งเป็นที่รักของเพื่อนทุกคน

เด็กสองคนนั้นยอมแพ้ในที่สุด หน้าบวมเป่ง ริมฝีปากมีเลือดไหล แต่เด่นกับสายรุ้งก็สะบักสะบอมไม่น้อยเหมือนกัน

สายรุ้งและเด่นพากันกลับบ้านในสภาพสะบักสะบอม มีเพื่อนบางคนเดินมาส่ง พวกเขาพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นด้วยความตื่นเต้น สายรุ้งเองก็ตื่นเต้น เขาไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนกล้าหาญหรือเปล่า เขาเพียงแต่ทนไม่ได้ที่เห็นเด่นถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา

“แม่ของนายต้องดุฉันแน่” เด่นว่า
สายรุ้งไม่พูดอะไร เขารู้ว่าแม่จะต้องเสียใจที่เห็นเขาเจ็บปวดและแม่จะต้องเจ็บปวดมากกว่าที่เขาได้รับ แต่ที่จริงเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย เขาแค่โดนต่อยเท่านั้นเอง และคนที่ต่อยเขาก็ถูกคนอื่นรุมต่อยจนยอมแพ้ไปแล้ว ที่จริงน่าเห็นใจเด็กหน้าใหม่สองคนนั้นด้วยซ้ำ พวกเขาไม่มีเพื่อน

“เสียดายที่โอเว่นไม่มาด้วย” เด่นพูด “ไม่งั้นสองคนนั้นจะโดนงับจนจมเขี้ยวแน่”
“ไม่มาน่ะดีแล้ว” สายรุ้งว่า

แม่ตกใจจนหน้าซีดเมื่อเห็นสภาพของสายรุ้ง ริมฝีปากด้านหนึ่งของเขาบวมผิดรูป ดวงตาคล้ำเพราะแรงกระแทก  
“ลับตาแม่นิดเดียว ก็เกิดเรื่อง” เธอพูด
“ผมผิดเองครับ” เด่นว่า
“เล่าให้ฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้น”
เด่นจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด “เป็นความผิดของผมเอง” เด่นพูดอีกครั้ง
“ผมไม่เป็นไรหรอกแม่” สายรุ้งพูด

แม่ทำแผลให้สายรุ้งและเด่น เด่นดูยับเยินกว่าสายรุ้ง มีเลือดไหลออกมาจากจมูกเขาด้วย รอบดวงตาเขาบวมเป่งไม่น้อย
“แม่ไม่สบายใจเลยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ผมจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก” เด่นรับคำ
“ผมก็จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกครับ” สายรุ้งรับคำด้วยเช่นกัน

หลานที่จากไป

26 March, 2010 - 00:00 -- nalaka

-1-

หลานเกิดปีเดียวกับที่ผมเดินทางออกจากบ้าน มุ่งหาประสบการณ์และไล่คว้าหาความหมายของสิ่งที่เรียกว่าชีวิต  คืนวันของหลานที่เติบโตขึ้นด้วยความเอาใจใส่ของพ่อแม่คือจำนวนเวลาที่ผมจากบ้านเกิดเมืองนอน

เล็กน้อยอย่างที่เห็นแต่เป็นโลกทั้งใบ

14 March, 2010 - 00:00 -- nalaka

 

 
คงเป็นเพราะรูปเล่มงามตาน่าหยิบจับและเครดิตก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องที่บอกว่า
เล็กน้อยมากจนสามารถนั่งอ่านข้าง ๆ เตียง ยิ่งใหญ่มากจนสามารถเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตเร้าความสนใจให้เปิดพลิกและลงมืออ่าน

สนามหลวงไม่เหมือนเก่า

1 March, 2010 - 00:00 -- nalaka

-1-

ฉันเดินตัดผ่านสนามหลวงเพื่อไปขึ้นรถเมล์กลับหอพักเกือบทุกวัน เรื่องราวที่แทบจะเป็นแบบฉบับและเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ที่ได้พบเห็นจากผู้คนแห่งสนามหลวงวันแล้ววันเล่า ทำให้เกิดภาพประทับในใจโดยไม่รู้ตัว


เมื่อฉันได้รู้จักกับสนามหลวงมากขึ้น ฉันก็ได้พบว่าสถานที่แห่งนี้เปี่ยมไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาอย่างแท้จริง ที่แห่งนี้มีเรื่องราวชีวิตของคนระดับล่างมากมาย แต่ละคน แต่ละชีวิตนั้นน่าจะปรากฏอยู่ในนิยายมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง คนเหล่านี้ไม่ควรจะมีอยู่จริง!

ลูกผู้ชายหัวใจมีรัก : หัวใจที่ไม่เคยอิ่มเต็ม

21 October, 2009 - 00:00 -- nalaka

ลูกผู้ชายหัวใจมีรัก(Man and Wife)” คือนิยายอันละเมียดบรรจงของ Tony Parsons เป็นผลงานภาคต่อจาก “ลูก(ผู้)ชายหัวใจคุณพ่อ (Man and Boy)” ซึ่งเคยสร้างความเกรียวกราวในแวดวงนักอ่านได้มากพอสมควร(ผมเคยวิจารณ์ไว้แล้วที่ http://blogazine.prachatai.com/user/nalaka/post/1562 ) ฝีมือแปลโดย ภัสรี สิงหเดช

 

พ่อผมไม่เคยฆ่าใคร : เรื่องเล่าของเด็ก ตลกร้ายของผู้ใหญ่

16 September, 2009 - 00:00 -- nalaka

โดยทั่วไปแล้ว หนังสือของสำนักพิมพ์ “ผีเสื้อ” สามารถการันตีคุณภาพ(แต่ไม่การันตียอดขาย) ได้ในระดับหนึ่ง เรียกได้ว่าไม่มีคำว่าผิดหวังในแทบทุกเล่มเพราะว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นวรรณกรรมแปล! “พ่อผมไม่เคยฆ่าใคร” ซึ่งเขียนโดย ฌ็อง-หลุยส์ ฟูร์นิเย่ร์ และแปลโดย วัลยา วิวัฒน์ศร ก็เช่นเดียวกัน