Skip to main content

 

ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย


ปีสองปีมานี้ มีคำพูดของคนอยู่สองสามประโยคที่ฟังแล้วทนไม่ได้ ต่อมความอดทนจะระเบิด ต้องรีบปิดการสื่อสารทันที เพื่อสวัสดิภาพของอารมณ์

 

เช่นคำว่า แดงประจำเดือน  ที่ใช้เป็นคำเรียกแทนคนเสื้อแดงนั้น  คนเขียนก็ไม่น่าจะโง่ง่าวถึงขนาดไม่รู้ว่าประจำเดือนคืออะไร  บอกให้อีกครั้งว่า ประจำเดือนคือ ไข่ ของผู้หญิงที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์โดยอสุจิ  ไข่จะฝังตัวในผนังมดลูก กลายเป็นพังผืดแล้วออกมาเป็นประจำเดือนทุกเดือน  โดยไข่จะตกทุกเดือน เมื่อผสมพันธุ์ถูกเวลาก็จะกลายเป็นคน คือ เรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ นั่นแปลว่า หากเราไม่ใช่ คน ในวันนี้ เราก็คือ ประจำเดือน ในวันนั้นในอดีตของแม่

 

ฉะนั้น การเรียกคนเสื้อแดงว่า แดงประจำเดือน ด้วยนัยยะว่า ประจำเดือนเป็นเลือด เป็นของสกปรก จึงเป็นการเปรียบที่สะท้อนความไร้รสนิยม การเหยียดเลือดเนื้อของแม่ทุกคนในโลกใบนี้ ที่สำคัญคือเหยียดหยามอดีตของตัวเอง

 

คนเขียน คนคิดคำนี้ และคนที่ยินดีปรีดากับคำ ๆ นี้ ก็คือคนที่ดูถูกตัวเอง เพราะถ้าคุณไม่ใช่คน คุณก็คือประจำเดือนในผ้าอนามัยของแม่

 

ด่ากัน เปรียบกัน ด้วยคำอื่นที่สร้างสรรค์ดีกว่าว่าไปเรื่อยแบบนี้จะดีกว่า

 

อีกประโยคหนึ่งที่ทนไม่ได้ ฟังเมื่อไรก็รู้สึกอยากกลับไปเป็นประจำเดือนให้แม่ คำนั้นคือ อาหารดี ดนตรีไพเราะ คำง่าย ๆ ไม่หยาบคาย ทุกอย่างธรรมดา แต่คำพูดประโยคนี้เมื่อพูดออกมาแล้ว ในสถานการณ์นั้น จึงกลายเป็นวาจาสาธารณะ  และทำให้จำจนตายกับประโยคนี้

 

ช่วงนี้บ้านเรากลับเข้าสู่สภาวะสงครามอีกรอบหนึ่ง การเสพข่าวสารบางทีอาจทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นได้ แม้ว่าจะพยายามรู้เท่าทันและดูอ่านอย่างมีสติก็ตาม

 

เมื่อผู้ส่งสารกับผู้รับสารจูนกันไม่ได้ เราในฐานะผู้รับสารก็ปิดสื่อนั้นเสีย เพราะตราบใดที่หาความเป็นกลางไม่ได้ ทุกคำพูดเต็มไปด้วยหอกดาบหยาบคายพ่นออกมาตามหน้าเวบ เราก็ไม่จำเป็นต้องอ่านมันอีกต่อไป

 

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่รับลมหนาวด้วยความรู้สึกถึงวันอันล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้ทำอะไรกับร่างกาย  หนึ่งปีที่หมกมุ่นอยู่กับงาน ห่างหายกับการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกาย  มีโยคะบ้างบางครั้งแล้วก็มาเจออุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดอยู่กับที่ ลากยาวมาจึงถึงวันนี้กับอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ โรคประจำตัวของคนนั่งหน้าคอม และขับรถจี๊บแคริบเบียนที่เกียร์แข็งจนเส้นเอ็นที่แขนเคล็ดไปหมดกลิ่นดอกปีบหอมอบอวลไปทั้งเมือง  ลมหนาวไม่มากเริ่มพัดมาเยือน ได้เวลาออกไปดูโลกยามเช้าเสียที  วันนี้ตื่นแต่ตีห้า เตรียมตัวออกจากบ้าน บอกเพื่อนร่วมบ้านว่าจะไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์  จุดมุ่งหมายคือห้วยตึงเฒ่า ที่เก่าเวลาเดิม…
โอ ไม้จัตวา
วันนี้พาไปเดินเล่นในดอยกับพญาช้างสารอันแสนน่ารัก ด้วยการทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปกับแพ็คเก็จทัวร์ของปางช้างแม่ตะมาน สนนราคา 1000 บาทสำหรับคนไทย และ 1500 บาทสำหรับชาวต่างชาติ ออกจากเมืองเชียงใหม่แปดโมงครึ่ง ไปถึงที่นั่นราวเก้าโมงกว่า ๆ ไปเล่นกับช้างน้อยใหญ่ พาช้างไปอาบน้ำ ช้างเป็นสัตว์ขี้ร้อน แต่ช้างที่นี่ดูมีความสุข เพราะมีลำน้ำแม่ตะมานที่กว้างพอสมควรให้ช้างอาบน้ำทุกวัน ดูเหล่าช้างเล่นน้ำกันสนุกสนาน มีพ่นน้ำใส่คนที่ยืนเชียร์อยู่บนฝั่งด้วย ก่อนจะพากันขึ้นจากน้ำมาตีระฆัง เชิญธงชาติ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเป่าเม้าท์ออแกน เตะฟุตบอล นวดให้ควาญ และเดินสวนสนามดูไปดูมาฉันเห็นช้างยิ้ม…
โอ ไม้จัตวา
พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกันกล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ…
โอ ไม้จัตวา
กลับมาเดินเล่นในเรื่องคนต่อค่ะ กำลังสนุกกับการเล่าเรื่องคนรอบข้าง มีอีกคนหนึ่งที่อยู่กันมานาน ตั้งแต่เขายังเด็ก พ่อเขาทำงานในบาร์น้ำ เมื่อพ่อลากลับบ้านที่ท่าสองยาง และจะไม่กลับมาอีก จึงส่งสันติมาทำงานต่อ  เหมือนเป็นวัฒนธรรมของคนทำงานในร้าน ถ้าใครคนใดคนหนึ่งลาพัก หรือลากลับบ้าน พวกเขาจะหาคนมาทำงานแทนในหน้าที่ของเขา เพราะการลาของพวกเขานั้นต้องใช้เวลาเดินทางนาน ๆ อย่างสันตินั้น เป็นปกากญอ บ้านอยู่ในเขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทางจากเชียงใหม่ไปท่าสองยางนั้น ต้องนั่งรถไปลงที่อ.แม่สะเรียง แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ แล้วเดินอีกครึ่งวัน เมื่อกลับบ้านทีจึงต้องไปเป็นเดือน หรืออย่างน้อยก็ครึ่งเดือน…
โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง…