Skip to main content

หากใครถามว่าผ่านโลกมากี่ปี คำตอบเป็นจำนวนปีที่มากขึ้นนั้น อาจบอกว่าเห็นโลกมาก็มาก แต่การเห็นโลกผ่านเน็ตในวันนี้มีความหมายต่อจิตใจฉันยิ่งนัก  เมื่อเปิดไปพบกับข่าวชิ้นหนึ่ง ที่องค์การอวกาศของญี่ปุ่น ถ่ายภาพโลกจากดวงจันทร์ ผ่านกล้องโทรทัศน์ความละเอียดสูง

เคยแต่อ่านว่าโลกใบนี้เป็นดวงดาวสีน้ำเงิน นึกยังไงก็นึกไม่ออก คงเหมือนดวงจันทร์สีเหลือง แต่โลกเป็นสีน้ำเงินกระนั้นหรือ แล้วภาพจะเป็นยังไงหนอ เป็นลูกกลมหมุนวนไปมา มีสีฟ้า ๆ กลางห้วงอวกาศอย่างนั้นหรือ

1

ที่โลกในใจ...

การหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง คิดวนเวียนอยู่ในชามอ่าง เรื่องแล้วเรื่องเล่า คิดจนเมาโลกของตัวเอง พาลคิดว่าศูนย์กลางของจักรวาลนี้อยู่ที่เหตุการณ์ตรงหน้า คิดได้เช่นนี้แล้วทางออกของชีวิตก็จะวนเวียนอยู่ในอ่างออกไปไหนไม่พ้น

เมื่อเจอปัญหาฉันมักหนีมาอยู่กับตัวเองก่อน ครุ่นคิดกับมัน ถึงเหตุผล ถึงทางออก แล้วจึงออกไปเผชิญกับทางเลือก และหนทางต่าง ๆ เปิดดวงตา เปิดดวงใจ  พยายามกระโจนออกจากอ่างแคบ ๆ ใบนั้น ออกมาเดินดูรอบ ๆ อ่าง ยิ่งเดินออกมาไกลก็ยิ่งมองเห็นภาพที่เปลี่ยนไป

โลกที่กำลังจะล่มสลายอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกว่าถูกกระทำ หรืออะไรก็แล้วแต่ กลายเป็นภาพจิ๋วกระจ้อยร่อย เหมือนมองภาพโลกสีน้ำเงินใบนี้จากดวงจันทร์ ยิ่งดูก็ยิ่งยิ้มอิ่มใจ เมื่อพยายามมองหาตัวเอง หามวลมนุษย์ในโลกใบนี้ ว่าเวียนว่ายตายเกิดอยู่บนดาวดวงสวยใบนี้  รักกัน ทะเลาะกัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น กินบ้านกินเมือง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนดาวสีน้ำเงินดวงนี้

ฉันมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากลูกกลมสวย ๆ ส่วนมนุษย์นั้นเป็นแค่ฝุ่นผงในจักรวาลเท่านั้นเอง

2

กลับอยู่อยู่บนโลกตรงหน้า...

“คุณเขียนติดฝากบ้านไว้ได้เลย ว่าบ้านนี้เมืองนี้มันจะต้องหายนะ”

“คุณรู้ไหมทำไมงานสิ่งพิมพ์ในเชียงใหม่ถึงแย่ เพราะคนที่นี่อยู่ในสังคมเกษตรกรรม ซึ่งคิดถึงแต่เรื่องปริมาณ ไม่ได้คิดแบบสังคมอุตสาหกรรม ซึ่งคิดคุณภาพเป็นหลัก”

“...เค้าเป็นแบบนี้เพราะไปหลงรักกระเทยเฒ่า เป็นกระเทยเฒ่าแล้วยังทำตัวเป็นขุนนาง”

“ผมมีบุญคุณกับเค้า พี่รู้ไหม ผมช่วยประหยัดเงิน เค้าเลว เค้าเชื่อไม่ได้ เมื่อก่อนเค้าเป็นนางฟ้า ตอนนี้เป็นปีศาจสำหรับผม...กูเกลียดมึง ผมจะทำให้หมดอนาคตเลยคอยดู”

“เงินผมหายไปจากบัญชีแสนนึงพี่ ธนาคารเค้าเช็คแล้ว บอกว่ามีคนกดออกไปที่ตู้เอทีเอ็มที่ปราณบุรี ผมอยู่เชียงใหม่ บัตรก็อยู่กับผม เขาบอกรหัสถูกต้อง ธนาคารเสียใจ แต่ผมเสียเงินเก็บมาทั้งชีวิตจะเอาไปสร้างบ้านให้พ่อแม่”

“ยึดทรัพย์'โอ๊ค-เอม'หลังไม่จ่ายภาษี-เบี้ยปรับ 1.2 หมื่น”

“ดีนะเสื้อสีชมพูสวยดี ใส่แล้วประหยัดพลังงาน ช่วยโลกร้อน....ช่วยไงเหรอป้า.....ก็ใส่เสื้อเหลือง เสื้อชมพู เสื้อเขียว ไม่ต้องคิดมากใส่อยู่แค่นี้ ประหยัดเงินดี”

“สถิติเด็กและผู้หญิงถูกทำร้ายวันละ 34 คน ในปี 2550”

“คุณรู้ไหมทำไมบ้านเมืองนี้จะหายนะ....ก็เพราะมีคนอย่างคุณที่พูดได้แต่ไม่ยอมพูด...ก็คนอย่างผมไม่มีศักยภาพ...”

!!!

3

 

หมายเหตุ : ภาพจาก http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000135133

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เห็นภาพคนตีแบดในสนามบินไหม เห็นข่าวแกนนำพันธมิตรเชียงใหม่สังเวยชีวิตพ่อของเขาไหม เห็นยอดขายแม่ค้าไนท์บาซ่าเหลือวันละ 60 บาทจากวันละหมื่น เห็นคุณสนธิไล่นายกและครม.และจะกระทืบซ้ำ ฯลฯ ได้แต่ถามตัวเองว่านี้ฉันอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้เมืองนี้ เป็นความรู้สึกที่ภาษาในคลังคำทั้งหมดไม่สามารถอธิบายได้เพลงนี้ชื่อเพลง Hey you ของวงพิงค์ ฟรอยด์ แทนอารมณ์ความรู้สึกเวิ้งว้าง หนาวเหน็บ ย้อนยุค บ้าคลั่ง ป่าเถื่อน ได้เป็นอย่างดี เมื่อไรคุณและฉันจะตายจากกัน
โอ ไม้จัตวา
ช่วงนี้ฟังพี่ป้าน้าอารุ่นใหญ่ทั้งหลายออกมาเชิญชวนให้ปัญญาชนคนชั้นกลางเลือกตบเท้าก้าวออกมา (ออกมา ออกมา ออกมา) ออกมาเลือกข้าง(เขา) ได้แล้ว มาเอา “พระธรรมนำหน้าเข้าฝ่าประจัน ตาต่อตาฟันต่อฟันให้มันรู้ไป” (จากเพลงเทียนแห่งธรรม เพลงเปิดหัวนำเข้าแกนนำพันธมิตร ฟังได้ทุกวันทาง ASTV ช่วง 20.30-21.00 น. ไม่แน่ใจ) แม้ไม่ได้รักทักษิณ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพันธมิตร ฉะนั้นอิฉันจึงขอเลือกที่จะไม่เลือก และเลือกที่จะเอาพระธรรมนำทางสู่ความสงบสุขของชีวิตและสังคม ฟังเพลง My way ค่ะ สัปดาห์นี้ เวอร์ชั่นที่โด่งดังเป็นที่รู้จักเป็นเสียงร้องของแฟรงค์ ซิเนตร้า…
โอ ไม้จัตวา
เพลงโปรดอีกเพลงหนึ่ง The long and winding road เสียงร้องของ Paul McCartney เพลงนี้ฟังหลายเวอร์ชั่น มีหลายคนนำมาร้อง แต่สู้เจ้าของเพลงไม่ได้อีกเช่นกัน แม้วันวัยจะผ่านช่วงเวลาโด่งดังของเดอะ บีทเทิลมาหลายสิบปี แต่เสียงร้อง อารมณ์ และความหมายของเพลงยังอยู่ในตัวตนของเขาเต็มเปี่ยม และอาจมากกว่า หนทางยังอีกยาวไกล บ่อยครั้งที่เราท้อแท้เปลี่ยวเหงา กับความวิเวกวังเวงรอบตัว มองไปข้างหน้ายังไม่เห็นจุดสิ้นสุด แต่บางทีคำตอบก็อยู่แค่มือเอื้อม เมื่อหน้าบ้านมีสิ่งไม่โสภาก็ปิดประตูบานนั้นเสีย หันไปมองทุ่งกว้างที่หน้าต่างหลังบ้าน บางครั้งแม้หลับตายังมองเห็นดวงดาวพราวพร่าง…
โอ ไม้จัตวา
ผ่านหูผ่านตาไปมากมายหลายเวอร์ชั่นกับเพลง imagine ของจอห์น เลนนอน แห่ง The Beatle ขวัญใจตลอดกาลของฉัน มีนักร้องหลายคนนำเพลงนี้มาร้อง ไม่ว่าจะเป็นมาดอนน่า เนลล์ ยัง จอห์น บอง โจวี แต่ก็อารมณ์ของเพลงนั้นสู้เจ้าของเพลงร้องไม่ได้สักคน อย่างไรก็ตามฉันก็ยังสนุกกับการค้นหาเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ของเพลงเสมอ จนกระทั่งมาพบเธอคนนี้ Patti LaBelle นักร้องผิวสี ผู้มีลีลาการร้องแบบเสียงผ่านหูทะลุไปถึงวิญญาณของผู้ฟัง เป็นนักร้องที่เป็นนักร้องจริงๆ ไม่สนใจความงาม หน้าตาบิดเบี้ยว มือสั่นระริก พลังเสียงร้องกว้างใหญ่ไพศาล ราวจากใต้ผืนดินสูงลิบลิ่วไปถึงยอดเมฆ สุดยอด Imagine there's no heaven It's easy if…
โอ ไม้จัตวา
เครียดไหม...เครียดน้อ เบื่อไหม...เบื่อใช่ไหม ฟังเพลงนี้กระแทกหูดีกว่า Another brick in the wall บรรยากาศแบบนี้ต้องฟังเพลงพิงค์ ฟรอยด์ เพลงนี้เป็นเพลงมีชื่อเสียงของพิงค์ฟรอย เนื้อหายังคงตั้งคำถามกับโลกกับสังคม เราไม่แปลเนื้อเพลง แต่ข้อความที่เขียนคือแรงบันดาลใจจากเนื้อเพลง และดนตรี
โอ ไม้จัตวา
ชอบเพลงนี้มานาน ชื่อเพลง wish you were here ของวงพิงค์ ฟรอยด์ ฟังครั้งแรกจำได้ว่าเพื่อนในม.ช.เปิดให้ฟังเพลงโหยหวนสักเพลง รู้สึกเหมือนฟังซาวด์แทร็กหนังผี กลัวมาก แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกชอบ โดยเฉพาะเมื่อครั้งเล่นเพลง Another brick in the wall ที่กำแพงเบอลิน และทุบกำแพง ช่างเป็นเพลงที่เข้ากับวาระและสถานที่จริง ๆ ชื่อเพลงฟังดูโรแมนติค แต่มาอยู่ในเวบนี้อาจมีคนคิดแบบ politic (ฮา) ว่าเราปรารถนาใครคนหนึ่งที่อยู่ไกลให้กลับมา แต่เปล่าเลย สิ่งที่ใฝ่ฝันถึงในวันนี้คือ ท้องฟ้าสีฟ้าที่ไร้ความเจ็บปวด ไม่ต้องสวรรค์ ไม่ต้องนรก เอาแค่เป็นคนธรรมดา ๆ…
โอ ไม้จัตวา
แนะนำเพลงสัปดาห์นี้ชื่อเพลง Stair way to heaven เป็นเพลง soft rock รุ่นเก่าแก่ ของ Led Zeppelin ฟังมายี่สิบกว่าปี เป็นเพลงเล่าเรื่องหญิงสาวคนหนึ่งผู้คิดว่าทุกอย่างสวยงามเปล่งประกาย เธอต้องการซื้อบันไดไปสู่สวรรค์  ในชีวิตของเรานั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่อาจคาดเดา บางครั้งคิดว่าใช่กับไม่ บ่อยครั้งที่ฉันคิดว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เมื่อคนเราเกิดมาแล้วก็ตายไป เราสร้างหนี้สินในรูปแบบต่างๆ เราหาพันธนาการมาร้อยรัด เพื่อให้วันเวลาในชีวิตไม่ว่างเปล่าจนเกินไปอย่างนั้นหรือ
โอ ไม้จัตวา
เกิดมาไม่เคยนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์วันค่ำคืนรุ่งได้นานขนาดนี้ เริ่มตั้งแต่กลางดึกดูข่าวพันธมิตรยึดรัฐสภาก่อนหลับไปแล้วตื่นมาพบว่าตำรวจสลายการชุมนุมแต่เช้า ก็วนเวียนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รู้สึกว่าการตามข่าวคราวใน พ.ศ.นี้ต่างจากเมื่อคราวพฤษภาทมิฬที่ต้องหลบกฎอัยการศึกไปนั่งดื่มกับเพื่อนและเจ้าของร้านที่แอบเปิดบ้านให้เราดื่มกิน ปีนี้เรากลายเป็นม็อบหน้าเอ็ม (MSN) และเปิดข่าว ดูทีวีทางอินเตอร์เน็ต ขณะที่แม่ยึดทีวีดูละคร และแอบมาตามข่าวกับเราเป็นระยะก่อนจากไปด้วยใจเต้นรัว บอกว่าใจไม่ดี ไม่รู้คนแก่ที่ม็อบเค้าอยู่กันได้ยังไง แม่ดูแค่นี้ก็ใจสั่นแล้ว ส่วนเราตอนนี้รู้สึกเมาคอมพิวเตอร์…
โอ ไม้จัตวา
โอ ไม้จัตวา
มองโลก มองบ้านเมือง เห็นอะไรเน่า ๆ แล้วก็สะท้อนใจ บางทีการรักบ้านรักเมืองในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็ต้องพบกับความขัดแย้งทางความคิด หลายบ้านอยู่ร่วมกันได้ หลายคนทะเลาะกัน ยุคที่บ้านเราปิดปากประชาชนด้วยอำนาจเถื่อน ในวงวรรณกรรมก็หาทางออกด้วยการเขียนวรรณกรรมหวานเย็น หรือนิยายน้ำเน่าทั้งหลาย เพราะคนถูกปิดหูปิดตาบังคับให้เชื่อในสิ่งที่เขานำเสนอเท่านั้น ไหน ๆ ใจก็เน่าแล้ว นำเสนอเรื่องเน่า ๆ เสียเลยเป็นไง สมัยนั้นเรายังเด็ก มารู้มาเห็นสภาพบ้านเมืองที่สะท้อนออกมาในวรรณกรรมก็เมื่อเข้ามาเรียนหนังสือในฐานะนักเรียนวรรณคดี  มาถึงยุคนี้ ยุคที่คิดว่าต้นไม้ทางความคิดของคนไทยเริ่มเติบโต…
โอ ไม้จัตวา
  เพลงเสื้อแห่งความสุข เป็นเพลงดี ๆ อีกเพลงหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในกระแสการตลาดเสียงเพลงป๊อบ ขับร้องโดย ลานนา คัมมินส์ อยู่ในอัลบั้ม Happy Trip เนื้อเพลงนำมาจากนิทานตอลสตอยเรื่องหนึ่ง นำเรื่องราวมาแต่งเป็นเพลงที่เข้ากับเนื้อหาในสังคม แต่ก็ไม่ถูกโปรโมท ทำให้เพลงจ้องตากับความเหงากลายเป็นเพลงที่คนรู้จักมากที่สุดในอัลบั้มนี้ ขณะที่เพลงเสื้อแห่งความสุขกลายเป็นเพลงขวัญใจของเด็ก ๆ ที่ชอบฟังนิทาน และเป็นเพลงเนื้อหาดีที่คนฟังผู้มีวุฒิภาวะฟังแล้วก็ชอบ ฟังเพลงประกอบภาพ และแคนโต้แนวนอนของเราค่ะ
โอ ไม้จัตวา
สัปดาห์นี้อยู่ในช่วงวันที่ 11 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบวันตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ถล่ม มีเพลง ๆ หนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี เป็นเพลงที่มีความหมายและให้กำลังใจคน แรกทีเดียวเพลงนี้เป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง Beaches ในปี 2531 นำแสดงโดย Bette Midler และ Barbara Hershey หลังจากหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำตัวของ Bette Midler ตั้งแต่นั้นมา  อยากให้ดูคลิ้บอันนี้ค่ะ เบธร้องในปี 2001 หลังจากวันตึกถล่มไม่กี่วัน ที่ Yankee Stadium ในนิวยอร์ค ดูจากภาพแล้วน่าจะเป็นงานรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพลงลมใต้ปีกที่เคยเป็นลมใต้ปีกของใครหลาย ๆ คน…