Skip to main content

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยผ่าน  สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่า ถูกแล้ว  เราต้องลับดวงตาให้แหลมคมสว่าง  ระมัดระวังอย่าสับสนกับถ้อยคำทั่วไป “ง่าย ๆ สบายๆ ไม่ซีเรียส”  ความโง่เขลามักง่ายมีโฉมหน้าคล้ายกันนี้

สัปดาห์นี้ สามีสอนลูกว่า...จงเข้มงวดกับตนเอง แต่ผ่อนปรนต่อผู้อื่น  สาวน้อยไม่ค่อยเข้าใจนัก  ถูกแล้วล่ะที่คุณสงสัย ตรวจสอบ เฝ้ามอง  แต่ไม่ได้ด่าทอ กราดเกรี้ยวกับใคร  เรื่องง่ายๆ บางเรื่อง ดูเผิน ๆ อาจน่ายกย่อง  โปะหน้าด้วยคำหรูๆ แบบมนตร์สะกด ‘การคิดบวก’ ‘ความเรียบง่าย’ ‘ภูมิปัญญา’ ‘ความพอเพียง’  ทั้งหมดทั้งมวลดีงามอยู่ในเนื้อแท้แน่ล่ะ  แต่พูดกันฟูมฟายตะบี้ตะบัน  สะกดสมองใคร่ครวญอยู่หมัด  


เขารู้สึกดีกับการปลูกกล้วยทิ่มหัว แต่คุณหมกมุ่นหัวคิ้วขมวด เราเป็นพวกอนุรักษ์นิยมหรือเปล่าเนี่ย ในเรื่องที่มีคุณค่า ซาบซึ้งถึงแก่นสารสาระ คุณต้องการสงวนรักษา หากแต่ท่าทียึดกุมสิ่งเก่าไม่เข้าท่า ต้านรับการเปลี่ยนแปลง คุณก็ไม่เอาด้วยนี่นา... เมื่อรากพืชส่งน้ำเลี้ยงมายังเหง้า ต้น หรือเมล็ด ชีวิตโลดเต้นตื่นตัว  พืชที่กำลังงอกตื่นเต้นกระหายกับชีวิตใหม่  มันแทบทนรอไม่ไหวที่จะโผล่ขึ้นเหนือดิน  อยากหายใจเอาอากาศหอมหวานบริสุทธิ์  อาบอุ่นอยู่ในแสงตะวัน อยากเห็นท้องฟ้า  อยากอาบน้ำฝน  คนเองก็มุ่งมองเบื้องบน มิได้คอตกก้มดูปลายเท้า  เขาบอกคุณว่าปลูกกล้วยทิ่มหัวลงดินกันเถอะ  แยกหน่อกล้วยอ่อนมา ขุดหลุมใหม่แล้วเอายอดปักลงไป  ต้นกล้วยจะสับสนมึนงงและเริ่มต้นย่อยตัวเอง จากนั้นก็จะงอกต้นใหม่ น่าอัศจรรย์ไหม มันให้ผลผลิตมากมาย  เขาบอกว่า นี่เป็นภูมิปัญญา  นี่แหละความกล้า การตีลังกาคิด  คุณกลับร่ำร้อง นี่มันเรื่องอะไร  ข่มขืนต้นกล้วย กล้วยก็ขื่นขม  เด็กหนุ่มที่ถูกเกณฑ์ไปรบ วิญญาณป่นปี้ เยาว์ที่สถานการณ์บีบคั้นกดดัน เร่งรัดให้โตเป็นผู้ใหญ่  ทุกวันนี้ ยังบำบัดจิตไม่ครบ *

ภูมิปัญญาคงไม่ได้หมายถึงสิ่งคิดค้นโดยชาวบ้านเท่านั้น  มันมีความหมายลุ่มลึก  อย่าเพ่อเลย นิดๆหน่อยๆก็ภูมิปัญญา หรือว่านี่คือเรื่องภาษา คำหรูหรา คำใหญ่คำนี้ เดิมทีใช้กับสิ่งที่ยาก สิ่งยิ่งใหญ่ ลึกซึ้ง ผ่านการเรียนรู้สั่งสม ผ่านประวัติศาสตร์ กาลเวลา  เอาล่ะ ถ้าเราจะตกลงพูดกันให้เกร่อก็ไม่ว่า ภาษาเป็นเรื่องยืดหยุ่นอยู่แล้ว  พูดให้เฝือ พูดบ่อย ๆ พร่ำเพรื่อ ก็ลดทอนคุณค่าไปเอง     

ฉันไม่รู้ว่ามันแตกต่างจากการข่มขืนไก่ให้กลายเป็นสัตว์ปีกประหลาด ผลิตแต่เนื้อตรงไหน  มันใช่รากคิดเดียวกันไหม บีบบังคับ จัดแต่งธรรมชาติเพื่อให้ได้ผลผลิตมากที่สุด ด้วยต้นทุนต่ำ  พื้นที่น้อย ภายใต้เวลาเร่งรัด  โลกนี้ต้องอยู่อย่างระมัดระวังเสียแล้ว  การยอมรับความเห็นที่แตกต่าง พูดจาอภิปรายอย่างสุภาพ ไม่หักล้างเข่นฆ่าเป็นสิ่งพึงทำ  แต่จะให้ผ่อนปรน เลิกคิด เลิกตั้งคำถามนั้น น่ากลัวตะกอนมลทินความคิดชักพาลวงหลง

แล้วเขาคุยกันถึงมะม่วงที่โตในขวดแก้ว  เช่นเดียวกับการกำเนิดสวนสัตว์ เมื่อเหล่าคนขาวขนตัวประหลาดจากแอฟริกาและอาณานิคมแถบศูนย์สูตรไปขังกรงให้เพื่อนร่วมทวีปชื้นแฉะแห่มาดู  ชมเพียงความแปลก ดูของหายากนั้นจรรโลงโลก จรรโลงชีวิตอย่างไร?  เที่ยวทัศนาอย่างเข้าใจ ซาบซึ้งคุณค่า ด้วยความรู้สึกเคารพดีกว่าไหม? จัดฉากหมู่บ้านจำลองรองรับการเวียนดูผู้หญิงสวมห่วงคอ คุณควรต้องเข้าอบรม ละลายความเขลา ยึดมั่นในแบบวัฒนธรรม วิถีชีวิต การแต่งกายของตนและพวกก่อน ใส่ห่วงไม่ใส่ห่วงล้วนเท่าเทียมในความเป็นมนุษย์  เลิกชี้นิ้วขำแล้วไตร่ตรอง ห่วงมีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมต้องเรียกขวัญ ผูกข้อมือ นุ่งซิ่น สวมชฎา ทุกอย่างซ่อนความหมาย ค้นลึกจากจิตสู่รูปธรรม ใช่เพียงคนป่าประหลาด ข้าวของโบราณแปลกเท่  จำอวดงานแต่งงานหมีแพนด้า พิธีบายศรีสู่ขวัญลูกหมีหรือ?  ขอบคุณที่ปู่ย่าตาทวดล้านนาไม่ลุกตื่นลืมตามาเห็น  

เราจะยังสร้างสรรค์ของแปลก สนับสนุนความคิดบ้องตื้นไว้เพื่อประโยชน์ใด  มะม่วงมีไว้กิน เราคงไม่มุ่งปลูกมันไว้ดูเล่นในขวด  วิถีแบบพอเพียง ต้องคิดคำนึง เคารพธรรมชาติลึกซึ้งแค่ไหน    วัฒนธรรมควรยำย่อยเป็นสินค้าขายดีของการท่องเที่ยวไหม คุณค่า ความหมายที่แท้อยู่ที่ใด?

ฉันไม่ว่า แง่การลองเล่น สร้างสรรค์ ประดิษฐ์คิดค้น นั่นคือความมั่งคั่งน่าตื่นใจในศักยภาพมนุษย์  แต่เจตนาเบื้องหลังเล่า เราแซ่ ซ้องร้องรับสิ่งต่างๆด้วยเหตุผลกลใด เพื่อจุดหมายใด เข้าใจมากน้อยแค่ไหน

ยอมรับแต่โดยดี ผู้คนอาจไม่ชอบขี้หน้าคุณเท่าไหร่  เหมือนที่คนในครอบครัวพูดพร่ำตลอดชีวิต คุณมันเอียงซ้าย ดื้อ หัวแข็ง ขวางโลก  ฉันเพียงซื่อสัตย์ ทำความเข้าใจ อาจก้าวร้าวยามยืนยันทรรศนะ แต่กับมิตรภาพไม่ได้แข็งกร้าว คุณซาบซึ้งเสมอ กตัญญูในน้ำจิตน้ำใจ ที่เราต่อสู้คือความคิด ไม่ใช่มนุษย์  ครูอาจารย์ทางจิตสอนสั่ง เราสู้กับกิเลส ไม่ใช่เพื่อนร่วมทุกข์  ดังเช่นมีผู้กล่าว การฝักใฝ่สันติวิธีนั้นไร้เดียงสา ฉันกลับเห็นว่า  วิถีทางหลีกเลี่ยงความรุนแรงเรียกร้องขันติธรรมยิ่งกว่า อีกทั้งวุฒิภาวะทางอารมณ์ ความเข้าใจ ศรัทธาและความกล้า การยกดาบออกไปฟาดฟันนั้นง่าย  แต่กี่คนเล่าก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาตมะ

เพื่อนเอ๋ย อย่าได้ต่อว่า มือไม่พายเอาเท้าราน้ำเลยนะ และขออย่า เศร้าใจ ฉันว่ากล่าวพวกเดียวกันทำไม ศัตรูที่แท้จริงอยู่นั่นไง พวกคิดเอาเปรียบหน้าด้านๆ ที่แสนครอบงำ แสนแนบเนียน แผ่ขยาย เครือข่ายไปทุกที่ ท่องไว้ ๆ เราไม่ได้สู้กับเพื่อนมนุษย์ แค่ขบคิดทวงถามเพื่อความเหมาะสมถูกต้อง ความน่าจะเป็นอันลึกซึ้ง รอบด้าน และเชื่อมโยง ...

เราจะได้ไม่สู้โดยวิถีอันฉ้อฉลเดียวกับเขา!

 

 

 

 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
ฉันคงเคยทำคุณความดีมาบ้างกระมัง จึงได้รับน้ำใจไมตรีมากมายเพียงนี้ ... เธอมาพร้อมกับมิตรภาพแสนอบอุ่น รอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงแจ้วๆ กับการกระโดดโลดเริงร่าของเด็ก ๆ เพื่อนทุกคนมาเยี่ยมเราที่ตูบตีนดอยพร้อมด้วยความมั่นคงทางอาหาร จากจิตใจที่ห่วงใยและยอมรับในวิถีที่เราเป็น รอยต่อระหว่างปี มีขนมมากมายในบ้าน เครื่องดื่ม กาแฟ ของฝากของแห้งที่แทบจะไม่มีที่เก็บ เรานำกาแฟสดแสนอร่อยของฝากจากเพื่อนมาชงเลี้ยงเพื่อนทุกคน ทั้งที่มาค้างและผ่านทางแวะเยือน ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยนั้นนำมาปิ้งย่างแบ่งปันกันกิน หุย... ของที่เธอนำมานั้น มันมากจนฉันรู้สึกว่าน้ำใจของเธอ(…
รวิวาร
เด็ก ๆ คือคนตัวเล็กที่แสนงาม ในบรรดาผู้มาเยือน เด็กน้อย สาม สี่ ห้าหรือหกขวบ คือแขกที่ทำให้ผู้เหย้าอย่างเราสดใส มีความสุข เราไม่รู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นลุงป้าตายายที่เฝ้าจดจ่อรอคอยการมาเยือนของลูกหลานเสียแล้ว หนูมายาเพิ่งมาและกลับไป หนูนานาเข้าโรงเรียนแล้ว แต่อีกไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็จะมาเยี่ยมเยือน แล้วเมื่อปีใหม่มาถึง หนุ่มน้อยพีพี หลานน้อยตัวขาวแก้มยุ้ยก็จะมาหา เดาได้เลย เขาต้องพาน้องกุ๊กกิ๊ก ตุ๊กตาแมวน้ำตัวเก่าขะมอมขะแมมมาด้วย น้องกุ๊กกิ๊กที่เปื้อนน้ำลาย และเจ้าของเที่ยวยื่นไปชิดจมูกใคร ๆ พร้อมกับคำยืนยันจากปากแดงย้อยว่า ‘หอมนะ ๆ หอมไหมล่ะ?’  
รวิวาร
ความรักยกเราขึ้น ติดปีกเหนือทุกข์ในปรากฏการณ์...ความรู้สึก เราคือผู้คนแห่งความรู้สึก ความเครียดเต็มสองแผ่นหลังไม่เบาบางด้วยการคิดพิจารณา จิตใจมีกำลังเมื่อ ความรักหลั่งไหลมา ความหวังเรืองรองตามติด เรื่องราวยากยิ่ง เหมือนไร้ทางออกดูเล็กน้อยลง ขอบคุณที่มีความรัก ขอบคุณที่มีคนรัก ขอบคุณที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า รัก ฉันขอขอบคุณจากหัวใจสำหรับใครคนหนึ่งซึ่งอยู่เคียงข้างและมอบความรักกว้างใหญ่ให้แก่ฉันเสมอ รักอดทนและรอคอย รัก ขัดเคือง ไม่พอใจ หากยังรีรออยู่ เงี่ยหูฟังคำอธิบาย อดทนทำความเข้าใจ เพราะเชื่อมั่นในเนื้อแท้ บนพื้นผิวของความกราดเกรี้ยว ทะเลาะเบาะแว้ง…
รวิวาร
ความรู้สึกหนึ่งไหลวนอยู่ภายใน ขับเคลื่อนเราอยู่ เหมือนสายโลหิตแห่งความปรารถนา ... เธอมา นั่งอยู่ตรงนี้ เขามาและจากไป คนกลุ่มใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป จังหวะบรรเลงแตกต่าง นึกถึงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ มันคืออะไรหนอ หลายคนเขียนหลายสิ่ง... สร้างงาน พวกเขาเรียกมันว่า การทำงาน แต่เธอ เธอไม่รู้เลยว่า วันแต่ละวัน เช้าแต่ละเช้า สิ่งซึ่งไหลเวียนอยู่ อึดอัด กระสับกระส่าย ดิ้นรนและปรารถนา หาหนทางหลั่งไหลนั้นคืออะไร เธอไม่รู้ เธอเฝ้าแต่รอคอย พล็อตต่าง ๆ มีอยู่ สมองไม่เคยหยุดเรียบเรียง วางแผนความคิด แต่แล้ว เจ้าสิ่งนั้น ที่บงการอยู่ข้างในไม่เคยเออออไปกับการกำหนดสั่งการ เธอพยายาม เงี่ยฟัง…
รวิวาร
ฤดูหนาวนำความสุขมากมายเหลือจะกล่าว สายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกอบอวลด้วยสีสันและกลิ่นหอมอย่างใหม่ ไม่ทันไร หน้าหนาวเวียนมาอีกครั้ง เสียงหมอกกลั่นเป็นน้ำค้างหยดเปาะแปะลงบนใบไม้ เสียงลมแห้ง ๆ กรูเกรียวผ่านทุ่ง ฉันอยู่ที่นี่จนกระทั่งฤดูกาลเวียนมาครบรอบแล้วหรือนี่ งานเขียนขนาดย่อมสองสามชิ้นทำให้ลืมกาลเวลา เราหยุดกิจกรรมกับผืนดินไปตั้งแต่กลางฤดูฝน หญ้าดวงดาวแห่งอัฟริกา (อัฟริกันสตาร์) หญ้าคอมมิวนิสต์ โตพรวดพราด สูงท่วมหัว เมื่อมองมุมกว้างจากถนน สวนรอบข้างดายหญ้าโล่งเตียน แต่ที่ล้อมรอบบ้านหลังคาเขียวซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวนี้คือ กองทัพต้นหญ้า…
รวิวาร
ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้…
รวิวาร
ตลาดแห่งนั้นเงียบ เป็นระเบียบและเย็นฉ่ำ ไม่มีคนขายนั่งประจำอยู่หลังกองสินค้า มีเพียงพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ กล่อมเกลาบรรยากาศ ข้าวของมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นสูง ยืนเข้าแถวราวกับทหาร ระหว่างชั้นแต่ละชั้นเกิดช่องลึกยาว พอเหมาะพอเจาะสำหรับเด็กๆ เล่นซ่อนหา... เรามาจากโลกข้างนอก ออกมาจากพาหนะคู่ชีพบุโรทั่งที่คอยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่กล้าบ่นที่แอร์ไม่เย็น และฝนสาดเปียกปลายผมเพราะกระจกหน้าต่างไม่อาจปิดสนิท (... ขอบคุณนะที่พาไปทุกที่ ไม่รู้เจ้าจะน้อยใจหรือเปล่าที่บางครั้งฉันก็แอบฝันถึงรถคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
รวิวาร
การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน... ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป…
รวิวาร
กาดก้อมเย็น มีเหตุต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันสตาร์ทมอเตอร์ไซค์อยู่นาน สลับกับคอยไล่หมา ในที่สุดรถก็วิ่งฉิว สายลมปะทะใบหน้าแสนสดชื่น อากาศยามเย็นเป็นสุข ถนนหักเลี้ยวทอดหาชุมชน เราเป็นคนของหมู่บ้านนี้แหละ บ้านทุ่งลั๊วะคอน (ทางการเรียก ทุ่งละคร) เป็นโดยสำมะโนครัว แต่ไม่ค่อยรู้จักใครเพราะอยู่ห่างออกมา ถนนสายน้อยพาไปพบสะพาน จากนั้นผืนโลกก็ลาดลงเป็นที่ลุ่ม หัวใจปริ่มสุขขึ้นฉับพลัน ผืนนาเขียวขจี กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กลางนางามเด่น ขับด้วยแถวทิวต้นข้าว เถียงนาเล็ก ๆ ดุจที่พำนักอันสมถะสงบสุข กอดอกเทียนสีม่วงขาวชมพูพราวบานอยู่ใต้ร่มตะขบริมลำธาร หันมองกลับไป…
รวิวาร
'กาดนัด'วันอังคารเป็นวันที่ใครหลายคนในเมืองนี้รอคอย ฉันเองยังติดนิสัยเขียนรายการข้าวของไว้ล่วงหน้า ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าใกล้วันนัดหมายประจำสัปดาห์แล้ว เรานั่งกุกกักอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า มองไปยังถนนทอดยาว เห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเป็นระยะ มีถุงใส่ของหลายใบแขวนเป็นพวงที่มือจับและตะกร้า...กาดนัดเชียงดาว ถึงนั่งอยู่บ้าน ฉันก็นึกภาพออกและจำได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เร็วหน่อย พ่อบ้าน ตื่นเร็ว วันนี้เราจะไปตลาดนัดกัน สัปดาห์นี้ขาดอะไรบ้างเอ่ย พริกแห้งเม็ดเล็ก กะปิ กระเทียม กุ้งแห้งซื้อไว้แล้วจากเจ้าท้ายถนนเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จะซื้อหอยดองแม่กลองของเขาดีไหมนะ ยำหอยดอง…
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
รวิวาร
มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งหน้า เนื้อตัวเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปในสถานที่อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนการโอภาปราศรัย.... หิ้วกระเป๋าเข้าที่พัก กล่องสี่เหลี่ยมครอบลงบนพื้นดินชื้นแฉะ มีพรุน้ำอยู่ข้างใต้ กล่องเก่า ๆ ที่ผุเน่าไปทีละน้อยด้วยไอชื้นจากผืนดิน และการคายน้ำของใบไม้ชายป่าที่รุกล้ำเข้ามาเรื่อย ๆ เกิดรอยแยกที่ผนัง เหล่าแมลงสาบพล่านยั้วเยี้ยยามดึกขณะผู้พักพิงหลับใหล งูเงี้ยวเขี้ยวขอ จิ้งจกตุ๊กแกและหนู ซุ่มซ่อนจับจ้องจากรู โพรงบนผนัง ขื่อคาและเพดาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ๆ พื้นโลกก็คือหิน ดิน ทราย น้ำ ฝุ่น โคลน เราเพียงนำวัตถุเรียบแข็งโปะทับ ทาบแผ่นกระเบื้องหลากสีลงบนพื้น…