Skip to main content

 

เวลาคุณเกิดอาการท้องเสียอย่างฉับพลันรุนแรง คุณอาจเคยใช้บริการยาประเภทกินเพื่อหยุดท้องเสียโดยฉับพลันเพื่อจะได้ไม่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทุก 10 นาที แต่อุจจาระเน่าในร่างคุณก็ยังคงมิได้หายไปไหนและยาก็มิได้มีผลดีต่อสุขภาพคุณในระยะยาว

สิ่งที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทำโดยการประกาศกฎอัยการศึกไม่ต่างจากการยัดเยียดยาอั้นอุจจาระทางการเมืองให้กับสังคมไทย ซึ่งจะไม่ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริงและไม่เป็นผลดีในระยะยาว

บ้านเมืองอาจดูเงียบสงบชั่วคราวเพราะกฏอัยการศึกแต่มันเป็นความสงบอันจอมปลอมภายใต้กระบอกปืน แถมการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนภายใต้กฎอัยการศึกรังแต่จะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมเสพวัฒนธรรมเผด็จการ

ผู้เขียนจำมิได้ว่าได้เคยไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ พลเอก ประยุทธ์ เป็นเผด็จการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ และผู้เขียนก็มิต้องการสังคมสงบภายใต้กระบอกปืน

ความสงบเรียบร้อยอย่างปลอมๆเกิดขึ้นเพราะสื่อที่เลือกข้างการเมืองถูกปิดเรียบ ไม่ว่าวิทยุชุมชนทั้งราชอาณาจักรหรือทีวีเลือกข้างรวม 11 ช่อง ส่วนสื่อสิ่งพิมพ์ก็ถูกห้ามมิให้ตีพิมพ์เผยแพร่ข่าวและข้อความใดๆที่อาจกระทบความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งอาจแปลได้ว่าอะไรก็ได้ที่เห็นแตกต่างและไม่เป็นที่พอใจ พลเอก ประยุทธ์

ในสังคมตอแหลแลนด์ เราอาจแปล ‘การขอความร่วมมือ’ เป็น ‘การทำตามคำสั่งกูผู้มีปืนและรถถัง’ ได้ อาจแปล ‘กฎอัยการศึก’ เป็น ‘รัฐประหารซ่อนรูป’ ได้

กฎอัยการศึกปลูกฝังให้คนไทยเชื่อว่าคนไทยไม่สามารถอยู่กับความเห็นต่างโดยปราศจากการเซ็นเซอร์

กฎอัยการศึกษาสอนเราว่าประชาชนไทยมิใช่ผู้กำหนดชะตากรรมของตนเอง หากต้องพึ่งรถถังและการถูกบังคับใต้กระบอกปืนอยู่ร่ำไป

หนังสือภาษาอังกฤษหกเล่มที่เขียนอย่างเท่าทันการเมืองไทยเพิ่งและถูกถอดออกจากแผงร้านหนังสือคิโนะคูนิยะบอกเราเช่นกันว่าผู้ยึดอำนาจมองเห็นประชาชนเป็นเพียงผู้เสพข่าวสารที่คักสรรจากทหารและปฎิบัติตามคำสั่งใต้กฎอัยการศึกอย่างเซื่องๆ

ผมไม่แน่ใจว่า พลเอก ประยุทธ์ หวังดีต่อสังคมหรือไม่ ผมยังอยากจะเชื่อว่าแกหวังดี แต่หากแม้นการประกาศกฎอัยการศึกเป็นความหวังดีจริงๆ มันก็ไม่ต่างจากยาแรงที่กินเป็นอั้นอุจจาระชั่วคราวเกิดขนาด

และยิ่งอั้นให้ดูสงบเรียบร้อยนานเท่าใด สังคมไทยก็ยิ่งกลายเป็นสังคมเผด็จการอำนาจนิยมที่พร้อมจะระเบิดจนอุจจาระกระจายมากเท่านั้น

 

 

บล็อกของ ประวิตร โรจนพฤกษ์

ประวิตร โรจนพฤกษ์
1) กว่า 90% ของผู้เสียชีวิตคือผู้ชุมนุมธรรมดา -ปี 2553 จากร้อยศพผมนึกได้เพียงชื่อ เสธ.แดง กับพันเอกร่มเกล้า2) กว่า 99% ของผู้อยู่แนวหน้าเวลาเกิดเหตุเผชิญหน้าปะทะคือผู้ชุมนุมธรรมดา หาใช่แกนนำไม่ –แกนนำมักคอยปลุกปั่นท่ามกลาง ‘มวลมหาประชาชน’ หรือม็อบจากบนเวทีแนวหลัง
ประวิตร โรจนพฤกษ์
ถึงเวลา countdown ความคลั่งชาติแล้วสินะพวกพี่น้องใครจับจ้องรอดูทีวี ถ่ายทอดสดศาลโลกบ้างฆ่ากันตายกี่ล้านศพในนามความคลั่งชาติเกลียดกันนานกี่ศตวรรษในนามชาตินิยมดูถูกคนรวมกี่ชาติในนามวัฒนธรรมอันดีงามทิ้งบ้านทิ้งครอบครัวไปกี่รอบเพื่อไปตายแทนชนชั้นนำ
ประวิตร โรจนพฤกษ์
การพยายามผลักดัน พรบ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งสุดซอยโดยอย่างเร่งด่วนโดยพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร เป็นการผลักภาระการสังหารประชาชนโดยมิต้องรับผิดชอบใดๆให้เป็นมรดกเลือดตกทอดแก่ลูกหลานชาวไทย