ลมหนาวยังไม่มาเยือน แต่อาคันตุกะมากหน้าแวะเวียนผ่านมาหลายคราแล้ว ชานหน้าบ้านกลายเป็นที่ชุมนุมคารวะดื่มด่ำภูเขา หมาแมววิ่งพล่านด้วยความตื่นเต้น เห่าเสียงเครื่องยนต์ไม่คุ้นหู ยื่นหน้ามาสูดกลิ่นยั่วน้ำลายในโตก ความรื่นเริงของหมู่มิตรอึกทึกแข่งเสียงนกในทุ่งสงัด
แนวเทือกเขาซ้อนเหลื่อมชายแดนค่อย ๆ เผยเรื่องเล่าผ่านริมฝีปากพี่ชาย* ย้อนไปตั้งแต่ครั้งที่เรายังเด็ก ยามโถงรับแขกของทุกบ้านมีดอกฝิ่นแห้งประดับแจกัน การแตกแยกอันนำไปสู่สงครามระหว่างชนเผ่าในประเทศเพื่อนบ้าน การติดตามไล่ล่าข้ามดอย รบพุ่ง ทิ้งซากร่างและเม็ดกระสุนในเขตเชียงดาว ผืนโลกอัดแน่นด้วยเรื่องราว ตามเส้นทางลัดเลาะบนโขดเขาสีน้ำเงิน ขบวนม้าต่างวัวต่างยังส่งเสียงกระดึงกังวาน ราวกับยังมีชีวิต มีคราบเลือดสด ๆ และร่องรอยจากพราก
เราร้องบทเพลง ดื่มกิน พูดคุยสารพัดสารพันถึงโลกที่ไม่สิ้นสุด ถึงความคิดเก่าแก่ที่ล่วงผ่านนานนับศตวรรษ ถึงผู้คนที่แบกความคิดชัดเจนอันหนึ่ง และใช้ชีวิตประดุจสักขีพยาน ถึงความทุกข์ ความคับข้องในจิตใจแต่ละคน ตลอดจนความคิดเห็นเรื่องโลกที่เป็นอยู่และกำลังจะมาถึง ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น มิตรภาพไหลเวียนท่วมท้น
อ้ายแสงดาว, อ้ายไพฑูรย์, พี่น้อย, พี่นนท์, พี่เสย-พี่อ๋อง, พี่หน่อย-จิตรกร, หญิง,พี่โอ๋, หน้อย-นายและลูกชายที่น่ารัก, น้องแพรกับน้องภู, กานต์ ณ กานต์กับน้องฝน, พี่วิ, พี่แก้ว, หลวง, ภู เชียงดาว, อาร์ต, เด็กหญิง ป. และใครต่อใครอีกหลายคน.......................................................................
บนความแตกต่างหลากหลาย เราคือผู้ที่พยายาม “เป็น” อยู่ระหว่างหนทางแห่งการสรรค์สร้างตราบชั่วชีวิต บางครั้งรู้สึกงุนงงกับตัวตนที่สร้างไม่เสร็จ สับสน ไม่อาจยอมรับความขัดแย้งที่อีกคนเป็น แต่ทั้งหมดนั้น มิตรภาพยิ่งใหญ่ แหละเราล้วนมีฝันเดียว- ถึงโลกที่ดีกว่า จนไม่น่าจะสะดุดขากันเอง เราเป็นมนุษย์น้อย ๆ เท่านั้น ยังอยู่ระหว่างเพียรสร้าง เป็นประติมากรรมที่ไม่แล้วเสร็จ แต่ละคนมีเพียงความคิด ความรู้ และประสบการณ์ที่ผ่านสำหรับใช้เป็นหลักบอกแนวทาง
ท้องฟ้าแผ่ไพศาล กว้างไกลจรดขุนเขา ภูผาสูงตระหว่าน สงบนิ่ง อดทน ไม่ตัดสิน ฤดูกาลเปลี่ยนแปร ไม่มีสิ่งใดคงเดิม มิตรภาพอบอุ่นเกี่ยวร้อยเราที่แตกต่าง ดุจดั่งชีวิตหลากหลายในท้องทุ่ง
มองจากจักรวาลเวิ้งว้าง นักบินอวกาศไม่สนใจดาวฤกษ์สุกสว่างโกฎิล้านดวง เขาเฝ้ามองหาดาวเคราะห์สีฟ้าดวงเล็ก ๆ ที่หมุนลอยอย่างนิ่มนวลในระบบสุริยะ เขาจดจำเสียงสายลมพลิ้วผ่านทุ่งหญ้า สายน้ำใสสะอาดฉ่ำชื่น และขุนเขาสีน้ำเงินเยือกเย็น บนโลกมีมหาสมุทรลึกล้ำ สะท้อนแสงสีฟ้าขึ้นมาไกลถึงดวงดาว มีนกเล็ก ๆ น่ารัก มีผีเสื้อและมวลดอกไม้ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด ดาวน้อยดวงนี้มีผู้คนที่เขารัก
โลกใบนี้แม้งดงามสมบูรณ์ เปี่ยมชีวิตชีวาปานใด ย่อมเป็นเพียงทัศนียภาพอันเวิ้งว้าง หากปราศจาก ‘มนุษย์’...
* พี่น้อย, อัคนี มูลเมฆ นักแปล นักคิด และอดีตนักข่าวผู้คร่ำหวอดเรื่องอินโดจีน