การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน...
ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป ถึงขีดหนึ่งคือความไร้สาระ เนื้อแท้ นาฏกรรมคือนาฏกรรม ผืนพิภพไม่ตัดสินให้ค่าความเป็นไปบนเปลือกโลก การกระทำของฉันสลายไปในอากาศ ก้าวถอยออกจากรูปรอยที่ตนขีดสร้าง นิ่งค้าง พึ่งพาผืนดิน สงบชีพจรเร่งลง
เพ่นพ่านไปในโลกแล้วตลอดฤดูร้อน ออกไปพูด ออกไปคิด ออกไปกระทำ สัตว์คนตนนี้ต้องการจำศีล จากที่ไหนสักแห่งในตัวร้องบอก ส่งสัญญาณออกมา ความขุ่นข้องเสียดทาน ร่าเริงสุขสันต์ทั้งปวง การสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแม้แต่การพยายามทำความเข้าใจ ทุกอย่างหยุดตัวมันเอง ดวงตายุติการมองเห็นนอก-ใน ริมฝีปากหุบปิด ปล่อยถ้อยคำอออยู่หน้าประตู แล้วอ่อนล้าล่าถอยไป สมองไม่คิดอะไรต่อ จิตใจหยุดดูอยู่ริมฝั่งกระแสความรู้สึก เครื่องจักรตนนี้กำลังปิดตัวเอง ไม่ใส่ใจแล้วว่า พรุ่งนี้จะต้องตื่นขึ้นมาอีกหรือไม่
ฉันนอนอยู่ในวงล้อมแห่งป่า ห่างไกลจากทุกสิ่ง ประเทศชาติ การเมือง ความรัก วรรณกรรม อุดมคติ นอนเคียงข้างตัวเอง ถอดปลั๊ก ปลีกวิเวกจากชีวิต เป็นอะไรบางอย่าง ก้อนชีวิตบางสิ่ง หยุดนิ่งในกายที่ราบลง รู้สึกไปในต้นไม้ รู้สึกไปกับผืนดิน รู้สึกต่อธรรมชาติที่เบาแสนเบา เรียบ นิ่ง หายใจในจังหวะสม่ำเสมอ โอบเอื้อ ค้ำจุนสรรพสิ่ง
แจ้งบอกผู้คนหน้าประตูกระท่อมภายใน ฉันกำลังจำศีลหลีกลี้จากกิจกรรมแห่งโลก อิ่ม เอียนความรู้สึก ท่วมท้นกับทุกปรากฏการณ์ในฤดูกาลพ้นผ่าน เวลานี้ ฉันกำลังอยู่หลังเวที ซุ่มซ่อนอยู่ในความมืด ไม่คิด ไม่เคลื่อนไม่รู้สึกใดๆ รอคอยจนกว่าละครจะเปิดฉากอีกครั้ง
ในห้วงแห่งการจำศีลอันดิ่งลึกยาวนาน เทียบเท่าหนึ่งวันในโลกมนุษย์.......