Skip to main content

สัปดาห์นี้ขอแนะนำวิธีรีทัชรูปแบบง่าย ๆ เริ่มจากโรคจิตของอิฉันเองที่ทนเห็นสายไฟรกรุงรังไม่ได้ ไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือในภาพ มีใครเป็นแบบนี้มั่งไหมเนี่ย เห็นไม้แขวนเสื้อกองรวมกันยุ่ง ๆ หรือสายโทรศัพท์ สายไฟ สายอะไรก็ตาม พันกันยุ่ง ๆ แล้วจะรู้สึกใจคุกรุ่นขึ้นมาเหมือนมีคนยั่วโมโห ทนไม่ได้ต้องนั่งคลาย ๆ ๆ ๆ

ไม่ต้องให้หมอบอก บอกตัวเองก็ได้ว่าโรคจิต

 


 

ชอบรอยยิ้มข้างถนนที่เมืองปายรูปนี้ รู้สึกว่าแค่มองให้เห็น โลกก็มีรอยยิ้มให้เราเสมอ บ้านนี้เจ้าของคงอารมณ์ดี แจกรอยยิ้มตั้งแต่หน้าบ้าน ขี่จักรยานผ่านไปเลยต้องจอดยิ้มตอบและกดชัตเตอร์มาสองรูป

 


 

ความที่ทนเห็นสายไฟแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งเมืองไทยเป็นเมืองที่มีสายไฟรกรุงรังที่สุด ถ้าใครเคยผ่านข่วงท่าแพกลางเมืองเชียงใหม่ มีร้านกาแฟสตาร์บั๊คตั้งอยู่ตรงตึกหัวมุม ซึ่งถือว่าเป็นทำเลทองกลางเมืองเชียงใหม่ได้วิวข่วงประตูท่าแพที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมือง แต่ที่น่าสงสารที่สุดคือมุมตึกพอดี หากมองผ่านกระจกชั้นสองของร้าน ก่อนที่จะเห็นข่วงประวัติศาสตร์ของเมือง ก็จะต้องผ่านโครตของโครตสายไฟอภิมหารุงรังก่อน

จากภาพนี้คลิ้กที่ปุ่มตามภาพ ชื่อว่าปุ่ม
cloning

 


 

ปุ่มโคลนนิ่ง ชื่อก็บอกอยู่แล้ว มันคือคำสั่งโคลนนิ่งส่วนที่ต้องการไปไว้ในส่วนที่เราไม่ต้องการ หลังจากนั้นก็เข้าไปคลิ้กปุ่ม brush ข้างบนตามภาพ เลือกขนาดของการโคลน เล็กใหญ่เลือกเล็กได้ตามความเหมาะสม ภาพนี้เราเลือกที่ 200 ให้ขอบเบลอ เพื่อเวลาโคลนจะได้ไม่เห็นขอบชัด นอกจากหลอกสายตาแล้วยังหลอกตัวเองอีกด้วย

 


 

หลังจากนั้น เลือกส่วนที่เราต้องการโคลน เช่นภาพนี้เราโคลนสีขาวไปกลบสายไฟ เราก็ชี้ลูกศรซึ่งจะเห็นเป็นวงกลมโล่ง ๆ ที่จุดนั้น แล้วกดปุ่ม Alt วงกลมโล่ง ๆ จะเปลี่ยนเป็นวงกลมเล็กสองวงซ้อนกันมีเครื่องหมายบวกทับตรงกลาง แล้วคลิ้กเมาท์หนึ่งที เจ้าวงกลมก็จะโคลนภาพตรงนี้ไว้แล้วเปลี่ยนกลับมาเป็นวงกลมโล่ง ๆ อีกครั้งโดยอัตโนมัติ จากนั้นเราเลื่อนวงกลมขึ้นไปตรงสายไฟที่เราต้องการลบ แล้วคลิ้กหนึ่งที สายไฟก็จะหายไป

 

อาจจะเห็นว่าทำไมไม่ใช้ยางลบลบเลย ก็ได้ถ้าเป็นสีขาวธรรมดา แต่ในกรณีที่เราจะลบสายไฟที่พาดอยู่บนต้นไม้ อย่างภาพต่อไป

 

 

ภาพนี้สายไฟยังลากยาวมาผ่านต้นไม้ ถ้าใช้ยางลบลบต้นไม้ก็จะเป็นสีขาวไปเลย เมื่อเราใช้คำสั่งโคลน เราก็ใช้วิธีตามที่บอกข้างต้น โคลนแล้วคลิ้ก เอาใบเขียว ๆ จากที่หนึ่งมาใส่อีกที่หนึ่ง ที่ทำมานี้ยังไม่เนียนเท่าไร

 

วิธีนี้นำไปใช้รีทัชใบหน้า สิว ตีนกา ไฝ ฝ้า รอยเหี่ยวย่น เคยแม้กระทั่งรีทัชเอาสายออกซิเจนที่คล้องไปที่จมูกคนออก จากคนป่วยกลายเป็นคนใจดีสดชื่น

 

ถ้าอยากเล่นสนุกลองส่งภาพมาที่

longmaeping@gmail.com ก็ได้นะ เราลองเอามาเป็นเคสรีทัชให้ดูได้หนุก ๆ

 

 

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ
โอ ไม้จัตวา
 
โอ ไม้จัตวา
  เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
โอ ไม้จัตวา
  ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย
โอ ไม้จัตวา
  ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่า”งาม”  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก
โอ ไม้จัตวา
    ชอบคำนี้ “คนขายโชค” เป็นภาษาลาวใช้เรียกคนขายลอตเตอรี สังเกตว่าคนขายโชคในเมืองไทยมักถามคนซื้อมา เอาโชคไหม เอารางวัลสักใบไหม แต่ฉันไม่ซื้อสักทีเพราะไม่เคยมีโชค ไม่ว่าจะทางซื้อหรือทางขาย ป้าที่เห็นในรูปนี้ขายโชคอยู่ที่หน้าศาลเจ้าหลังตลาดวโรรส ดูรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอเป็นคนมีโชค
โอ ไม้จัตวา
      ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2  
โอ ไม้จัตวา
  เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง  
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาพร้อมกับสัญญาณบอกว่าดอกไม้หลากสีได้เวลาเบ่งบานอีกแล้ว เดือนพฤศจิกายนคือฤดูกาลดอกบัวตองสีเหลือง หากมีเวลาฉันก็ไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมเยียนภูเขาสีเหลืองสุดลูกหูลูกตาที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากดอกไม้ยามเช้าแล้วสิ่งที่น่าสัมผัสมากที่สุดสำหรับการเยือนที่นี่คือการดูดาวยามค่ำคืน กลางขุนเขาที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการดูดาว แผนที่ดูดาวช่วยให้การดูดาวสนุกมากขึ้น
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาแล้ว ปีนี้อากาศผันผวนจนหลายคนป่วยไข้ แมวในบ้านนอนกกกันรับความอบอุ่น บ่ายวันนี้ฉันขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็ก ๆ ในหุบเขาสูงชันที่อำเภอสันกำแพง ชื่อว่าบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการโดยชุมชนอย่างดี ฉันไม่เคยมาที่นี่ จึงชวนเพื่อนที่เคยมาบ่อย ๆ มาด้วย เธอบอกว่าครั้งแรกเธอขับรถเล่นกับสุนัขตัวโปรดของเธอ ขับรถเล่นถึงแม่กำปองเนี่ยนะ!
โอ ไม้จัตวา
  เช้าวันหนึ่ง...อากาศสดใส เพื่อนชวนไปหาหลินปิง รับปากโดยเร็ว หลังจากที่แอบดูสองแม่ลูกทางอินเตอร์เน็ตอยู่นาน หลินปิงโตขึ้นเยอะ ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หลินฮุ่ยยังหวงห่วงลูกดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ ผู้มาเยือนเป็นเด็กเล็ก ๆ จำนวนสองร้อยคน ทำให้ผู้คนแออัด เมื่อถึงเวลาออกมาเดินเล่น เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดมีเสียงพอสมควร ทำให้หลินฮุ่ยไม่ยอมออกมาตรงบริเวณกลางสวน หลินปิงก็พาลไม่ยอมออกมาด้วย  
โอ ไม้จัตวา
  ไปขุนช่างเคี่ยนคราวนี้ผิดหวังกับสภาพอากาศที่ทำให้ดอกไม้บานน้อยไปนิด ได้ภาพนี้มาแทนใจได้หน่อยนึง ไปถึงยามเช้า นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนที่นั่นกำลังก่อกองไฟ จุดที่เรายืน ควันไฟ แสงอาทิตย์ มาบรรจบกันพอดี มุมนี้ถ่ายมาหลายรูป แต่ได้เพียงรูปเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการถ่ายภาพ บางครั้งกดชัตเตอร์ฟุ่มเฟือยมาก แต่ได้ภาพเพียงภาพเดียว