Skip to main content

 

คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย

\\/--break--\>

แต่สิ่งสำคัญก่อนจะถ่ายคือ ช่างภาพควรจะมีสายตาแบบช่างภาพ คือมองแล้วนึกให้ออกว่าถ้าเป็นภาพอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมในกล้องแล้ว จะออกมาอย่างไร บางครั้งเวลาไม่ได้ติดกล้องไปด้วย เจอภาพบางภาพ เราใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กางออกเป็นมุมฉากสองมือแล้วเอามาชนกันแทนกรอบสี่เหลี่ยมสำหรับมองภาพ...เล่นอยู่คนเดียว


ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะมองให้เห็นแบบคนถ่ายภาพได้ ก็ต้องฝึกถ่ายบ่อย ๆ เดี๋ยวนี้มีกล้องดิจิตอลให้ความสะดวก และไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากมาย ถ่ายไปเถอะ ฝึกมือ ฝึกสายตา ถ่ายแล้วไม่ดีเราก็ลองใหม่ แรก ๆ อาจใช้โหมด Auto ก่อน แต่ Auto จะถ่ายให้ออกมาพอดีก็ต้องเรียนรู้จักกล้องบ้าง เพราะความเป็นดิจิตอลนั้น กล้องจะประมวลผลตามโปรแกรม ซึ่งบางครั้งและบ่อยครั้งภาพที่ออกมาอาจไม่ตรงกับการประมวลของลูกกะตาของเราก็ได้ ถ้าสีของวัตถุมีความต่างกันมาก แบบขาวกับดำ ถ้ากล้องไปวัดแสงที่ใดที่หนึ่งภาพที่ออกมากก็จะไม่มืดไปก็สว่างไป


จากรูปที่ยกมายังอยู่ในมุมเดียวกับรูปที่แล้ว เพียงแค่เราขยับเท้าออกมานิดหน่อย ภาพก็จะเปลี่ยนไป จากมุมที่เห็นนี้ เราเพียงแต่เดินตามทางเดินชื้นแฉะ ถ้ามองตรงไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวดูข้างทางเลย เราก็จะพลาดช็อตนี้ไปอย่างน่าเสียดาย


คราวที่แล้วบอกว่ามุมนี้แสงน้อย เราแก้ไขด้วยการเพิ่ม ISO ให้มากขึ้น ให้กล้องรับแสงได้มากขึ้น เพื่อให้ความเร็วชัตเตอร์เร็วขึ้น แก้ปัญหามือสั่นไหวซึ่งทำให้ภาพไหวเบลอ เรามีอีกวิธีหนึ่งในการแก้ไขคือ การปรับค่าในกล้องให้ภาพ under


มีภาษากล้องมาให้อีกสองคำคือ under แปลตรงตัวก็คือใต้ หรือต่ำ ในที่นี้คือค่าแสงที่ต่ำกว่าค่าสมดุลที่กล้องประมวลผลมาให้ ถ้ามองในจอกล้องจะเป็นเส้นประตรงกลางเป็นเลข 0 และมีขีดเลื่อนได้อยู่ข้างบน ถ้าขีดอยู่ตรงเลขศูนย์ แปลว่า จุดนี้คือจุดที่ดีที่สุด สมดุลที่สุดสำหรับภาพนี้ ถ้าเราปรับให้ขีดนั้นมาทางด้านซ้ายมือที่เป็นเครื่องหมายลบ ก็แปลว่าจะได้ภาพ under คือมืดลง ถ้าปรับขีดนั้นไปทางด้านขวาทางเครื่องหมายบวกก็จะได้ภาพ over คือสว่างขึ้น


ภาพนี้เราลองเล่นด้วยการปรับ ISO สูงขึ้น ซึ่งจะได้ภาพที่มีเม็ดเล็ก ๆ หรือ noise เต็มไปหมด เรายังอยากได้ภาพละเอียดบ้าง ก็เลยปรับ ISO ให้ต่ำลงมา อาจไม่ต้องถึง 100 เพราะแสงน้อยเกินไป แล้วปรับหน้ากล้องให้กว้างที่สุดเพื่อให้ความเร็วเพิ่มขึ้น ถ้าความเร็วยังไม่พอ สำหรับเราน่าจะ 1/15 วินาที ก็พอจะควบคุมมือตัวเองได้ เราก็ตั้งค่าชดเชยแสงให้ต่ำลงมาอีก ในกล้องแต่ละตัวจะมีโหมดนี้อยู่ตรงเครื่องหมายบวกลบ และการใช้งานไม่เหมือนกัน ตรงนี้ต้องอ่านคู่มืออย่างละเอียด เพื่อเรียนรู้อีกนิด


เมื่อเราชดเชยแสงให้มืดลง รอบ ๆ ภาพก็จะมืดลง ตรงพระอาทิตย์ที่สว่างมาก ๆ ก็จะลดลงมาด้วย และจะได้ลำแสงที่ลอดไม้ลงมาชัดเจนขึ้น


ส่วนที่เหลืออาจไปว่ากันในโฟโตช็อปอีกสักนิด

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ
โอ ไม้จัตวา
 
โอ ไม้จัตวา
  เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
โอ ไม้จัตวา
  ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย
โอ ไม้จัตวา
  ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่า”งาม”  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก
โอ ไม้จัตวา
    ชอบคำนี้ “คนขายโชค” เป็นภาษาลาวใช้เรียกคนขายลอตเตอรี สังเกตว่าคนขายโชคในเมืองไทยมักถามคนซื้อมา เอาโชคไหม เอารางวัลสักใบไหม แต่ฉันไม่ซื้อสักทีเพราะไม่เคยมีโชค ไม่ว่าจะทางซื้อหรือทางขาย ป้าที่เห็นในรูปนี้ขายโชคอยู่ที่หน้าศาลเจ้าหลังตลาดวโรรส ดูรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอเป็นคนมีโชค
โอ ไม้จัตวา
      ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2  
โอ ไม้จัตวา
  เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง  
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาพร้อมกับสัญญาณบอกว่าดอกไม้หลากสีได้เวลาเบ่งบานอีกแล้ว เดือนพฤศจิกายนคือฤดูกาลดอกบัวตองสีเหลือง หากมีเวลาฉันก็ไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมเยียนภูเขาสีเหลืองสุดลูกหูลูกตาที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากดอกไม้ยามเช้าแล้วสิ่งที่น่าสัมผัสมากที่สุดสำหรับการเยือนที่นี่คือการดูดาวยามค่ำคืน กลางขุนเขาที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการดูดาว แผนที่ดูดาวช่วยให้การดูดาวสนุกมากขึ้น
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาแล้ว ปีนี้อากาศผันผวนจนหลายคนป่วยไข้ แมวในบ้านนอนกกกันรับความอบอุ่น บ่ายวันนี้ฉันขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็ก ๆ ในหุบเขาสูงชันที่อำเภอสันกำแพง ชื่อว่าบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการโดยชุมชนอย่างดี ฉันไม่เคยมาที่นี่ จึงชวนเพื่อนที่เคยมาบ่อย ๆ มาด้วย เธอบอกว่าครั้งแรกเธอขับรถเล่นกับสุนัขตัวโปรดของเธอ ขับรถเล่นถึงแม่กำปองเนี่ยนะ!
โอ ไม้จัตวา
  เช้าวันหนึ่ง...อากาศสดใส เพื่อนชวนไปหาหลินปิง รับปากโดยเร็ว หลังจากที่แอบดูสองแม่ลูกทางอินเตอร์เน็ตอยู่นาน หลินปิงโตขึ้นเยอะ ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หลินฮุ่ยยังหวงห่วงลูกดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ ผู้มาเยือนเป็นเด็กเล็ก ๆ จำนวนสองร้อยคน ทำให้ผู้คนแออัด เมื่อถึงเวลาออกมาเดินเล่น เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดมีเสียงพอสมควร ทำให้หลินฮุ่ยไม่ยอมออกมาตรงบริเวณกลางสวน หลินปิงก็พาลไม่ยอมออกมาด้วย  
โอ ไม้จัตวา
  ไปขุนช่างเคี่ยนคราวนี้ผิดหวังกับสภาพอากาศที่ทำให้ดอกไม้บานน้อยไปนิด ได้ภาพนี้มาแทนใจได้หน่อยนึง ไปถึงยามเช้า นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนที่นั่นกำลังก่อกองไฟ จุดที่เรายืน ควันไฟ แสงอาทิตย์ มาบรรจบกันพอดี มุมนี้ถ่ายมาหลายรูป แต่ได้เพียงรูปเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการถ่ายภาพ บางครั้งกดชัตเตอร์ฟุ่มเฟือยมาก แต่ได้ภาพเพียงภาพเดียว