ผมมีโอกาสได้อ่านคำถาม 9 ข้อที่พี่ดี้ ถาม ผมคิดว่าบางคำถามนั้นดีมากๆ แต่อยากแลกเปลี่ยนมุมมองว่า จริงๆ แล้วพี่ดี้ มองข้ามคำตอบบางอย่างไปหรือเปล่า และตกหล่นข้อเท็จจริงในปัจจุบันไปหรือเปล่า จึงขอทวนคำถามและตอบคำถามทั้งหมด ดังนี้
1.มึงจะเป็นคนเลือก…มึงจะเลือกใครวะ มึงก็เลือกมาแล้วหลายที เลือกมาแล้ว มันก็งั้น ๆ จะเลือกหรือไม่เลือก ก็ไม่เห็นแตกต่าง
ตอบ: ใช่ คำถามพี่ดี้มาถูกทาง ปัจจุบันสังคมไทยอยู่ในวังวนของการ 'ไม่มีทางเลือก' แต่การไม่มีทางเลือกมันเป็นปัญหา 'เชิงระบบ' ระบบการเลือกตั้งที่ทำให้สองพรรคใหญ่เข้มแข็ง 'เกินไป' และก็การเป็นการแข่งขันกีฬาสี ดังนั้น ทางแก้คือ เปลี่ยนระบบเลือกตั้งให้มีพรรคการเมืองทางเลือก พรรคใหม่เกิดได้ง่าย เป็นพรรคอุดมการณ์ มีข้อเสนอปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรม แต่... รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันพร้อมทั้งกฎหมายลูก ทำให้ระบบการเมืองไม่สามารถมี 'พรรคทางเลือก' ใหม่ๆ ได้ ระบบเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียวก็ดี กฎหมายพรรคการเมืองก็ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้สิ่งที่พี่ดี้อยากได้ไม่เกิดชึ้นจริง
2.หรือกูจะเสนอตัวเป็นคนให้เขาเลือก….กูจะได้ไปทำแบบที่กูคิดไว้ว่าดี แต่กูจะไปสมัครที่ไหน พรรคไหน เขาจะรับกูไหมถ้าเขารู้ว่า กูไม่ชอบคำว่า “มติพรรค”
ตอบ: กลับมาที่คำตอบข้อแรก คือ พี่ดี้ต้องมีสิทธิในการตั้งพรรคใหม่ได้ง่าย เป็นพรรคที่รวมคนมีอุดมการณ์ มีเสรีภาพในการเสนอ อภิปราย ลงมติโดยไม่ต้องสนมติพรรค แต่ถึงที่สุดก็ต้องวนกลับมาที่การแก้รัฐธรรมนูญ ระบบเลือกตั้ง กฎหมายลูกพรรคการเมือง กฎหมายการเลือกตั้ง ไม่งั้นสิ่งที่พี่ดี้หวังไม่มีทางออก และทางที่มีอยู่ก็ไม่ใช่ทางออกอยู่ดี
3.รัฐธรรมนูญไม่ให้คนลงการเมืองเป็น สส.อิสระ ต้องอยู่ในพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น ต้องทำตามมติพรรค…เออ แค่นี้ก็เผด็จการในพรรคละ ประชาธิปไตยตรงไหนวะ
ตอบ: เรื่อง สส.อิสระ มีการเสนอกันมานาน และมีความต้องการให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องนี้ สิ่งที่พี่ดี้ต้องการคือประชาธิปไตยที่แท้จริง แล้วใยต้องกลับไปสู่วังวนเผด็จการทหาร ที่ไม่ได้ตอบสนองสิ่งที่พี่ดี้ต้องการ
4.แต่ถ้าอิสระได้หมด..ใครอยากสมัครเป็นผู้แทน ก็อิสระ ก็เข้าใจได้เลยว่า ส่วนหนึ่งอาจจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูงที่จะทำงานเพื่อชาติโดยไม่คิดถึงพวกพ้อง….แต่ส่วนที่เป็นปัญหาคือ…แม่งพร้อมจะขายตัวยกมือ….คือเป็นกะหรี่การเมืองขายปลีก….วุ้ย กลุ้มใจ
ตอบ: ก็ถ้ามันมีทางเลือกให้พี่ดี้ได้ตั้งพรรค ได้ลงสมัครอิสระ หรือร่วมหาผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน จะกลัวอะไรเล่า หรือไม่ไว้ใจตัวเอง? ก็ถ้าพื้นที่มันเปิดให้คนแบบพี่ดี้ได้ทำงาน ก็อย่าไปคิดแทนคนอื่นเลย เพชรก็คือเพชร คนเลือกไม่ได้โง่หรอก
5.งั้นขอตั้งพรรคใหม่ละกัน…ชาวบ้านธรรมดาที่ก็เป็นคนไทยที่อยากทำงานให้บ้านเมือง ที่ไม่ใช่สองสามพรรคใหญ่นั่น…ตั้งพรรคใหม่แล้วจะรอดไหมจ๊ะ
ตอบ: ถ้าตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กฎหมายลูกตอนนี้ ระบบเลือกตั้งตอนนี้ ตั้งพรรคใหม่ยังไงก็ไม่รอด มีทั้งเงื่อนไขระบบเลือกตั้งที่ต้องส่งผู้สมัครรายเขตถึงจะได้ที่นั่ง(พรรคเล็กยังไงก็เสียเปรียบ) ไหนจะการหาสมาชิกพรรคในกรอบเวลาที่สั้นมาก ต้องหาทุนประเดิมอีก เผลอๆ กลับไปแบบอดีตจะรอดมากกว่า แบบพรรคเล็กอย่างคุณชูวิทย์ เป็นต้น พูดง่ายๆ คือ ทางเก่ายังพอรอด ทางปัจจุบันตายสนิด ต้องแก้ทุกสิ่งในวันนี้เพื่อทางเลือกทางรอดในวันข้างหน้า
6.ต่อจากข้อที่ห้า…การอยากอาสาเข้าไปทำงานการเมือง ต้องมีเงินแค่ไหน…ต้องมีเงินด้วยหรือ
ตอบ: ก็ต้องแก้กฎหมายให้ส่งเสริมพรรคการเมือง อย่ามองว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรก ต้องมีทุนสนับสนุน ให้การสนับสนุนสมาชิกพรรคกับพรรค เน้นการมีส่วนร่วม เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชน โดยไม่ใช่ต้นทุนส่วนตัวมากจนเกินไป กลับมาที่ปัญหาเดิมคือ กฎหมายและรัฐธรรมนูญปัจจุบันก็ไม่ตอบโจทย์พี่ดี้อีกแล้ว
7.คนจน คนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือน รวมเงินได้ ตั้งพรรคได้ไหม อันนี้ถามจริงๆ…หมายถึงไม่ใช่แค่ตั้งพรรคไปอย่างสิ้นหวังนะ…อันนั้นรู้ว่ามีกฎหมายว่าตั้งพรรคได้…แต่พรรคเบี้ยน้อยหอยน้อยมันเคยเกิดขึ้นไหม
ตอบ: พรรคแบบคุณชูวิทย์เคยเกิดขึ้นได้ แล้วก็ดูมีความหวังขึ้นเรื่อยๆ หากยังมีการเลือกตั้งต่อ พรรคเล็กที่ตอบสนองอุดมการณ์ของคนยังมีที่ทาง แต่...กฎหมายและรัฐธรรมนูญปัจจุบันได้ตัดตอนทางเลือกแบบนั้นไปจนสิ้น (ด้วยเหตุผลตามที่ตอบในข้ออื่นๆ ที่เขียนมา)
8.ประชาธิปไตยย่อมเป็นญาติกับเสรีนิยม…และเสรีนิยมเป็นญาติกับทุนนิยมไหม แล้วทุนนิยมมันจะย้อนกลับไปเป็นญาติที่แท้จริงกับประชาธิปไตยเพื่อปวงชนไหม…
ตอบ: ความเป็นจริงคือ ต่อให้ไม่เป็นระบอบเผด็จการก็ไปได้ดีกับทุนนิยม ไม่เชื่อว่าพี่ดี้ไร้เดียงสาขนาดว่า รัฐบาลทหารปัจจุบันไม่ทำงานกับระบอบทุนนิยม คำถามพี่ดี้เป็นคำถามชอบกล ทำให้ดูเสมือนว่า มีแค่ระบอบประชาธิปไตยที่ไปได้ดีกับทุนนิยม เพราะปัญหาจริงๆ คือทุนนิยมมันไปได้กับทุกระบอบ ถ้าจะสู้กับทุนนิยมต้องตั้งคำถามใหม่ ไม่ใช่ตัดตอนประชาธิปไตย
9.สิ่งหนึ่งทีฉันสับสนคือ…เผด็จการในเมืองไทยวันนี้ เป็นเผด็จการที่หน่อมแน้ม รู้สึกผิดว่าตัวเองมาจากวิธีที่เขาหาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย…จะเด็ดขาดก็ไม่กล้าเด็ดขาด แถมยังเฟอะฟะอีกหลายเรื่องให้อีกฝ่ายเย้ยหยันได้ตลอดเวลา…
ตอบ: ถึงตอนนี้ พี่ดี้น่าจะรู้ได้ซักทีว่า ระบอบเผด็จการมันก็คอร์รัปชันไม่ต่างกัน แต่สิ่งที่ทำให้เกิดคอร์รัปชัน มันไม่ใช่เรื่องระบอบอะไร เพราะระบอบแบบไหนก็คอร์รัปชันได้ ถ้าระบบตรวจสอบถ่วงดุลไม่ทำงาน และการใช้อำนาจดังกล่าวต้องได้สัดส่วน ไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง และสะท้อนถึงการรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติ ไม่ใช่เผด็จการมันเฟอะฟะ แต่โดยระบบที่เป็นอยู่ ต่อให้ได้คนแบบไหนมาเหตุการณ์ก็วนซ้ำเป็นน้ำเน่าเหมือนละครรีเมกไม่รู้จบ
ทั้ง 9 ข้อ ผมตอบพี่ดี้จนหมด แม้ไม่อาจลงรายละเอียดได้มาก แต่เชื่อว่าถ้าอ่านอย่างตั้งใจจะเห็นว่าเรามีทางออก และเชื่อว่าทางออกนั้นก็เป็นรูปธรรมเพียงพอ เพียงแต่มิสามารถจะละเอียดไปกว่านี้ได้ เพราะไม่อยากผูกคำตอบที่ถูกต้องไว้กับตัว และเชื่ออย่างที่สุดว่า การระดมสมอง การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงจะทำให้เราได้คำตอบที่คาดหวังไว้ เพียงแต่พี่ดี้ต้องจริงใจที่จะรับฟัง เปิดกว้าง เคารพและยอมรับทุกความเห็น มิใช่เอาแต่ดื้อดึงดัน
กล่าวโดยสรุป ตอนนี้เราก็พอมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมดังนี้
1) สร้างพรรคทางเลือกใหม่ เป็นพรรคเชิงอุดมการณ์ มีข้อเสนอการปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรม
2) แต่การจะสร้างพรรคทางเลือกต้องแก้รัฐธรรมนูญ ให้ระบบเลือกตั้งไม่สร้างภาระให้พรรคทางเลือกเกิดใหม่
3) และต้องแก้กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายพรรคการเมือง เพื่อส่งเสริมพรรคการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและเน้นการมีส่วนร่วมกับประชาชน
สุดท้ายนี้ข้อถามพี่ดี้กลับ
1) ในวันที่มีการลงมติรับ/ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ พี่ดี้โหวตรับ หรือไม่รับ ถ้าโหวตรับ พี่ดี้จะแสดงความรู้สึกผิดต่อตัวเองและต่อสังคมอย่างไร เพราะเห็นได้ชัดว่าจากคำถามที่พี่ดี้ตั้งมา 'รัฐธรรมนูญ' ปัจจุบันคืออุปสรรค
2) ถ้าวันลงมติรับ/ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ พี่ดี้ ลงว่าไม่รับ หรือ รับก็ตาม พี่ดี้จะเริ่มต้นหรือเข้าร่วมขบวนการที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งเป็นปมปัญหาทั้งเก้าข้อของพี่ดี้หรือไม่
3) พี่ดี้จะเปลี่ยนใจร่วมต่อต้านระบอบเผด็จการหรือไม่ และจะขอโทษที่เคยเชียร์เผด็จการหรือไม่ เมื่อคำตอบจากคำถามทั้ง 9 ข้อ พบแล้วว่า รัฐบาลเผด็จการคสช. ไม่ได้ทำให้เราได้คำตอบ
หมายเหตุ: ขอขอบคุณและขออนุญาตใช้รูปของเว็บไซต์ข่าวสดครับ
บล็อกของ มนุษย์โรแมนติก
มนุษย์โรแมนติก
แม้จะมีดราม่าเข้ามารายวันแต่ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งที่สังคมไม่ควรพลาดก็คือ "การแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" ซึ่งน่ากลัวมากว่ามันจะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เละ! และดูเหมือนจะมีเฉพาะกลุ่มคนรักหลักประสุขภาพและองค์กรใกล้ชิดเท่านั้นที่ไหวตั
มนุษย์โรแมนติก
ข้ออ้างสำคัญของรัฐในการควบคุมสื่อคือการกล่าวหาว่า "สื่อมีเสรีภาพมากเกินไปและไร้ความรับผิดชอบ" ซึ่งบทความนี้ไม่ใช่แค่การโต้แย้งอย่างตรงไปตรงมาต่อข้อกล่าวหาข้างต้น แต่ยังชวนให้ผู้มีอำนาจคิดว่า เราไม่ได้อับจนหนทางถึงขนาดต้องมีกฎหมายควบคุมสื่อ