ค่ำคืนที่ผ่านพ้นไป (1) : ประชาไทไนท์ อินบางกอก ตอน แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ (เขียวตาเดียว)

ประชาไท night

Prachatai team

สนุกสนานมากมายกับคืนที่เพิ่งผ่านพ้นไป ในงานประชาไทไนท์ เมื่อค่ำ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา

ขอบคุณทีมงานเพชะคุชะ ซึ่งมาจาก ทีมไบโอสโคป ที่ร่วมแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอรูปแบบใหม่ๆ ที่มาของกติกา 20x20 ก็มีต้นตำรับมาจากงานเพชะคุชะที่เคยจัดในกรุงเทพฯมาแล้ว 3 ครั้ง

สิ่งทีประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นบรรยากาศอันแสนอบอุ่น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้เจอหลายต่อหลายคนที่เราแอบรู้จักมานาน ส่วนใหญ่ เราแอบรู้จักเค้า แต่เค้าไม่รู้จักเรา ตื่นเต้นที่ได้เจอ merveiillesxx , ปิ่น ปรเมศวร์ , grappa แห่งสำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด , Rerng®IT Rakkanittakorn , phisite หัวแรงใหญ่จากวิกิพีเดียไทย , hunt แห่ง zickr.com , ต่าย แห่ง exteen , ตาล กล้า และออยแห่งดูโอคอร์ , พีแห่งจิกกะบาล , รวมถึงก๊วนสหายหนุ่มใหญ่จากพลวัต ไม่ว่าจะเป็น ไท ศรศิลป์ ที่ควงคู่ออกงานมากับ ไฟลามทุ่ง

บล็อกเกอร์ที่ได้มีโอกาสได้รู้จักเพิ่มขึ้นจากงานนี้ ก็เช่น sucha , sofa , @พักใจ , poomk , burlight คิดว่าต้องมีมากกว่านี้อย่างแน่นอน ใครที่มาในงาน แวะมาแนะนำตัวกันเลย หลายคนบอกว่าประหม่าและไม่คุ้นเคยที่ต้องมางานซึ่งดูเหมือนใครต่อใครรู้จักกันไปหมด แต่ความจริง เราก็อยากทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากขึ้นด้วย

งานเริ่มต้น ก็ผิดคิวไปจากที่วางไว้ตลอด เมื่อผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่ง Stephen Kelly เข้ามาแนะนำว่าตัวเป็นศิลปินอิสระจากออสเตรเลีย และอยากเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วย เขาไม่ได้ทำสไลด์ 20 x 20 มา แต่เขายินดีอยู่ในกติกาของงานที่จะใช้เวลากันไม่เกินคนละ 400 วินาที อ.มะนาว - จิตร์ทัศน์ ฝักเจริญผล พิธีกรงานนี้กระซิบว่า งานนี้เราเปิดกว้างอยู่แล้ว ไม่มีปิดกั้น! ประชาไทไนท์คืนนั้นเลยมีศิลปินมาช่วยเปิดบรรยากาศของงานด้วยการแสดงประกอบการเล่นดนตรี วาดภาพ และร่ายรำ ตราตรึงใจกันไปทั้งงาน

แล้วการพรีเซนต์แบบ 20 x 20 ก็เริ่มขึ้น ผู้นำเสนอในงานนี้ มีรวม 14 คน ผู้นำเสนอ และหัวข้อที่พูด เรียงลำดับตามการนำเสนอ มีดังนี้

mk เรื่อง บันได 4 ขั้นบันได 4 ขั้นสำหรับการต่อสู้ยักษ์เขียว

จามร ศรเพชรนรินทร์ , นิทานการต่อสู้ของยักษ์เขียวตาเดียว

คนชายขอบ , ถ้ายักษ์เขียวตาเดียวมีอารมณ์ขัน และเปิดใจกว้างขึ้นอีกนิด...

filmsick , 10 หนังสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตกองเซ็นเซอร์

Roby Alamphy กับวาทะเด็ด "พวกเราไม่ได้โดดเดี่ยว"

ภฤศ ปฐมทัศน์ , 20 เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Censorship,แบบแผนนิยม

กานต์ ยืนยง , ทำไมต้องต่อต้านการเซ็นเซอร์

แจ็ค, เรื่องราวเกี่ยวกับความจริง และความลวง

มะนาว , เรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้กล้าและยักษ์ในดินแดนแห่งใหม่

จอน อึ๊งภากรณ์, คุณพ่อรู้ดี พลเมืองจอมซน กับประสบการณ์ในการมุดด้วย ghostsurf

ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ , บทเรียนที่กระทรวงบล็อคควรได้รับ

โจว ชิง หมาเกิด , เสรีภาพ ความรัก ความคิดถึง

สุภิญญา กลางณรงค์, ประสบการณ์การพูดคุยในเรื่อง free speech

Bact' , วิธีสื่อสารที่ MICT จะตามมาเซ็นเซอร์ไม่ได้

รออ่านเรื่องเล่าจาก "ค่ำคืนที่ผ่านพ้นไป ตอน 2" รอชมสไลด์ วาทะเด็ดแต่ละคน พร้อมกอซซิปหลังไมค์ (กรี๊ด)

อย่างไรก็ดี เลิกงานไม่ทันไร บล็อกเกอร์บ้าพลังทั้งหลายก็เล่าเรื่องงานในค่ำคืนนั้นเอาไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะใน Rerng®IT Rakkanittakorn , filmsick , bact' , mk , คนชายขอบ , Developed Thailand รวมถึงใน blognone, พลวัต และเว็บบอร์ดพลวัต และรูปภาพในอัลบั้มของ isriya , arthit และตบท้ายด้วย ประชาไท

ท้ายที่สุด อาจจะเน่าไปนิดนึง :p ทีมประชาไทก็คุยกันว่า รู้สึกดีที่คนในงานยิ้มแย้ม เราเคยคุยกันเรื่องจะทำยังไงให้พลังบล็อกเกอร์ในเมืองไทยรวมตัวกัน ขยายตัวมากขึ้น และเข้มแข็งมากขึ้น จากงานนี้ เราก็พบว่า สังคมไทยยังมีดินแดนใหม่ ที่มีคนพิเศษๆ ซ่อนอยู่มากมายเต็มไปหมด

คุณคือคนพิเศษ ทุกคนมีความพิเศษในตัวทั้งนั้น

ทัศนะและมุมมองที่หลากหลาย ที่มีต่อการเซ็นเซอร์ ต่อเรื่องเสรีภาพ เป็นเรื่องน่าสนใจที่ต้องคุยกันไปอีกยาว สิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือ เราต่างต้องการอิสรภาพ แม้ว่าระดับการ "ยอมรับได้" ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ ธรรมดา

อย่างไรก็ดี จริงอย่างที่ Roby Alamphy นักข่าวจากฟิลิปปินส์ว่าเอาไว้ว่า เราไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะมีทั้งเพื่อนสื่อมวลชน บล็อกเกอร์ ทั้งในเมืองไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เผชิญปัญหาเดียวกัน ร่วมเฝ้าดู ลุ้น และพร้อมสนับสนุน

"อิสรภาพของคุณ คืออิสรภาพของเรา (ขอบอก ขอบอก)" Roby กล่าวไว้อย่างงั้น

night

night

night

night

night

night

night

night

night

night

night

night

คลิปประชาไทไนท์ (แจ๊คหมายเลข 7) เรื่องราวเกี่ยวกับความจริง และความลวง

การรับรู้ของคนเรา ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละบุคคล ในบางมุม เราอาจมองกระต่ายแล้วกลายเป็นเป็ด หรืออาจจะมองเป็ดให้กลายเป็นกระต่ายก็ได้ (ใครจะรู้?)

ในเวลาเดียวกัน ความหมายของวัตถุที่แต่ละคนมองก็ไม่เคยเหมือนกัน เพราะมุมมองของบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับความต่างของพื้นที่ ความต่างของวัฒนธรรม และความต่างทางบริบท (อื่นๆ อีกมากมาย) ใช่หรือไม่?

แล้วมันผิดตรงไหน หากใครจะมองเห็นอะไรต่างมุมกัน? ในเมื่อวัตถุหรือสัญลักษณ์บางอย่างนั้นล้วนแปรเปลี่ยนความหมายไปตามการรับรู้ของผู้คน

มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการรับฟังและเปิดใจมองไปยังมุมที่ต่างจากมุมเดิมๆ ของเราบ้าง? แทนที่จะดึงดันให้คนซึ่งอยู่อีกฝั่งมามองเห็นในสิ่งที่เดียวกับที่เราเห็น?

นั่นคือการตั้งคำถามระหว่างเสนอภาพ 20x20 ของบล๊อกเกอร์หนุ่มนักศึกษานามว่า ‘แจ๊ค' ผู้มาร่วมงานแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ ประชาไทไนท์

ไม่ต้องตอบคำถามของเขาก็ได้...แต่ลองตั้งคำถามกับใจตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกน่าจะดี

คลิปประชาไทไนท์ (แจ๊คหมายเลข 6) 'หนังของกู' หรือ 'หนังของใคร?'

เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้...ภาพยนตร์ถูกยกย่องว่าเป็นอีกแขนงหนึ่งของ ‘ศิลปะ' ซึ่งไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่มีคุณค่าทางจิตวิญญาณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ศิลปะภาพยนตร์แตกกิ่งก้านสาขาออกไปหลายขนานและทำหน้าที่สะท้อนสังคมแต่ละยุคอย่างขยันขันแข็ง

ณ วันนี้ ภาพยนตร์เกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมากและมีรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างกัน แต่ภาพยนตร์บางประเภทเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ซึ่งนอกจากเหตุผลทางรสนิยมแล้ว คงจะมีเหตุผลทางวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องในการ ยอมรับ/ไม่ยอมรับ ภาพยนตร์แต่ละประเภทด้วย แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์บางประเภทไม่มีที่อยู่ที่ยืนในสังคมบางแห่ง ซึ่งวัฒนธรรมกระแสหลักพยายามเบียดขับให้วัฒนธรรมย่อยตกหล่นไปจากพื้นที่การรับรู้ของคนในสังคม

มาตรฐานเรื่องศีลธรรม, ความรุนแรง, ความล่อแหลมอนาจาร ไม่เคยได้รับการถกเถียงอย่างจริงจัง มีเพียงคนบางกลุ่มที่ถูกคัดเลือกโดยคน (อีก) บางกลุ่มเท่านั้น ที่มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าอะไรดี-ไม่ดี รุนแรง-ไม่รุนแรง ทั้งที่เรื่องราวซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นกันในภาพยนตร์ อาจไม่ต่างอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมนั้นๆ เลย

ภาพยนตร์บางประเภทจึงถูกมองว่าเป็น ‘หนังส่วนตัว' และมีคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้นที่นิยมชมชอบ

ความเป็น ‘หนังเฉพาะกลุ่ม' จึงมักจะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของผลผลิตจากวัฒนธรรมย่อย...ซึ่งแน่นอนว่ามันมักจะได้รับการตัดสินว่าไม่ดีหรือไม่มีค่า (ถึงขั้นไม่รับผิดชอบต่อสังคม) เทียบเท่ากับภาพยนตร์ที่มาจากวัฒนธรรมกระแสหลัก

หลายครั้งที่ตัวแทนจากแวดวงภาพยนตร์เฉพาะกลุ่มพยายามหาที่ทางให้กับผลงานของตัวเอง พวกเขาก็ต้องเสี่ยงต่อการโดนแปะฉลากว่าเป็นพวกที่ยึดถือตัวกู-ของกู และใครบางคนอาจมองว่าพวกนี้เป็นคนประเภท ‘หนังของกู-เพลงของกู ห้ามเซ็นเซอร์'

ก็ว่ากันไป...

เพราะในความเป็นจริง เราทุกคนล้วนยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกต้องดีงามด้วยกันทั้งนั้น การถกเถียงเรื่อง ความจริง-ความดี-ความงาม จึงไม่เคยยุติลง แต่ขอเพียงเรายังถกเถียง เราก็ยังมีโอกาสได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยน และเติบโต

หากเมื่อไหร่ที่คนส่วนใหญ่ใช้เสียงข้างมากเข้ามาเป็นเงื่อนไขในการทำให้เสียงอื่นเงียบลง...เมื่อนั้นเราจะมีอะไรให้ต้องสร้างสรรค์กันอีก?

อย่าลืมว่าความ ‘หยาบ' ของกระดาษทราย ทำให้วัสดุมากมายเรียบเนียนมาได้นักต่อนักแล้ว...

 

 

คลิปประชาไทไนท์ (แจ๊คหมายเลข 5) การต่อสู้ของยักษ์เขียวตาเดียว

นิทานออนไลน์ ฉบับ ประชาไทไนท์' บอกเล่าโดย jamorn คือ เรื่องราวของเหล่ามดดำที่อยู่ภายใต้การชี้นำของยักษ์ตัวหนึ่งที่คอยควบคุมถนนหนทางในการสื่อสารและเข้าถึงข้อมูล...

จนกระทั่งวันหนึ่ง ยักษ์ตัวนั้นเกิดกรณีพิพาทกับ ยักษ์ตู๊บ' ซึ่งมีพ่อเป็น ยักษ์ขาวผู้ยิ่งใหญ่' !

เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามดูได้้ในคลิปวิดีโิอเรื่อง การต่อสู้ของยักษ์เขียวตาเดียว'

คลิปประชาไทไนท์ (แจ๊คหมายเลข 4) วิธีรับมือยักษ์เขียวตาเดียว

บล๊อกเกอร์ mk (ผู้มิได้เกี่ยวข้องใดๆ กับ เอ็มเคสุกี้ Laughing) มาพร้อมกับสไลด์ 20x20 บอกเล่า 'บันได 4 ขั้น' วิธีรับมือยักษ์เขียวตาเดียวในโลกไซเบอร์

คลิปประชาไทไนท์ (แจ๊คหมายเลข 3) "บอกกันมาตามตรงดีกว่า.."

แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ (เขียว) ตาเดียว หมายเลข 3 ของประชาไทไนท์ คือ บล็อกเกอร์ชื่อดัง นามว่า คนชายขอบ

ขอชวนใครต่อใครไปอ่านความหมายที่ซ่อนอยู่ 'ระหว่างบรรทัด' ในเวลาที่นักท่องเน็ตเจอกับข้อความของยักษ์เขียวตาเดียวจากกระทรวงที่คุณก็รู้ว่า (เป็นของ) ใคร...ปรากฎอยู่เต็มหน้าจอ