Skip to main content

มันแน่อยู่แล้ว ที่คุณรู้สึกอึกอัก เก้อกระดากหากจะกล่าวถึงความจน บางครั้งคุณคิด การเขียนถึงชีวิตตัวเองนั้นช่างเปล่าเปลือย เชื้อเชิญผู้อื่นเปิดหม้อข้าว เข้ามาดูถึงในมุ้งเชียวหรือ มันเหมือนบอกเล่ากับคนอื่น ขณะเดียวกัน พูดคุยกับตัวเอง เมื่อคุณถ่ายเทความคิดผ่านอักษรปีแล้วเดือนเล่า คุณก็คุ้นเคยที่จะทำส่วนตัวให้กลายเป็นสาธารณะ

ความยากจนทำให้ฉันได้เรียนรู้จักแก่นแท้ หรืออีกนัยหนึ่ง อรรถประโยชน์ ความจำเป็นที่แท้จริงของสิ่งต่าง ๆ เช่นกาแฟอาจไม่จำเป็นสำหรับบุคคลอื่น แต่จำเป็นสำหรับข้าพเจ้า มันคือความรื่นรมย์ยามเช้า กลิ่นหอมอันเป็นเครื่องหมายอายอวลความคิด เมื่อมีเงิน มีโอกาสเดินทางเข้าเมือง ข้าพเจ้าซื้อเมล็ดกาแฟคั่วบด หากไม่ ข้าพเจ้าใช้กาแฟสำเร็จ ยี่ห้ออันมีข้อมูลเชื่อถือได้ว่าทำลายสิ่งแวดล้อม และกดขี่แรงงานในประเทศโลกที่สาม (ทางเลือกระหว่างสองยี่ห้อ คุณจะเลือกอุดมการณ์หรือตามใจลิ้น)


ข้าวสารเป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงมากกว่าบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ บัตรเติมเงินสำหรับพูดคุยจำเป็นน้อยกว่าการเติมเงินสำหรับใช้อินเตอร์เน็ต หากไม่จำเป็น ไม่ส่งเสียงพูดคุยก็ได้ เราสามารถส่งอีเมล หรือเขียนไปรษณียบัตรและจดหมาย ความห่วงใย น้ำจิตน้ำใจในญาติมิตรนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเงินตรา


อย่างที่คุณเคยเขียนมาจนใครบางคนอาจรู้สึกสงสาร คุณไม่ได้ตั้งใจให้ใครเวทนา ความขาดแคลนนั้นเพียงแค่ทำให้รู้สึกฉงน ความไม่อาจซื้อในสิ่งเคยได้ ทำให้มนุษย์คิดค้น พบเจอสิ่งใหม่ คุณผลิตน้ำผลไม้ สำหรับทดแทนความต้องการทางกาย ของเหลวรสส้ม อมหวานอมเปรี้ยว คุณผลิตของทอดกรุบกรอบ โฮมเมดเฟรนช์ฟรายด์ กล้วยอบเนย กล้วยฉาบ กล้วยตาก และอีกมากมาย แทนเลย์ พริงเกิ้ล ปาร์ตี้ เพื่อที่จะพบว่า ฟันของมนุษย์นั้นบางครั้งต้องการขบเคี้ยว ถั่วคั่ว กล้วยอบ ต้องการของนุ่ม ซุป เม็ดขนุนต้มเกลือ และต้องรับของแข็ง ออกแรงบ้างจากผักผัดสดกรอบ ซี่โครงหมูหรือ กระดูกอ่อน เลยตลอดไปจนถึงผิวสัมผัสชิวหา กระพุ้งแก้ม เพดานปาก ไม่ต้องมีมังสา หมู ปลา ไก่ก็ได้ คุณพบว่าเต้าหู้ เนื้อเจสามารถทดแทนสัมผัสขาดหาย ไม่หรอก คุณยังไม่ไปไกล ไม่คาดคั้นคนในครอบครัวถึงเพียงนั้น


แค่บ้านของคุณปิดประตูมิดชิดหลังจากคอยนานสามปีทั้งที่ทวีหนี้สินคุณก็ดีใจเหลือหลาย ห้องน้ำชั่วคราวแต่ใช้แบบถาวรอยู่ไกล แต่เด็ก ๆ ก็คุ้นชิน คุณกางร่มไปได้เมื่อฝนตก คุณเปิดหน้าต่าง อาบน้ำชมดอย โถส้วม อ่างล้างหน้า และฝักบัว ครบถ้วนด้วยแก่นสารสาระดุจเดียวกับห้องน้ำทุกห้องในโลก


ฝนมาปีนี้ หลังคาโรงรถคุณไม่เหลือ งบประมาณไม่พอ คุณล้างกระสอบป่าน สามารถเย็บแทนผ้าใบ ความจำเป็นในการมีหลังคาตอกตะปูในหัวใจ นั่นไม่ใช่อะไรนอกจากสิ่งคุ้มหัว เครื่องกำบังอันตรายจากฟ้า แดดและฝน ในโรงรถมีเพียงรถยนต์คันเก่าและกองไม้ที่เหลือจากการสร้างบ้าน ผ้าคลุมรถยังพอใช้การ เหนือกองไม้ หลังคาหญ้าผุหาย คุณก็ใช้สิ่งผลิตใหม่ปกคลุม ทุกอย่างรอได้ ทุกอย่างมีทางออกเสมอ สิ่งสำคัญคือลมหายใจ ความรัก การงาน ชีวิต ที่แทงทะลุทำลายมายาคือข้าวปลาอาหาร กับความจำเป็นตรงหน้า ไฟฟ้าที่ต้องจ่ายชำระ เชื้อเพลิงในการทำกับข้าว ค่าใช้จ่ายสำหรับลูกไปโรงเรียน


เมื่อวาน คุณเดินทางไปกับรถคันเก่า ไม่ไกลไม่เกินรัศมีสิบกิโลฯ น้ำมันขึ้นราคาอีกแล้ว แต่รถไม่ต้องกินน้ำมันสามมื้อ คุณยังมีจักรยานและมอร์เตอร์ไซค์ คุณไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ไม่ต้องเดินทางไปทำงาน พบปะเพื่อนฝูง เที่ยวผับผ่อนคลาย หรือนั่งร้าน เบเกอรี่ จิบชากาแฟ คุณอยู่บ้าน สถานที่พักผ่อน ทำงานและใช้ชีวิต มอร์เตอร์ไซค์ไปตลาด ทำกิจธุระได้ แม้รถบุโรทั่ง อาจไม่สมประกอบ น่าสงสาร ถึงอยากจะซ่อมแต่ก็ต้องรอ เงินคือมูลค่าสำหรับสิ่งที่ไม่อาจผลิต โลหะก้อนนั้นรอได้ แม้ว่าล้อข้างหนึ่งจะเป็นยางอะไหล่ หน้าต่างปิดไม่สนิท สองบานไม่อาจเปิด แอร์พิการ ฝนรั่วซึมหลังคา สามีคุณบอกว่า พาหนะมีไว้สำหรับเคลื่อนย้าย พาวัตถุไปสู่ที่หมาย วิตกกังวลไปไย เครื่องยนต์ยังใช้การได้ดี

 

ยามเช้า ฟ้าหลังฝนเหมือนผลึกแก้ว ใสแจ๋วสีฟ้าแจ่ม และเหมือนกับส่องสะท้อนไปทุกทิศทาง เคลือบทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในโดมผลึกใสใบใหญ่ ที่โลกของคุณ สรวงสวรรค์สีเขียวฟ้าที่คุณอยู่อาศัย ซึ่งคุณไม่เคยนึกหน่าย รู้สึกอัศจรรย์ใจทุกเช้าค่ำ เมื่อคืน จันทร์ต้นแรมสีเงินลอยดวงช้าๆ เหนือกอไผ่ รัศมีสุกสกาวปัดเป่าเมฆลอยห่าง ฟ้าไกล ๆ มีดวงดาวพริบพร้อย หัวใจคุณเปล่งคำว่า งดงามซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช้าแล้วเช้าเล่า เย็นแล้วเย็นเล่า คืนแล้วคืนเล่า คุณอยู่ที่นี่ มีชีวิต สรวงสวรรค์ที่ถ้าจะให้ดีก็น่าจะอิ่มทิพย์ พวกคุณมาตามสัญชาตญาณใจ โดยชีวิตนำพา ไม่อาจหนีหน้าไปไหน ไม่ใช่อยู่เพื่อพิสูจน์บางสิ่ง ไม่ใช่เพราะดิ้นรนหนีใคร ความยากจนเปรียบเสมือนฤดูกาลสำหรับคนสวนใหม่ คุณเรียนรู้ ฉงนฉงายใจ ไม่ต้องพูดถึงอุดมคติ หรือปรัชญาพอเพียงใด คุณแค่อยู่อย่างซื่อ ๆ ไม่อวดอ้าง ไม่ทำให้ใครสงสาร ใคร ๆ ก็เป็น ใครๆ ก็ทำได้ มีคนยากลำบากมากมายกว่าคุณด้วยซ้ำไป สิ่งเดียวที่แตกต่างอาจเป็นการให้ค่า และปสายตาที่มอง คุณแค่คอยประคับประคองให้เที่ยงตรง มองให้สุขสร้างสรรค์ ให้กว้างไกล ย้อนถึงความเป็นไปปัดเป๋ สร้างความวินาศฉิบหายแก่โลก ลึกเข้าไปในกิเลสตนเช่นเดียวกับในหัวใจผู้คน จินตนาการผ่านสายตาวิหค มหาสมุทร ยอดเขา ลุ่มน้ำ ป่าฝน แหล่งน้ำ แหล่งอาหาร รองรับเลี้ยงดูมนุษย์ได้ไม่นานแล้ว อยากมากก็หาอาหารให้จิตเสีย ไม่ต้องมีต้องตรงความปรารถนาก็ได้ เมื่องูใหญ่อิ่มพี มันก็ง่วง สงบไปเอง คนก็เป็นอย่างนี้ หิวไม่มีที่สิ้นสุด ต่อให้ร่ำรวยล้นฟ้า คุณก็คงยังปรารถนา ไม่ต้องรอก็อิ่มได้หากสงบพอใจ ขออย่างเดียว อย่าหลอกกันให้หลงใหลได้ปลื้มไปกับความจน ขณะกลุ่มคุณพูดพร่ำคำขวัญ แต่มืออีกข้างลากปวงญาติคดโกงกอบโกยอยู่บนปิระมิดโครงสร้าง

 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
ฉันคงเคยทำคุณความดีมาบ้างกระมัง จึงได้รับน้ำใจไมตรีมากมายเพียงนี้ ... เธอมาพร้อมกับมิตรภาพแสนอบอุ่น รอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงแจ้วๆ กับการกระโดดโลดเริงร่าของเด็ก ๆ เพื่อนทุกคนมาเยี่ยมเราที่ตูบตีนดอยพร้อมด้วยความมั่นคงทางอาหาร จากจิตใจที่ห่วงใยและยอมรับในวิถีที่เราเป็น รอยต่อระหว่างปี มีขนมมากมายในบ้าน เครื่องดื่ม กาแฟ ของฝากของแห้งที่แทบจะไม่มีที่เก็บ เรานำกาแฟสดแสนอร่อยของฝากจากเพื่อนมาชงเลี้ยงเพื่อนทุกคน ทั้งที่มาค้างและผ่านทางแวะเยือน ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยนั้นนำมาปิ้งย่างแบ่งปันกันกิน หุย... ของที่เธอนำมานั้น มันมากจนฉันรู้สึกว่าน้ำใจของเธอ(…
รวิวาร
เด็ก ๆ คือคนตัวเล็กที่แสนงาม ในบรรดาผู้มาเยือน เด็กน้อย สาม สี่ ห้าหรือหกขวบ คือแขกที่ทำให้ผู้เหย้าอย่างเราสดใส มีความสุข เราไม่รู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นลุงป้าตายายที่เฝ้าจดจ่อรอคอยการมาเยือนของลูกหลานเสียแล้ว หนูมายาเพิ่งมาและกลับไป หนูนานาเข้าโรงเรียนแล้ว แต่อีกไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็จะมาเยี่ยมเยือน แล้วเมื่อปีใหม่มาถึง หนุ่มน้อยพีพี หลานน้อยตัวขาวแก้มยุ้ยก็จะมาหา เดาได้เลย เขาต้องพาน้องกุ๊กกิ๊ก ตุ๊กตาแมวน้ำตัวเก่าขะมอมขะแมมมาด้วย น้องกุ๊กกิ๊กที่เปื้อนน้ำลาย และเจ้าของเที่ยวยื่นไปชิดจมูกใคร ๆ พร้อมกับคำยืนยันจากปากแดงย้อยว่า ‘หอมนะ ๆ หอมไหมล่ะ?’  
รวิวาร
ความรักยกเราขึ้น ติดปีกเหนือทุกข์ในปรากฏการณ์...ความรู้สึก เราคือผู้คนแห่งความรู้สึก ความเครียดเต็มสองแผ่นหลังไม่เบาบางด้วยการคิดพิจารณา จิตใจมีกำลังเมื่อ ความรักหลั่งไหลมา ความหวังเรืองรองตามติด เรื่องราวยากยิ่ง เหมือนไร้ทางออกดูเล็กน้อยลง ขอบคุณที่มีความรัก ขอบคุณที่มีคนรัก ขอบคุณที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า รัก ฉันขอขอบคุณจากหัวใจสำหรับใครคนหนึ่งซึ่งอยู่เคียงข้างและมอบความรักกว้างใหญ่ให้แก่ฉันเสมอ รักอดทนและรอคอย รัก ขัดเคือง ไม่พอใจ หากยังรีรออยู่ เงี่ยหูฟังคำอธิบาย อดทนทำความเข้าใจ เพราะเชื่อมั่นในเนื้อแท้ บนพื้นผิวของความกราดเกรี้ยว ทะเลาะเบาะแว้ง…
รวิวาร
ความรู้สึกหนึ่งไหลวนอยู่ภายใน ขับเคลื่อนเราอยู่ เหมือนสายโลหิตแห่งความปรารถนา ... เธอมา นั่งอยู่ตรงนี้ เขามาและจากไป คนกลุ่มใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป จังหวะบรรเลงแตกต่าง นึกถึงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ มันคืออะไรหนอ หลายคนเขียนหลายสิ่ง... สร้างงาน พวกเขาเรียกมันว่า การทำงาน แต่เธอ เธอไม่รู้เลยว่า วันแต่ละวัน เช้าแต่ละเช้า สิ่งซึ่งไหลเวียนอยู่ อึดอัด กระสับกระส่าย ดิ้นรนและปรารถนา หาหนทางหลั่งไหลนั้นคืออะไร เธอไม่รู้ เธอเฝ้าแต่รอคอย พล็อตต่าง ๆ มีอยู่ สมองไม่เคยหยุดเรียบเรียง วางแผนความคิด แต่แล้ว เจ้าสิ่งนั้น ที่บงการอยู่ข้างในไม่เคยเออออไปกับการกำหนดสั่งการ เธอพยายาม เงี่ยฟัง…
รวิวาร
ฤดูหนาวนำความสุขมากมายเหลือจะกล่าว สายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกอบอวลด้วยสีสันและกลิ่นหอมอย่างใหม่ ไม่ทันไร หน้าหนาวเวียนมาอีกครั้ง เสียงหมอกกลั่นเป็นน้ำค้างหยดเปาะแปะลงบนใบไม้ เสียงลมแห้ง ๆ กรูเกรียวผ่านทุ่ง ฉันอยู่ที่นี่จนกระทั่งฤดูกาลเวียนมาครบรอบแล้วหรือนี่ งานเขียนขนาดย่อมสองสามชิ้นทำให้ลืมกาลเวลา เราหยุดกิจกรรมกับผืนดินไปตั้งแต่กลางฤดูฝน หญ้าดวงดาวแห่งอัฟริกา (อัฟริกันสตาร์) หญ้าคอมมิวนิสต์ โตพรวดพราด สูงท่วมหัว เมื่อมองมุมกว้างจากถนน สวนรอบข้างดายหญ้าโล่งเตียน แต่ที่ล้อมรอบบ้านหลังคาเขียวซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวนี้คือ กองทัพต้นหญ้า…
รวิวาร
ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้…
รวิวาร
ตลาดแห่งนั้นเงียบ เป็นระเบียบและเย็นฉ่ำ ไม่มีคนขายนั่งประจำอยู่หลังกองสินค้า มีเพียงพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ กล่อมเกลาบรรยากาศ ข้าวของมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นสูง ยืนเข้าแถวราวกับทหาร ระหว่างชั้นแต่ละชั้นเกิดช่องลึกยาว พอเหมาะพอเจาะสำหรับเด็กๆ เล่นซ่อนหา... เรามาจากโลกข้างนอก ออกมาจากพาหนะคู่ชีพบุโรทั่งที่คอยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่กล้าบ่นที่แอร์ไม่เย็น และฝนสาดเปียกปลายผมเพราะกระจกหน้าต่างไม่อาจปิดสนิท (... ขอบคุณนะที่พาไปทุกที่ ไม่รู้เจ้าจะน้อยใจหรือเปล่าที่บางครั้งฉันก็แอบฝันถึงรถคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
รวิวาร
การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน... ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป…
รวิวาร
กาดก้อมเย็น มีเหตุต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันสตาร์ทมอเตอร์ไซค์อยู่นาน สลับกับคอยไล่หมา ในที่สุดรถก็วิ่งฉิว สายลมปะทะใบหน้าแสนสดชื่น อากาศยามเย็นเป็นสุข ถนนหักเลี้ยวทอดหาชุมชน เราเป็นคนของหมู่บ้านนี้แหละ บ้านทุ่งลั๊วะคอน (ทางการเรียก ทุ่งละคร) เป็นโดยสำมะโนครัว แต่ไม่ค่อยรู้จักใครเพราะอยู่ห่างออกมา ถนนสายน้อยพาไปพบสะพาน จากนั้นผืนโลกก็ลาดลงเป็นที่ลุ่ม หัวใจปริ่มสุขขึ้นฉับพลัน ผืนนาเขียวขจี กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กลางนางามเด่น ขับด้วยแถวทิวต้นข้าว เถียงนาเล็ก ๆ ดุจที่พำนักอันสมถะสงบสุข กอดอกเทียนสีม่วงขาวชมพูพราวบานอยู่ใต้ร่มตะขบริมลำธาร หันมองกลับไป…
รวิวาร
'กาดนัด'วันอังคารเป็นวันที่ใครหลายคนในเมืองนี้รอคอย ฉันเองยังติดนิสัยเขียนรายการข้าวของไว้ล่วงหน้า ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าใกล้วันนัดหมายประจำสัปดาห์แล้ว เรานั่งกุกกักอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า มองไปยังถนนทอดยาว เห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเป็นระยะ มีถุงใส่ของหลายใบแขวนเป็นพวงที่มือจับและตะกร้า...กาดนัดเชียงดาว ถึงนั่งอยู่บ้าน ฉันก็นึกภาพออกและจำได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เร็วหน่อย พ่อบ้าน ตื่นเร็ว วันนี้เราจะไปตลาดนัดกัน สัปดาห์นี้ขาดอะไรบ้างเอ่ย พริกแห้งเม็ดเล็ก กะปิ กระเทียม กุ้งแห้งซื้อไว้แล้วจากเจ้าท้ายถนนเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จะซื้อหอยดองแม่กลองของเขาดีไหมนะ ยำหอยดอง…
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
รวิวาร
มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งหน้า เนื้อตัวเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปในสถานที่อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนการโอภาปราศรัย.... หิ้วกระเป๋าเข้าที่พัก กล่องสี่เหลี่ยมครอบลงบนพื้นดินชื้นแฉะ มีพรุน้ำอยู่ข้างใต้ กล่องเก่า ๆ ที่ผุเน่าไปทีละน้อยด้วยไอชื้นจากผืนดิน และการคายน้ำของใบไม้ชายป่าที่รุกล้ำเข้ามาเรื่อย ๆ เกิดรอยแยกที่ผนัง เหล่าแมลงสาบพล่านยั้วเยี้ยยามดึกขณะผู้พักพิงหลับใหล งูเงี้ยวเขี้ยวขอ จิ้งจกตุ๊กแกและหนู ซุ่มซ่อนจับจ้องจากรู โพรงบนผนัง ขื่อคาและเพดาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ๆ พื้นโลกก็คือหิน ดิน ทราย น้ำ ฝุ่น โคลน เราเพียงนำวัตถุเรียบแข็งโปะทับ ทาบแผ่นกระเบื้องหลากสีลงบนพื้น…