Skip to main content

 

 

ปี พ.ศ.2516 วันที่ 14 ตุลาคม ฉันอยู่ชั้น ป.1 เสียงเพลงมาร์ชของทหารดังให้ได้ยินบ่อย ๆ จากวิทยุที่หัวนอนก๋ง คราวนี้มีคำใหม่ต่างไปจากคำว่า "ปฏิวัติ"
"คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน" ครูบอกว่าปฏิรูปคือค่อย ๆ เปลี่ยน ปฏิวัติคือเปลี่ยนทันที
วันนี้ดีจัง มีปฏิรูป ครูบอกให้กลับบ้านได้ตอนสาย ๆ

ปี พ.ศ.2519 วันที่ 6 ตุลาคม ฉันอยู่ชั้น ป.3 ศัพท์ใหม่ที่น่ากลัวมากขึ้นคือคำว่า "คอมมิวนิสต์"
เสียงเฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนอีกแล้ว เด็ก ๆ วิ่งออกมาดู

ทหารนำคนเจ็บใส่เปลสนามส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชที่อยู่ติดกับโรงเรียน
มีรอยกระสุนปืนที่เฮลิคอปเตอร์ กลางคืนฉันได้ยินเสียงปืนใหญ่
ก๋งขู่ว่าถ้าซนคอมมิวนิสต์จะจับตัวไป

ปี ต่อ ๆ มา พี่ชายไปเรียนรามคำแหง ปิดเทอมเขากลับบ้านมาพร้อมกับเทปคลาสเซ็ต
เพลงบินหลา เพลงปักษ์ใต้บ้านเรา เพลงคนกับควาย เพลงนกสีเหลือง
พ่อบอกว่าห้ามเปิด เดี๋ยวตำรวจจับ ฉันหิ้วเครื่องเล่นเทปแอบฟังในมุ้ง

ปี 2520 พี่ชายยืนดูแข่งฟุตบอลที่ข้างสนาม หกโมงเย็น เสียงเพลงชาติดังขึ้น
เขาลุกยืน แต่ไม่ตรง ขยับขาไปมา
ผัวะ! ทหารหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาตบเขา แล้วแจ้งข้อหาคอมมิวนิสต์ ไม่ยืนตรงเคารพธงชาติ
พ่อเขียนจดหมายไปลงหนังสือพิมพ์ นายทหารกลับมาขอโทษที่บ้าน

ทักษิณ ชินวัตร
ฉันไม่เคยเลือกเขา

ปี 2549 ฉันร่วมกู้ชาติ ขับไล่ทักษิณ ชินวัตร

ปี 2551 ฉันถอดเสื้อเหลือง เก็บเสื้อสีแดงชั่วคราว
เลือกที่จะไม่เลือก

ปลายปี 2551 ประเทศไทยยับเยินกับสงครามยืดเยื้อที่ทำเนียบรัฐบาล จบลงที่การยึดสนามบิน จบอีกครั้งในงานสงกรานต์ปี 2552 ที่พัทยา กรุงเทพ และทั่วประเทศไทย
ผบ.ทอ.แถลงว่าเหตุการณ์นี้คล้ายกับสมัย 14 ต.ค.16 และ 6 ต.ค.19 เป็นการกระทำที่ต้องการเปลี่ยนประเทศให้เป็นระบอบคอมมิวนิสต์

ประเทศไทยที่จบไม่เป็น ต้องจบแล้วจบอีก
ในเมืองที่มีการประกาศสภาวะฉุกเฉินขั้นร้ายแรง
เมืองที่นายกรัฐมนตรีถูกทุบรถยับเยิน
เมืองที่ฉันแอบคิดว่าคงจะได้พักรบพักหายใจกันสักนิด

ตำรวจฟันธงเหตุการณ์นี้ว่า
"คนร้ายหวังปลิดชีพนายสนธิ  ลิ้มทองกุล"

หมายเหตุ : ภาพทุกภาพคราวนี้ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ เก็บมาจากในเว็บไซด์ต่าง ๆ ความที่มีเยอะมากก็เลยไม่ได้เก็บชื่อคนถ่าย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และขออนุญาตนำมาเผยแพร่ เนื่องจากเป็นภาพที่ดี มีความหมายโดยแทบไม่ต้องบรรยาย อยากให้คนอื่นได้เห็นด้วยค่ะ

ขอบคุณผู้ถ่ายภาพทุกท่าน ณ ตรงนี้ค่ะ

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ
โอ ไม้จัตวา
 
โอ ไม้จัตวา
  เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
โอ ไม้จัตวา
  ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย
โอ ไม้จัตวา
  ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่า”งาม”  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก
โอ ไม้จัตวา
    ชอบคำนี้ “คนขายโชค” เป็นภาษาลาวใช้เรียกคนขายลอตเตอรี สังเกตว่าคนขายโชคในเมืองไทยมักถามคนซื้อมา เอาโชคไหม เอารางวัลสักใบไหม แต่ฉันไม่ซื้อสักทีเพราะไม่เคยมีโชค ไม่ว่าจะทางซื้อหรือทางขาย ป้าที่เห็นในรูปนี้ขายโชคอยู่ที่หน้าศาลเจ้าหลังตลาดวโรรส ดูรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอเป็นคนมีโชค
โอ ไม้จัตวา
      ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2  
โอ ไม้จัตวา
  เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง  
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาพร้อมกับสัญญาณบอกว่าดอกไม้หลากสีได้เวลาเบ่งบานอีกแล้ว เดือนพฤศจิกายนคือฤดูกาลดอกบัวตองสีเหลือง หากมีเวลาฉันก็ไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมเยียนภูเขาสีเหลืองสุดลูกหูลูกตาที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากดอกไม้ยามเช้าแล้วสิ่งที่น่าสัมผัสมากที่สุดสำหรับการเยือนที่นี่คือการดูดาวยามค่ำคืน กลางขุนเขาที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการดูดาว แผนที่ดูดาวช่วยให้การดูดาวสนุกมากขึ้น
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาแล้ว ปีนี้อากาศผันผวนจนหลายคนป่วยไข้ แมวในบ้านนอนกกกันรับความอบอุ่น บ่ายวันนี้ฉันขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็ก ๆ ในหุบเขาสูงชันที่อำเภอสันกำแพง ชื่อว่าบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการโดยชุมชนอย่างดี ฉันไม่เคยมาที่นี่ จึงชวนเพื่อนที่เคยมาบ่อย ๆ มาด้วย เธอบอกว่าครั้งแรกเธอขับรถเล่นกับสุนัขตัวโปรดของเธอ ขับรถเล่นถึงแม่กำปองเนี่ยนะ!
โอ ไม้จัตวา
  เช้าวันหนึ่ง...อากาศสดใส เพื่อนชวนไปหาหลินปิง รับปากโดยเร็ว หลังจากที่แอบดูสองแม่ลูกทางอินเตอร์เน็ตอยู่นาน หลินปิงโตขึ้นเยอะ ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หลินฮุ่ยยังหวงห่วงลูกดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ ผู้มาเยือนเป็นเด็กเล็ก ๆ จำนวนสองร้อยคน ทำให้ผู้คนแออัด เมื่อถึงเวลาออกมาเดินเล่น เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดมีเสียงพอสมควร ทำให้หลินฮุ่ยไม่ยอมออกมาตรงบริเวณกลางสวน หลินปิงก็พาลไม่ยอมออกมาด้วย  
โอ ไม้จัตวา
  ไปขุนช่างเคี่ยนคราวนี้ผิดหวังกับสภาพอากาศที่ทำให้ดอกไม้บานน้อยไปนิด ได้ภาพนี้มาแทนใจได้หน่อยนึง ไปถึงยามเช้า นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนที่นั่นกำลังก่อกองไฟ จุดที่เรายืน ควันไฟ แสงอาทิตย์ มาบรรจบกันพอดี มุมนี้ถ่ายมาหลายรูป แต่ได้เพียงรูปเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการถ่ายภาพ บางครั้งกดชัตเตอร์ฟุ่มเฟือยมาก แต่ได้ภาพเพียงภาพเดียว