ตัวเป็นๆ
‘อาว์’ อยู่บนรถเข็น มองมาด้วยดวงตาลึกงัน รอบข้างคือความเคลื่อนไหว รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ การพูดคุยโบกไม้โบกมือ สตริงควอเท็ตมือสมัครเล่นจบไปแล้วค่ำนั้น งานหนังสือในสวน ข้าพเจ้าเดินผ่านสายตากราดปะทะ แต่มิได้เข้าไปหา เหมือนโลกหยุดนิ่งชั่วขณะ ช่วงเวลาอันควรมาถึง แต่ข้าพเจ้ากลับปล่อยผ่าน ลูกและสามีเร่งยิกๆ ให้กลับ เฉกเช่นด้านบัดซบของความจนปล่อยลอยผ่าน รวมเรื่องสั้นรอซื้อสำหรับส่งไปบูชาครู รดน้ำดำหัวที่โป่งแยงคราวสงกรานต์ ข้าพเจ้าให้เผอิญอยู่ไกล ไม่ได้ข่าว ขาดงบประมาณบ้าง มิได้กราบอาว์จริงๆ สักครั้ง
ที่เชียงใหม่ เขามิได้ปรากฏแค่ในตัวหนังสือ แต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีตัวตนจริง ผู้เป็นประธานทางใจแก่เหล่าพี่น้อง หลายปีมาแล้ว พบครั้งแรกที่พิพิธภัณฑ์ จ.ลำพูน ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ เจ็บป่วยสูงวัย บนรถสองล้อพยุง หากแต่กำลังใจ วีรภาพแกล้วกล้า ลุกโชนอยู่ในแววตาเรืองอำนาจ สังขารอาจร่วงโรย แต่กำลังแห่งใจฟ้อง ไม่ล่วงถอย จากนั้นพบอาว์หลายงาน ไม่ว่างานเล็กงานน้อยเพียงใด มาร่วมเป็นกำลังใจ พูดคุยเสวนา เท่าที่จะเป็นประโยชน์แก่อนุชนรุ่นหลัง จัดงานใหญ่วรรณศิลป์วัฒนธรรมครั้งใด พี่น้องเชียงใหม่มีอาว์เป็นที่ปรึกษา อบอุ่น มีกำลัง
‘รงค์ วงษ์สวรรค์ ชีวิตจริง เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เมตตา ให้เกียรติผู้เยาว์ และส่งกำลังใจอย่างยิ่งแก่นักเขียนรุ่นน้อง ชีวิตการประพันธ์ เขาคือพญาอินทรีแห่งป่าอักษร คือศิลปินแห่งชาติ หลักหมายเกียรติยศวรรณกรรมไทย สำหรับข้าพเจ้า เขาคือผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างสมค่าจวบจนวาระสุดท้าย ในฐานะคนทำงาน เขาคือบุคคลพึงเอาเยี่ยงอย่าง โดยเฉพาะสาขาอาชีพที่ดูดกินความฝัน ย่อยเลือดเนื้อและกลั่นวิญญาณตัวเองเช่นการเขียนนี้
“ ชีวิตอย่างพวกเรานี่น่ะ มันไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะมึง...แต่ต้องดิ้นรนตะเกียกตะกายอย่างสาหัส กว่าจะได้มา” เขากล่าวยืนยันเอาไว้ *
.......................................................
สายควันสีเทาลอยเอื่อย ลมสูงบนฟ้าหนาวพาพัดไปเหนือแม่ปิง ข้ามดอยสุเทพ สูงถึงเมืองฟ้า วันที่หมอกเหมยยังห่มคลุมยามเช้าของเดือนมกราฯ พิธีพระราชทานเพลิงศพดำเนินไปอย่างสมเกียรติ ญาติมิตร ลูกหลาน เพื่อนพ้องและนักอ่านร่วมเดินทางมาคารวะอาลัย ความสูญเสียอันน่าใจหายตอกย้ำความจริงของมันเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายนี้จากโลกแล้ว เหลือไว้เพียงรอยจดจำรำลึก ...
แววตาบนรถเข็นฝังตรึงความรู้สึก หาใช่ประกายตาคนผู้แหวกว่ายอาบอิ่มในโลก หากแต่เป็นดวงตาที่จ้องมองมาจากชายแดนชีวิต ซ่อนซุกความลับอันยิ่งใหญ่ ชายบนรถเข็น ผู้ซึ่งแม้ล่วงเข้าบทสุดท้ายแห่งนิยายชีวิตตน ลมหายใจไม่เคยสูญเปล่า เขาผลิตข้อเขียนต่อเนื่องทุกสัปดาห์ อดทนกับพยาธิสภาพในร่าง ยังชีวิตอยู่แต่มีมรณาเดินเคียงคู่ ใครเลยอาจล่วงรู้ ห้วงลึกแห่งนักประพันธ์ บัดนี้ อาว์นำความลับนั้นติดตัวไปแล้ว สุญญากาศเวิ้งว้างผุดขึ้นพร้อมข่าวเศร้า ค้างคาอยู่ในใจทุกผู้ และคงอีกนานกว่าจะสลายไป จนกว่าจะกลายเป็นความทรงจำเปล่งประกาย เนื่องจากกาลเวลาช่วยขัดสีรอยหม่นเศร้า
.........................................................
ขอกราบบูชาครูอักษร
รวิวาร
* นิรันศักดิ์ บุญจันทร์ ,กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ,17 มี.ค 2552
ภาพประกอบ ลายเส้น เทพศิริ สุขโสภา