Skip to main content

เรามาอยู่ที่นี่ใช่โดยน้ำพักน้ำแรงเราลำพัง  กว่าจะปลูกสร้างกระต๊อบได้ทั้งหลัง  อาศัยน้ำจิตน้ำใจและการหยิบยื่นไมตรีจากหลายชีวิต

ขอขอบคุณคุณแม่ของเราทั้งสองที่เลี้ยงดูเรามา ให้ได้รับการศึกษาอย่างดี  จากสถาบันที่มีเนื้อหา มีทรัพยากรและประวัติศาสตร์ซึ่งเอื้อโอกาสให้เราได้เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้  ขอบคุณที่แม่ไม่เคยปล่อยให้เราอดอยาก   แม้จะมีช่วงเวลายากลำบาก  แต่ก็ได้เรียนรู้  ฝ่าฟัน  เข้าอกเข้าใจ (ลูกขอบคุณและซาบซึ้งใจอย่างที่สุดที่แม่เพียรพยายามแม้จะยากลำบากเพื่อที่จะเข้าใจวิถีของลูก  และปล่อยให้ลูกได้เลือกเส้นทางชีวิตของตนอย่างอิสระ)

20080325 ดอกไม้

“แม่” คือผู้สนับสนุนเงินก้อนแรกสำหรับที่ดินและบ้านหลังนี้  กระต๊อบซึ่งชีวิตเราสองยากจะฝันว่าจะสามารถปลูกสร้างขึ้นได้  อาชีพแห่งความรัก  การงานแห่งความสุขที่เราดำเนินมา บอกให้เราทราบและยอมรับว่า  ไม่อาจเสาะหาทรัพยากรมาได้ง่าย ๆ  และไม่มีสถาบันการเงินใดให้ความช่วยเหลือโดยไม่ต้องการหลักประกัน  การ “ให้” ของแม่ทำให้ลูกได้มีโอกาสสานฝันในการมี บ้าน-  ครอบครัวอบอุ่นที่ลึก ๆ ในใจโหยหามาตลอดชีวิต

ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่เชื่อมั่นและไว้วางใจ  ในความซื่อสัตย์ เกียรติและวิถีของเรา  ด้วยการให้ยืมเงินบางส่วน  และร่วมซื้อที่ดิน  

แม้ไม่ใช่บ้านดินที่มีเพื่อน ๆ มาช่วยกันลงแรงเหยียบย่ำ  หากก็เป็นบ้านแห่งน้ำมิตรและกำลังใจ แปรเป็นอิฐ หิน ปูน ทราย  และที่ว่าง สำหรับปลูกสร้างสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต  การปลูกบ้านหลังนี้ย้ำเตือนหัวใจว่า  ชีวิตไม่ได้อยู่โดยลำพัง  เราได้รับการอุดหนุนจุนเจือจากใครคนใดคนหนึ่งเสมอ  ได้รับมิตรภาพ  ความรัก หรือแม้กระทั่งกำลังใจตลอดมา  เพียงแต่ บางครั้ง เราอาจจะไม่เห็น  หรือมองข้ามไปด้วยคิดว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย

............................................................

ฉันมีเตียงสี่เสาโบราณชื่อ “เตียงแสงตะวัน”  ซึ่งเพื่อนช่วยให้มีมันด้วยเหตุผลอันน่ารัก  “เตียงนี้ชื่อพ้องกับเธอ   – แสงตะวัน   รวิวาร  ดูสิ หัวเตียงเป็นรูปพระอาทิตย์ทอแสง  เธอน่าจะได้มันไว้  ฉันจะออกเงินให้ล่วงหน้า”  ...(ขอบคุณจ้ะเพื่อนที่นึกถึงหัวใจ)  

ฉันมีหนังสือแฮรี่ พอตเตอร์ ชุดใหญ่ เป็นของขวัญแห่งน้ำใจจากเพื่อนคนหนึ่ง  คิดไม่ถึงว่าเธอจะทยอยส่งมาให้จนครบทุกเล่มเช่นนี้  เธอเองไม่ได้มีเงินทองสำหรับใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากมาย  

ฉันยังมีต้นไม้ที่เพื่อนเพาะชำด้วยความรักและเอาใจใส่   เธออุตสาหะรอนแรมหอบหิ้วมาฝาก   ได้รับกาแฟคั่วบดหอม ๆ   และแม้กระทั่งเสื้อผ้าเครื่องสำอางเป็นของฝากจากเพื่อนพี่ที่เคารพรัก    

20080325 ต้นไม้

..............................................................

บ้านทุกหลัง หากกวาดตามองไปรอบๆ  ตรงหัวเตียง  บนโต๊ะเขียนหนังสือหรือแม้กระทั่งในครัว  ย่อมจะพบข้าวของ อย่างน้อยก็ชิ้นหนึ่งซึ่งมีคนมอบให้  ในชีวิต เมื่อหันมองกลับไป  เราคงพอจดจำได้ว่า เคยมีใครแบ่งปัน  หยิบยื่นความช่วยเหลือ หรืออาจเพียงแค่นั่งอยู่ใกล้ ๆ  คอยปลอบโยน ให้กำลังใจ

.....................................................................................

ฉันจะบอกลูกว่า   มนุษย์อยู่ได้ด้วยการข้องเกี่ยวเกื้อหนุนกับอีกหลายชีวิต  ที่เรามาอยู่บ้านหลังนี้   ได้สูดลมหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ผ่านร่าง  มีสายลมพัดพลิ้วเย็นสบาย  มองไปทางไหนมีแต่สีเขียวชื่นตาชื่นใจ  ไม่ใช่เพราะความเก่งกล้าสามารถ  หรือการดิ้นรนต่อสู้ของพ่อกับแม่เท่านั้น   แต่ยังมีคนอีกมากมายร่วมแผ้วถางหนทาง  คุณตาคุณยาย  ครูบาอาจารย์  นักคิด นักเขียน  บรรณาธิการ ผู้อ่าน  และมิตรที่แสนดีทั้งหลาย

เราเป็นหนี้สติปัญญา  และการพิสูจน์ความเชื่อของธอโร  เป็นหนี้นักคิด กวี  และปวงปรัชญาเมธี  นักสู้แห่งสันติ  มหาตมะ คานธี , ฟูกูโอกะ ,อองซานซูจี  ฯลฯ รวมทั้งหนี้แรงบันดาลใจจากปราชญ์ชาวบ้านทั่วทั้งถิ่นไทย  เบื้องหลังการงานของเรามีเปลวแสงแห่งนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งที่มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว   ข้าง ๆ มีบรรณาธิการ  นักวิชาการ  นักวิจารณ์ผู้ทรงความรู้  แหละเรายังมีกำลังใจจากเพื่อนนักเขียนซึ่งกำลังคร่ำเคร่งทำงานอยู่อย่างโดดเดี่ยวในทุกที่  รวมทั้งสำนักพิมพ์และผู้อ่าน ที่มอบโอกาสรอคอยอยู่ตรงหน้า

...........................................................................

20080325 ท้องฟ้า

สำหรับเพื่อน ๆ ของฉัน  ฉันซาบซึ้งดีว่าเงินทองที่เธอหยิบยื่นให้มานั้นไม่ใช่เพียงแค่เหรียญกลม ๆ  หรือธนบัตรหลากสีเท่านั้น  แต่มันคือหยาดเหงื่อแรงงานแห่งชีวิต คือความทุกข์ความสุขของเธอที่กรุณาแบ่งปันกับฉัน อันล้ำค่านัก

แหละฉันไม่มีสิ่งใดตอบแทนเลย โลกเอ๋ย  ผู้มีพระคุณ เพื่อนรัก  นอกจากการใช้ชีวิตที่ตนเลือกอย่างเต็มกำลังความสามารถ  แบ่งปันสิ่งที่ฉันมี  นั่นคือ การงาน  -ตัวหนังสือของฉัน  ถ้อยคำและเรื่องราวจากชีวิต  

ฉันยินดีแบ่งปันบ้านหลังนี้  ขุนเขาสูงใหญ่  ร่มไม้ ชายคา  ความสุขสงบ  มนตร์ขลังแห่งรัตติกาล  ความลี้ลับอัศจรรย์แห่งฤดูกาล   ดอกไม้ด้านหน้า  พืชผักด้านหลัง  และส้มสุกลูกไม้ที่กำลังเติบใหญ่  ร่วมกับ  “เธอ” ทั้งหลาย
รวมทั้งคำอวยพรจากใจ...  

“ขอให้ทุกคนได้ทำงานที่ตนรัก และมีความสุข     
ขอให้ทุกชีวิตได้อยู่ในที่ที่ดีงาม   ทั้งต้นไม้ ธรรมชาติ อากาศ และผู้คนแวดล้อม  ดุจเดียวกับที่ฉันมีโอกาสใช้ชีวิต”


ป.ล ขอขอบคุณเพื่อนพี่ทุกคนที่ชุมชนชาวบล็อกประชาไทด้วยนะคะที่ต้อนรับขับสู้ และพูดคุยทักทาย  ผู้เขียนซาบซึ้งใจเป็นที่สุด  หากไม่ได้ส่งถ้อยคำตอบรับ โปรดอภัย เพราะฝากสามีส่งงานที่ร้านค่ะ  บ่ได้เข้าถึงเน็ตด้วยตัวเอง...รวิวาร ,น้ำฝนเจ้า

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
เมื่อคุณออกไป ทุกอย่างก็พังทลาย  ยินเสียงชายชรารำพึงในความเงียบ  ...ไปกันเถอะแพลทเทอโร นั่นไม่ใช่ที่สำหรับเรา *
รวิวาร
  มาพร้อมกับดีเปรสชั่น ซึ่งอ่อนแรงผันแปลงจากไต้ฝุ่น..น้ำฟ้า ซึ่งทำคุณบ้า เที่ยวสำรวจตรวจตราต้นไม้ ขุดหลุมลงต้นกล้ารุ่นสุดท้าย ความลุ่มหลงผูกพันต่อสิ่งที่ลงมือ ปลูก สอดส่องดูแล รดน้ำ ถอนหญ้า ใส่ปุ๋ย อาณาจักรหัวใจคุณขยายไปตามมุมสวน ลักษณาการของกิเลสแบบpassion แนบเนื่องและยึดติด คุณเฝ้ามองชีวิตแต่ละช่วง แต่ละขณะ เคลื่อนไปสู่จุดต่าง ๆ ตัวตนซึ่งเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นดินหลักแห่งอุปนิสัย แต่ละช่วงเวลา มันได้ใส่สิ่งใดลงไป คุณนั่นเองใส่รายละเอียดลงไป แม้บางครั้งไม่รู้เนื้อรู้ตัว คุณกลายเป็น กลายเป็น และกลายเป็น...สิ่งใหม่เรื่อย ๆ
รวิวาร
สมมติว่าแม่พูดอยู่กับลูก สมมติว่าลูกเข้าใจทุกอย่างที่แม่พูด...   เช้าวันนี้ แม่รู้สึกเศร้าๆอยู่บ้าง แม่พลิกดูปฏิทินเมื่อสองสามวันก่อน บิลค่าไฟฟ้าใกล้จะมาแล้ว แม่เปิดกระเป๋าสตางค์ทุกใบในบ้าน เดินไปค้นกระป๋องคุ้กกี้ในห้องพี่เชน นับธนบัตรไม่กี่ใบที่มีอยู่ในกระเป๋าราวกับมันจะงอกเพิ่มขึ้นมา แม่ออกมามือเปล่า แหงนดูฟ้า ฝนยังทำท่าว่าจะตก
รวิวาร
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยผ่าน  สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่า ถูกแล้ว  เราต้องลับดวงตาให้แหลมคมสว่าง  ระมัดระวังอย่าสับสนกับถ้อยคำทั่วไป “ง่าย ๆ สบายๆ ไม่ซีเรียส”  ความโง่เขลามักง่ายมีโฉมหน้าคล้ายกันนี้
รวิวาร
ชีวิตเป็นเรื่องลึกซึ้ง อีกเพียง 2 ฤดูฝนฉันก็จะอายุสี่สิบแล้ว เมื่อวาน หัวใจยินดีที่ตระหนักขึ้นว่า ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ที่มีความหมาย เมื่อคืนยังตั้งคำถาม ค้นลึกไปในพฤติกรรมของตน...
รวิวาร
ฉันมีภูเขาทั้งลูก จริงๆแล้วมากกว่านั้น จู่ๆฉันก็พบว่า แดดยามเช้าที่สดใสเป็นสีทองทำให้ริมฝีปากเผยอยิ้ม  เมื่อคืนเราพูดคุยกันบนที่นอน สมมติว่าถ้าฉันมั่งมีขึ้นมา ฉันจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้ไหม  ฉันอยากจะได้อะไรบ้างหนอ ฉันซักไซ้ไถ่ถาม คอยกวนไม่ให้เขาหลับ นั่งพร่ำเพ้อ จินตนาการเล่นๆ และคอยเขย่าตัวเขาเรื่อยๆ เพื่อตรวจสอบว่าเขายังฟังฉันอยู่  เขาหลับๆตื่นๆแต่มีรอยยิ้มฉาบหน้า  เขาแค่งีบเล่นๆเท่านั้น ก่อนจะตื่นขึ้นมาทำงานกลางดึก  ฉันพูดออกมาดังๆว่า ถ้าให้ไปอยู่ในสวนสวรรค์ของพระเจ้าแลกกับที่อยู่ตอนนี้จะเอาไหม  จากนั้นก็ส่ายหน้าปฏิเสธตัวเองทันใด  ไม่เห็นสนุก…
รวิวาร
 เช้าจรดเย็นของเดือนสิงหา มีเสียงโป๊กเป๊กของลูกลำไยหล่นกระทบก้นถังไม่ขาด สวนนี้สวนนั้นทยอยกันเก็บ ที่กว้างมากก็จ้างคน  บ้างฮึดเหนื่อยเอง บางเจ้าคร้านจะลงทุนในเมื่อราคาทรุดฮวบ ถูกกว่าปีที่แล้วเท่าตัว ตัดสินใจขายเหมามันทั้งสวน
รวิวาร
  ความรักของแม่หวานจับใจดั่งน้ำอ้อยน้ำตาล วันเดือนปีล่วงผ่าน ลูกปรารถนาดื่มกินเสมอ...
รวิวาร
มันแน่อยู่แล้ว ที่คุณรู้สึกอึกอัก เก้อกระดากหากจะกล่าวถึงความจน บางครั้งคุณคิด การเขียนถึงชีวิตตัวเองนั้นช่างเปล่าเปลือย เชื้อเชิญผู้อื่นเปิดหม้อข้าว เข้ามาดูถึงในมุ้งเชียวหรือ มันเหมือนบอกเล่ากับคนอื่น ขณะเดียวกัน พูดคุยกับตัวเอง เมื่อคุณถ่ายเทความคิดผ่านอักษรปีแล้วเดือนเล่า คุณก็คุ้นเคยที่จะทำส่วนตัวให้กลายเป็นสาธารณะ
รวิวาร
 ฤดูนี้เป็นฤดูตามหาดอกไม้ ฉันยอมรับกับตัวเองเมื่อสำรวจผืนดินแล้วพบว่า ที่หัวใจใฝ่หาคือมวลมาลีสวยสด มากยิ่งกว่าพืชผัก ผุดขึ้นก่อนปากท้องคืออาหารตาอาหารใจ เถอะน่า ติดตามหัวใจไป ใช่จะละทิ้งร่างกายเสียเมื่อไหร่ ผักบุ้งปลูกแล้ว รวมทั้งผักชี กุยช่าย แคต้น กะเพราขาว กระเพราแดง ผักชีฝรั่ง มะกรูด มะนาว แมงลัก ถั่วพูที่เพาะไว้ในกระถางแอบเลื้อยไว ๆ เมล็ดน้ำเต้าที่น้องสาวเก็บมาฝากจากสวนพันพรรณของพี่โจน จันใด แตกใบ แต่ตกเป็นอาหารหอยทาก
รวิวาร
 หนูมาเยือนในวสันตฤดู เช้านั้นโลกนุ่มนวล หมอกฝนแผ่ละอองไอชื้น ขาวๆนุ่มๆทั่วภูเขา วันคล้ายวันเกิดป้าผ่านไปเพียง 4 วัน แม่ของหนูก็ส่งข่าวมาบอก ได้ลูกสาวแล้ว ป้าพูดกับลุงว่า วันนี้ช่างเป็นวันดีเสียจริง มีเด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่งมาเยือนโลก คิดดูสิ เด็กทารกน้อยตัวแดงๆ นอนบริสุทธิ์อยู่บนเบาะ ป้าหลับตา เห็นหนูตัวเปล่งประกาย วิญญาณพรายพร่าง รอบเบาะนอน มีนางฟ้าแย้มยิ้ม เห่กล่อมเพลง เทวดาต้องยินดีแน่ๆที่มีดวงวิญญาณจุติในโลก เพราะว่าสถานที่นี้แสนงดงามและมีความหมายพิเศษ พระพุทธองค์บอกว่า โอกาสในการได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก เหมือนเต่าตัวหนึ่งซึ่งนานนับกับกัลป์กว่าจะลอยคอขึ้นมาในมหาสมุทรสักครั้ง…
รวิวาร
  29 พฤษภาฯ 52ตุ่นน้อยลูกรักเช้าวันนี้ ฤดูฝนมาแล้ว อากาศเย็นสบาย ภูเขาของเราซ่อนตัวอยู่ในเมฆหมอก ดูสิ แม้แต่ฤดูกาลเปลี่ยนแม่ก็อยากบอกลูก อยากคุยกับลูก ชี้ชวนกันดู ตอนเช้า แม่นั่งฟังเสียง ‘กะโล๊กโป๊ก' ที่เอามาจากมะขามป้อม ลูกจำได้ไหม วันของเล่นจาก "ลม" ไง ปิดเทอม ตอนที่ลูกอยู่ แม่ไม่ได้เอาขึ้นไปแขวน แต่ว่าวันก่อน น้ารจกับน้ากาน และน้องนานามา น้าเขาถามว่านี่อะไรดูเหมือนหน้าไม้ แม่ก็เลยถือโอกาสจัดแจงตามที่ค้างคาใจ แม่ถอดด้ามพัดไม้ไผ่ที่ซื้อมาจากคุณยายแก่ๆ หน้ากรุงเก่า อยุธยามาผูกห้อยแทนไม้ไผ่สานรับลม แล้วขอปะป๊าเอาขึ้นไปแขวนตรงเสาสำหรับเถาดอกสายน้ำผึ้ง ทีนี้มันดูโดดเด่นเห็นชัด เสียงดัง…