เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 9 สิงหาคม 2552 พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้นำกองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 40 คันรถ จาก สภ.อ.ชัยบุรี สภ.อ.พระแสง และเมืองสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจค้น อาวุธ ยาเสพติด ในชุมชนบ้านคลองไทร ต.ไทรงาม อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายโครงการนำร่องโฉนดชุมชน ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย(คปท.) โดยสุ่มค้น บ้านของชาวบ้านประมาณ 20 หลังคาเรือน โดยอ้างหมายศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหลักฐานในการขอเข้าตรวจค้น จนสร้างความมึนงงให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านซึ่งไม่ทราบสาเหตุในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางกลับ พร้อมกับความมึนงงของชาวบ้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนผ่านไปไม่กี่นาที ได้มีกองกำลังชุดคุ้มครองหมู่บ้าน(ชล.บ) ประมาณ 40 นาย นำโดย นายประสพโชค มรกต กำนัน ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ และนายอาวุฒิ ร่มจิต กำนัน ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ฯ เข้ามาในหมู่บ้านพร้อมด้วยรถแทร็กเตอร์(รถไถจาน) จำนวน 3 คัน ทราบภายหลังว่า เป็นรถไถของบริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด เพื่อทำการไถดัน ทำลายบ้านเรือนที่พักอาศัยของสมาชิกชุมชนคลองไทร จนได้รับความเสียหายจำนวน 60 หลังคาเรือน รวมถึงศาลาประชุมของหมู่บ้านอีก 1 หลัง รวมมูลค่าความเสียหายครั้งนี้ประมาณ 3,000,000 บาท
หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.ของวันเดียวกัน ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ แต่ฝ่ายตำรวจไม่รับแจ้ง
-------------------------------------------------------------------------------
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณสุรพล : 081-370-2502
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เช็กบิลนายทุนฮุบที่ดินแปลงใหญ่ในเขตปฏิรูป
เช็กบิลนายทุนฮุบที่ดินแปลงใหญ่ในเขตปฏิรูป นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ ผู้ เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมายปฏิรูปที่ดิน โฆษกสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.ป.ก.ได้เร่ง ยื่นฟ้องขับไล่ผู้ถือครองที่ดินแปลงใหญ่ที่ถือครองที่ดินอยู่เดิมในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ ล่าสุด ส.ป.ก.ได้ยื่นฟ้องต่อศาลให้ดำเนินคดีบริษัท จิวกังจุ้ย พัฒนา จำกัด ซึ่งถือครองที่ดินโดยผิดกฎหมายในเขตปฏิรูปที่ดินคาบเกี่ยวพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือและไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดิน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ได้มีคำพิพากษาให้ ส.ป.ก.ชนะคดี โดยวินิจฉัยว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของ ส.ป.ก.ตามมาตรา 36 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร กรรมฯ บริษัท จิวกังจุ้ยฯจึงไม่มีสิทธิที่จะถือครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. และสั่งให้บริษัทจิวกังจุ้ยฯพร้อมบริวารออกจากที่ดินผืนนี้ โดยให้รื้อถอนอาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไปจากที่ดินและส่งมอบที่ดินคืนให้กับ ส.ป.ก.โดยเร็ว ?ในปี 2551 ส.ป.ก.ได้กำหนดมาตรการที่จะดำเนินการกับผู้ครอบครองและ ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูป 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเกษตรกรรายแปลง ที่ได้รับการจัดที่ดินจาก ส.ป.ก.ไปแล้วจำนวน 1.69 ล้านราย เนื้อที่กว่า 27.6 ล้านไร่ โดยจะเร่งเจรจาลดขนาดการใช้ประโยชน์ที่ดินรายแปลงตามศักยภาพของเกษตรกร พร้อมดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบ หากตรวจพบว่ามีการโอนเปลี่ยน มือหรือไม่เข้าทำประโยชน์ 2.กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อกิจการสาธารณูปโภค เช่น ขอใช้ที่ดินสร้างสถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด ฯลฯ หากตรวจสอบพบว่า มีการใช้ประโยชน์ไม่เต็มพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตหรือใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะสั่งเพิกถอนการอนุญาตหรือลดขนาดพื้นที่ 3.กลุ่มภาคเอกชน ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ ในที่ดินเพื่อกิจการสาธารณูปโภค หรือกิจการเกี่ยวเนื่องกับการปฏิรูปที่ดิน หรือได้รับความยินยอมให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติในเขตปฏิรูปที่ดินตามกฎหมายอื่น เช่น การขอสำรวจแร่ ทำเหมืองแร่ หากพบว่าใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรและ สิ่งแวดล้อม จะดำเนินการเพิกถอนทันที และ 4.กลุ่มเกษตร/บุคคล ที่ไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน เช่น นายทุนที่ถือครองที่ดินแปลงใหญ่ จะเร่งเจรจาและดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ถือครองที่ดินแปลงใหญ่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ให้เข้าร่วมกระบวนการปฏิรูปเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป? นายสถิตย์พงษ์ กล่าว.
ที่มา : เว็บไซต์ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(สปก.)
http://www.alro.go.th/alro/alro_prov/template/newspaper_2.jsp?provCode=08&newsNo=36