เมื่อไม่นานมานี้คุณสุรีรัตน์ ตรีมรรคา ร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคฝ่ายกิจการโทรคมนาคม “เรื่อง การเซ็นต์สัญญาการใช้งาน Max net Broadband Internet” ที่ให้บริการโดย บริษัททีทีแอนด์ทีจำกัด(มหาชน) (TT&T)ซึ่งทางผู้ให้บริการติดต่อมายังคุณสุรีรัตน์ให้เซ็นต์สัญญาชุดใหม่ที่ทำขึ้นระหว่างผู้ให้บริการรายใหม่ คือ บริษัททริปเปิ้ลทรีบร์อดแบนด์จำกัด(มหาชน) (Triple T)ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการทำการตลาดและให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตของTT&T และผู้ใช้บริการคือคุณสุรีรัตน์ แม้ว่าการให้บริการต่างๆทางอินเตอร์แก่ผู้ใช้บริการจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยก็ตาม ตลอดระยะเวลาเกือบสี่เดือนนับตั้งแต่วันแรกที่ทาง TT&T ติดต่อมาและนำเอกสารสัญญาไปที่บ้านจนกระทั่งวันนี้ คุณสุรีรัตน์ยังไม่ได้เซ็นต์สัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด แม้ว่าจะถูกเร่งรัดจากทาง TT&T อยู่เรื่อยๆก็ตาม
สาเหตุที่ยังไม่เซ็นต์สัญญานั้น คุณสุรีรัตน์ให้เหตุผลว่า “สิ่งที่เป็นกังวลก็คือว่า เราถูกเปลี่ยนผู้ให้บริการโดยที่ไม่ได้รับการบอกกล่าวหรือว่าแจ้งให้ทราบเลย ตอนนี้เราถูกย้ายผู้ให้บริการแต่ว่าบริการเราไม่ถูกตัด แต่ว่าคุณภาพบริการเป็นยังไงเราก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ก็เลยคิดว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นี้กับบริการอื่น ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่มันเป็นปัญหาตอนนี้ก็คือ กรณี 3G ซึ่งถ้าตอนนี้เขาให้อนุมัติ 3G ขึ้นมา บริษัทที่ได้สัมปทาน 3G นี่ถ้าเกิดเป็นบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่ ให้บริการมือถือเราอยู่ แล้วอยู่ๆเขาย้ายเราไปให้บริษัทใหม่เลย ได้หรือเปล่า เพราะว่าเดิมนี่ บริษัทที่ให้บริการมือถือเดิมของเรานี่เขาต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ แต่ว่าถ้าเขาไปได้ใบอนุญาต 3G แล้ว บริษัทจะไปทำ 3G โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐอีกต่อไป มันก็เลยทำให้เราคิดว่า บริษัทจะย้ายผู้ให้บริการต่อไปแล้วเขาก็ไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐ เขาเอาไว้ในคลื่นใหม่ที่เขาได้รับการจัดสรรใหม่เลย ซึ่งประชาชนอาจจะยินดีก็ได้ อยู่ๆเราก็ถูกย้ายบริการจากผู้ที่ให้บริการเราอยู่ 2.5G แล้วถูกย้ายไปอยู่ 3.5Gเราก็อาจจะพอใจก็ได้เพราะว่า แต่ว่านั่นเป็นการให้บริการต้นทางแต่ว่าบริการปลายทางก็คือเราก็ต้องซื้อเครื่องใหม่ เพราะว่าเครื่องเราใช้กับ 3G ไม่ได้ แต่ว่าแบบนี้มันทำให้ย้ายผู้ให้บริการได้ เป็นเรื่องที่กังวลและเรื่องนี้ก็มีผู้บริโภคติงไปกับ กทช. ว่ารีบร้อนให้ประมูลใบอนุญาต 3G มันจะทำให้ผู้ให้บริการเลี่ยงการจ่ายสัมปทานได้”
นอกจากเหตุผลเรื่องการเปลี่ยนผู้ให้บริการโดยไม่เจ้งให้ทราบและการจ่ายค่าสัมปทานให้รัฐแล้ว คุณสุรีรัตน์ยังมองว่า ตอนแรกที่TT&T เร่งรัดให้เซ็นต์สัญญานั้น เนื่องจากเขาไม่สามารถหักค่าบริการจากบัตรเครดิต ดังนั้นมันจึงหมายความว่าไม่ได้จ่ายค่าบริการ Broadband Internet เป็นเวลาสามเดือนและเดือนที่สี่ทาง TT&T ก็ส่งใบเสร็จไปที่บ้านพร้อมยอดชำระของสองเดือนที่ผ่านมาด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความงุนงงเป็นอันมากและคุณสุรีรัตน์ยังไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับการหักค่าบริการทางบัตรเครดิตในระยะนี้แต่อย่างใด
ซึ่งทางคุณสุรีรัตน์ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการเซ็นต์สัญญาฉบับใหม่นี้แต่อย่างใด เพราะนอกจากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทาง TT&T ยังไม่ระบุไว้ด้วยว่า “หากเซ็นต์สัญญาฉบับใหม่แล้ว สัญญาฉบับเก่าจะถูกยกเลิกไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมา ควรจะยึดสัญญาฉบับไหนเป็นหลักแน่”