Skip to main content

ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้ คล้ายกับเป็นอีกดอย



ดอยหลวงที่ตูบตีนดอย


เช้าวานนี้ ลมหนาวพัดมาอย่างเริงร่า ไทรใหญ่สะบัดใบกรูเกรียวเป็นเพลงไพเราะ ใยเมฆสำลีถูกฉีกออกเป็นปุย ๆ แผ่กระจายทั่วฟ้า ฤดูกาลใหม่ก้าวย่างมาเต็มบรรยากาศ เมื่อสัญญาณกาลเวลาจางจาก แดดยามวันเปล่งแสงแรง เรากะการณ์ว่าจะถอนหญ้า ขุดดินเมื่อแดดรา พลันความมืดย่างมาอย่างรวดเร็วเมื่อแสงร้อนลับหาย ดวงตะวันที่ตกกึ่งกลางยอดเขาเหลือช่วงรอยต่อสนธยาเพียงน้อยนิด อากาศเย็นลงทันทีเมื่อปราศจากแสงตะวัน แต่ก็อีกไม่นานนัก ตะวันที่เคยหล่นลับฟากทางเหนือข้างดอยนางจะอ้อมข้าว อ้อมภูเขามาทางลาดเนินด้านทิศใต้ แสงสนธยาจะยาวนานขึ้นอีกนิดหนึ่ง


ตีนดอยหลวงกับดอยนาง ยังคงมีการดำริสร้างพระปฏิมาประทับยืนใหญ่ที่สุดในโลก สูงถึง
59 เมตร เทียบเท่าตึก 20 ชั้น สูงกว่าพระยืนจำหลักบนหน้าผาเมืองบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งถูกทำลายด้วยการเมืองหรือความเบาปัญญาของรัฐบาลตาลีบัน* จะสร้างกันบนพื้นที่ประชิดหรือที่เรียก ‘ที่ป่าไม้กันเขต’ ซึ่งอยู่ติดกันกับเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นเชิงเขาหินปูนที่ไม่แน่ว่า แข็งแรงมั่นคงพอที่จะรองรับฐานรากหรือไม่


ฉันเชื่อทีเดียวว่า ท่านเหล่านั้นคิดสร้างด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ดุจดังเช่นการก่อสร้างศาสนวัตถุทุกทั่วหัวระแหง เราชาวพุทธล้วนเชื่อว่า การสร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ หรือพระพุทธรูปนั้นเป็นบุญอันยิ่ง ในชีวิตที่ยากลำบากระหกระเหินทั้งใจและกาย ควรได้สร้างบุญไว้ จะได้คลายความทุกข์ตรมทั้งชาตินี้และชาติหน้า เสียดายที่เราส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เลือกใช้วิชาดับทุกข์ ณ ปัจจุบันซึ่งพระพุทธองค์อุทิศชีวิตแสวงหา


ในสามระดับ ทาน ศีล ภาวนานั้น ทานคงกระทำได้ง่ายที่สุด เพียงแค่อยู่บ้านเฉยๆ กรอกตัวเลขเงินบริจาคโอนเข้าบัญชีไปก็ได้บุญ ได้ทำความดีแล้ว ส่วนศีล อาจยากลำบากขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพราะต้องระมัดระวังควบคุมตัวเอง ไม่ประพฤติตนนำไปสู่ความเสี่ยง แต่ภาวนานั้นต้องทุ่มเทมากกว่า นอกจากระมัดระวัง ดูจิตดูใจแล้ว ยังต้องอาศัยสติสมาธิขบคิดใคร่ครวญธรรม จึงจะเห็นลึกเข้าไปในตน จนกระทั่งชำแหละขัดเกลากิเลสให้เบาบางลงได้ จะอย่างไร ฉันยังไม่เคยได้ยินว่า ศาสนาสอนให้ทำทานเพียงอย่างเดียว ที่เคยรู้คือ ปฏิบัติบูชาถือเป็นบุญสักการะสูงสุด เป็นไปได้ไหม แทนที่จะสร้างวัตถุแห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่เพื่อสะสมแรงบุญ เรามาสร้างอารามอันสับปายะท่ามกลางป่าดอย ดึงดูดน้อมใจผู้คนเข้ามาปฏิบัติธรรมคลายทุกข์ไม่ดีกว่าหรือ นั่นคือบุญอีกแบบ บุญใหญ่ที่เห็นผลทันทีขณะผู้ปฏิบัติบังเกิดความสงบรำงับ เมื่อกลับที่พำนัก จิตที่คลายพยศย่อมยังสันติแก่คนในครอบครัว แผ่กระจายสู่สังคมรอบข้าง


บ้านเกิดฉันที่อำเภอแม่อาย วัดหลายหมู่บ้านประสบปัญหาขาดแคลนพระสงฆ์ ฆราวาสต้องขวนขวายหาพระมาจำวัด กิจกรรมส่วนใหญ่ที่ใช้ดึงคนเข้าวัดสร้างบุญกุศลคือ การสร้างโบสถ์วิหาร กำแพง หรือพระพุทธรูป แม้ว่าของเดิมอาจไม่ได้สึกหรอผุพัง น่าแปลกที่สมัยฉันยังเด็ก เราไม่ได้โหมสร้างถาวรวัตถุมากมายเพียงนี้ กระนั้น ชาวบ้าน ทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ หนุ่มสาว ลูกเล็กเด็กแดงต่างนิยมไปวัด



ดอยหลวงมองจากถนนเลี่ยงเมือง


ที่กล่าวมานี้มิได้ขัดขวางศรัทธาหรือความเจริญแห่งพระศาสนา เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ไม่มีคนหนุ่มในหมู่บ้านออกผนวช หรือวัดวาต้องหากลยุทธ์ให้คนเข้าไปฟังศีลฟังธรรมนั้นเพราะเหตุใด หากธรรมปรากฏเห็นผลในชีวิตจริงของผู้ปฏิบัติ ธรรมนั้นย่อมดึงดูดคนทุกข์คนอื่นๆ เข้าหา ธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ไม่มีวันเสื่อม เพราะธรรมนั้นคือสัจจะความจริง ไม่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา ทว่า สิ่งใดก็ตามที่ขาดการสืบต่อยังชีวิต สิ่งนั้นย่อมจะถูกทอดทิ้ง ขาดคนรู้ค่า


หนุ่มสาวในหมู่บ้านซึ่งล้วนอยู่ในเมืองจะได้เข้าวัดเฉพาะงานบุญใหญ่ หรือบุญวันสงกรานต์ พวกเขายินดีโอนเงินมาร่วมอนุโมทนาเมื่อมีการเรี่ยไรสร้างสิ่งต่างๆ เช่นเดียวกัน ฉันเชื่อว่า คงมีสาธุชนมากมายร่วมทำบุญบริจาคหากมีการสร้างองค์พระปฏิมาขึ้น แต่เราคาดหวังถึงสิ่งใดเล่า บนพื้นที่สำนักสงฆ์ชายป่าซึ่งหวังความสับปายะ หวังวิมุติหลุดพ้น หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ที่แห่งนี้จะกลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของเมือง คนทั้งหลายจะแห่แหนกันมา ความสงบสันโดษมลาย ผลกระทบต่างๆ จะติดตามมาอีกมากมาย


ฉันมองดูภูเขา เห็นเขาสง่างามทุกวี่วัน เขาอยู่ใกล้ มองเห็นได้เต็มตา ภูเขาหยุดนิ่ง ไม่เขยื้อนขยับ อยู่ตรงนั้นเสมอจนเผลอคิดว่าเป็นของฉัน ไม่อยากนึกเลยว่า วันหนึ่งโฉมหน้าขุนเขาจะเปลี่ยนไป
เหยี่ยวผัวเมียสวยสง่าซึ่งบินมาพักอยู่บนเชิงผาตลอดหน้าหนาว เหยี่ยวทุ่งในหน้าร้อน ต้นไม้ป่าไม้ รุกขเทวดา และเลียงผาเล่า
? ถนนสายผ่านหน้าบ้านจะเต็มไปด้วยรถราขวักไขว่ รังเกียจพระพุทธรูปหรือ ไม่ใช่เลย พระปฏิมาที่ปั้นด้วยมือช่างซึ่งถือศีลภาวนาระหว่างรังสรรค์งาน จากจิตอันเป็นสมาธิ ด้วยวิชาช่างอันเลิศ เพียงได้เห็นวงพักตร์ก็น้อมดวงจิตเราถึงความสงบ โบสถ์วิหารนั้นมีโครงสร้างอันร่มเย็นอยู่แล้วเพียงย่างเข้าสู่ภายใน พระประธานสีทองลอยสูง ยกจิตยกใจ ภาพเขียนบนผนัง พุทธประวัติ หรือสวรรค์นรกแบบไทยนั้นเหนือจริง แบน เป็นสัญลักษณ์แทนความเชื่อและคุณค่าอันลึกซึ้ง ฉันพบวิหารสร้างใหม่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขียนภาพผู้คนแบบเดียวกับที่วาดบนร่มบ่อสร้าง ด้วยนวัตกรรมใหม่หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์?


หลายสิ่งหลายอย่าง เราคงต้องโยนิโสมนสิการ ในโลกที่ซับซ้อนทางความคิด ปรากฏการณ์วิกฤตศรัทธา เสื่อมคุณค่าศิลปะ ศีลธรรม รวมทั้งธรรมชาติแวดล้อมที่ถูกทำลายอย่างหนัก จนกระทั่งดินฟ้าอากาศแปรปรวนส่งผลกระทบกับเราระลอกแล้วระลอกเล่ายามนี้


แม่น้ำ ขุนเขา ป่าไม้ ที่ราบแห่งเชียงดาวคือฐานทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ เป็นแหล่งอาหาร ผู้ให้ชีวิต และแหล่งพักพิงทางจิตวิญญาณ เราจะรักและดูแลผืนโลกน้อยๆ มารดาผู้ ‘ให้’ และถนอมเลี้ยงเราอย่างไรดี
....


----------------------------------------------------------------------------


*
พระพุทธรูปที่บามิยันนั้นสกัดขึ้นบนหน้าผาในลักษณะประทับยืน องค์หนึ่งสูง 53 เมตร อีกองค์สูง 38 เมตร ถูกทหารของรัฐบาลตาลีบันระเบิดทำลาย ในปี พ.2539 โดยเชื่อว่ามีสาเหตุทางการเมือง จากการที่อัฟกานิสถานถูกนานาประเทศคว่ำบาตรเนื่องจากให้ที่พักแก่อุสมา บิน ลาเดน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางแผนวางระเบิดสถานทูตสหรัฐอเมริกาในแทนซาเนีย ไม่กี่เดือนหลังจากการทำลายรูปเคารพต่างศาสนาในประเทศ อเมริกาก็เคลื่อนกำลังบุกอัฟกานิสถาน (...แว่วมาว่า ล่าสุด องค์การยูเนสโกกำลังบูรณะใหม่ เท็จจริงอย่างไร เชิญทุกท่านสืบค้นดู)


บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
เมื่อคุณออกไป ทุกอย่างก็พังทลาย  ยินเสียงชายชรารำพึงในความเงียบ  ...ไปกันเถอะแพลทเทอโร นั่นไม่ใช่ที่สำหรับเรา *
รวิวาร
  มาพร้อมกับดีเปรสชั่น ซึ่งอ่อนแรงผันแปลงจากไต้ฝุ่น..น้ำฟ้า ซึ่งทำคุณบ้า เที่ยวสำรวจตรวจตราต้นไม้ ขุดหลุมลงต้นกล้ารุ่นสุดท้าย ความลุ่มหลงผูกพันต่อสิ่งที่ลงมือ ปลูก สอดส่องดูแล รดน้ำ ถอนหญ้า ใส่ปุ๋ย อาณาจักรหัวใจคุณขยายไปตามมุมสวน ลักษณาการของกิเลสแบบpassion แนบเนื่องและยึดติด คุณเฝ้ามองชีวิตแต่ละช่วง แต่ละขณะ เคลื่อนไปสู่จุดต่าง ๆ ตัวตนซึ่งเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นดินหลักแห่งอุปนิสัย แต่ละช่วงเวลา มันได้ใส่สิ่งใดลงไป คุณนั่นเองใส่รายละเอียดลงไป แม้บางครั้งไม่รู้เนื้อรู้ตัว คุณกลายเป็น กลายเป็น และกลายเป็น...สิ่งใหม่เรื่อย ๆ
รวิวาร
สมมติว่าแม่พูดอยู่กับลูก สมมติว่าลูกเข้าใจทุกอย่างที่แม่พูด...   เช้าวันนี้ แม่รู้สึกเศร้าๆอยู่บ้าง แม่พลิกดูปฏิทินเมื่อสองสามวันก่อน บิลค่าไฟฟ้าใกล้จะมาแล้ว แม่เปิดกระเป๋าสตางค์ทุกใบในบ้าน เดินไปค้นกระป๋องคุ้กกี้ในห้องพี่เชน นับธนบัตรไม่กี่ใบที่มีอยู่ในกระเป๋าราวกับมันจะงอกเพิ่มขึ้นมา แม่ออกมามือเปล่า แหงนดูฟ้า ฝนยังทำท่าว่าจะตก
รวิวาร
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยผ่าน  สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่า ถูกแล้ว  เราต้องลับดวงตาให้แหลมคมสว่าง  ระมัดระวังอย่าสับสนกับถ้อยคำทั่วไป “ง่าย ๆ สบายๆ ไม่ซีเรียส”  ความโง่เขลามักง่ายมีโฉมหน้าคล้ายกันนี้
รวิวาร
ชีวิตเป็นเรื่องลึกซึ้ง อีกเพียง 2 ฤดูฝนฉันก็จะอายุสี่สิบแล้ว เมื่อวาน หัวใจยินดีที่ตระหนักขึ้นว่า ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่มีความหมาย เมื่อคืนยังตั้งคำถาม ค้นลึกไปในพฤติกรรมของตน...
รวิวาร
ฉันมีภูเขาทั้งลูก จริงๆแล้วมากกว่านั้น จู่ๆฉันก็พบว่า แดดยามเช้าที่สดใสเป็นสีทองทำให้ริมฝีปากเผยอยิ้ม  เมื่อคืนเราพูดคุยกันบนที่นอน สมมติว่าถ้าฉันมั่งมีขึ้นมา ฉันจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้ไหม  ฉันอยากจะได้อะไรบ้างหนอ ฉันซักไซ้ไถ่ถาม คอยกวนไม่ให้เขาหลับ นั่งพร่ำเพ้อ จินตนาการเล่นๆ และคอยเขย่าตัวเขาเรื่อยๆ เพื่อตรวจสอบว่าเขายังฟังฉันอยู่  เขาหลับๆตื่นๆแต่มีรอยยิ้มฉาบหน้า  เขาแค่งีบเล่นๆเท่านั้น ก่อนจะตื่นขึ้นมาทำงานกลางดึก  ฉันพูดออกมาดังๆว่า ถ้าให้ไปอยู่ในสวนสวรรค์ของพระเจ้าแลกกับที่อยู่ตอนนี้จะเอาไหม  จากนั้นก็ส่ายหน้าปฏิเสธตัวเองทันใด  ไม่เห็นสนุก…
รวิวาร
 เช้าจรดเย็นของเดือนสิงหา มีเสียงโป๊กเป๊กของลูกลำไยหล่นกระทบก้นถังไม่ขาด สวนนี้สวนนั้นทยอยกันเก็บ ที่กว้างมากก็จ้างคน  บ้างฮึดเหนื่อยเอง บางเจ้าคร้านจะลงทุนในเมื่อราคาทรุดฮวบ ถูกกว่าปีที่แล้วเท่าตัว ตัดสินใจขายเหมามันทั้งสวน
รวิวาร
  ความรักของแม่หวานจับใจดั่งน้ำอ้อยน้ำตาล วันเดือนปีล่วงผ่าน ลูกปรารถนาดื่มกินเสมอ...
รวิวาร
มันแน่อยู่แล้ว ที่คุณรู้สึกอึกอัก เก้อกระดากหากจะกล่าวถึงความจน บางครั้งคุณคิด การเขียนถึงชีวิตตัวเองนั้นช่างเปล่าเปลือย เชื้อเชิญผู้อื่นเปิดหม้อข้าว เข้ามาดูถึงในมุ้งเชียวหรือ มันเหมือนบอกเล่ากับคนอื่น ขณะเดียวกัน พูดคุยกับตัวเอง เมื่อคุณถ่ายเทความคิดผ่านอักษรปีแล้วเดือนเล่า คุณก็คุ้นเคยที่จะทำส่วนตัวให้กลายเป็นสาธารณะ
รวิวาร
 ฤดูนี้เป็นฤดูตามหาดอกไม้ ฉันยอมรับกับตัวเองเมื่อสำรวจผืนดินแล้วพบว่า ที่หัวใจใฝ่หาคือมวลมาลีสวยสด มากยิ่งกว่าพืชผัก ผุดขึ้นก่อนปากท้องคืออาหารตาอาหารใจ เถอะน่า ติดตามหัวใจไป ใช่จะละทิ้งร่างกายเสียเมื่อไหร่ ผักบุ้งปลูกแล้ว รวมทั้งผักชี กุยช่าย แคต้น กะเพราขาว กระเพราแดง ผักชีฝรั่ง มะกรูด มะนาว แมงลัก ถั่วพูที่เพาะไว้ในกระถางแอบเลื้อยไว ๆ เมล็ดน้ำเต้าที่น้องสาวเก็บมาฝากจากสวนพันพรรณของพี่โจน จันใด แตกใบ แต่ตกเป็นอาหารหอยทาก
รวิวาร
 หนูมาเยือนในวสันตฤดู เช้านั้นโลกนุ่มนวล หมอกฝนแผ่ละอองไอชื้น ขาวๆนุ่มๆทั่วภูเขา วันคล้ายวันเกิดป้าผ่านไปเพียง 4 วัน แม่ของหนูก็ส่งข่าวมาบอก ได้ลูกสาวแล้ว ป้าพูดกับลุงว่า วันนี้ช่างเป็นวันดีเสียจริง มีเด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่งมาเยือนโลก คิดดูสิ เด็กทารกน้อยตัวแดงๆ นอนบริสุทธิ์อยู่บนเบาะ ป้าหลับตา เห็นหนูตัวเปล่งประกาย วิญญาณพรายพร่าง รอบเบาะนอน มีนางฟ้าแย้มยิ้ม เห่กล่อมเพลง เทวดาต้องยินดีแน่ๆที่มีดวงวิญญาณจุติในโลก เพราะว่าสถานที่นี้แสนงดงามและมีความหมายพิเศษ พระพุทธองค์บอกว่า โอกาสในการได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก เหมือนเต่าตัวหนึ่งซึ่งนานนับกับกัลป์กว่าจะลอยคอขึ้นมาในมหาสมุทรสักครั้ง…
รวิวาร
  29 พฤษภาฯ 52ตุ่นน้อยลูกรักเช้าวันนี้ ฤดูฝนมาแล้ว อากาศเย็นสบาย ภูเขาของเราซ่อนตัวอยู่ในเมฆหมอก ดูสิ แม้แต่ฤดูกาลเปลี่ยนแม่ก็อยากบอกลูก อยากคุยกับลูก ชี้ชวนกันดู ตอนเช้า แม่นั่งฟังเสียง ‘กะโล๊กโป๊ก' ที่เอามาจากมะขามป้อม ลูกจำได้ไหม วันของเล่นจาก "ลม" ไง ปิดเทอม ตอนที่ลูกอยู่ แม่ไม่ได้เอาขึ้นไปแขวน แต่ว่าวันก่อน น้ารจกับน้ากาน และน้องนานามา น้าเขาถามว่านี่อะไรดูเหมือนหน้าไม้ แม่ก็เลยถือโอกาสจัดแจงตามที่ค้างคาใจ แม่ถอดด้ามพัดไม้ไผ่ที่ซื้อมาจากคุณยายแก่ๆ หน้ากรุงเก่า อยุธยามาผูกห้อยแทนไม้ไผ่สานรับลม แล้วขอปะป๊าเอาขึ้นไปแขวนตรงเสาสำหรับเถาดอกสายน้ำผึ้ง ทีนี้มันดูโดดเด่นเห็นชัด เสียงดัง…