Skip to main content

...ไม่กี่วันมานี้พบว่า การอาศัยอยู่ที่นี่เหมาะแก่การอ่าน วอลเดน* อย่างยิ่ง มีสิ่งร่วมในความคิดและประสบการณ์หลายอย่างบรรจุอยู่ในหนังสือเล่มที่เคยอ่านมาเนิ่นนาน ข้ามผ่านกาลเวลานับร้อย ๆ ปี ไม่น่าเชื่อเลยว่า บันทึกการใช้ชีวิตอย่างสมถะริมบึงชายป่าของธอโรจะหวนกลับมาสัมผัสใจ ทั้งที่ต่างยุคห่างสมัย


.........................................................

 

10401


ฟ้าเย็นวานกว้างใหญ่ไพศาล แถบแสงจากดวงตะวันหลังเขาระบายเมฆเป็นขีดสีชมพูยาว ลูกสาวคนโตเมียงมองจากอ่างล้างจาน ร้องเรียกแม่ให้รีบมาดูก่อนเลือนหาย โลกเบื้องบนเปลี่ยนสีไปทีละน้อย ความมืดเติมส่วนผสมลงไป แปรเปลี่ยนสีสันของฟากฟ้า ค่อย ๆ เจือจาง เกลี่ยแทรก ไม่ให้รู้สึกว่าถูกจู่โจม ฝีเท้าของรัตติกาลแผ่วเบานัก

 

เรายังยืนคุยกันอยู่นอกบ้าน ระหว่างที่ฉันเตรียมน้ำอุ่นให้ลูกอาบ สามีนำรถเข็นไปเก็บไว้ในเพิง ลูกคนเล็กคราดหญ้าแห้งที่พ่อเพิ่งตัดมาสุมรวมเป็นรังหมาในหลุมที่พวกมันขุดเล่น เพียงครู่เดียวเมื่อหันไปมองฟ้า ดาวดวงเล็ก ๆ สดใสหลายดวง จุดตัวเองแล้วที่ขอบโลก เปล่งประกาย พริบพราวเหมือนเพชรเม็ดใหม่

 

เมื่อยามบ่าย เรานั่งหย่อนขาอยู่นอกชาน สายลมพัดหมู่เมฆลอยข้ามท้องฟ้า ทัพเมฆยาตราเคลื่อนพลข้ามสนามประลองท้องนภาอย่างรวดเร็ว ไปสู่ที่ใด แห่งหนไหน ในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ หากความงามตระการตรงหน้าแปลงเปลี่ยนเป็นเงินตราได้คงดี ในใจรู้สึกราวคนเกียจคร้าน มันอิ่มเอิบ เป็นสุขเสียจนนึกสงสัยว่า นี่ฉันต้องดิ้นรน ไขว่คว้าหาสิ่งใด...

 

ทว่า ในความเป็นจริง ทุกวัน ลูก ๆ ยังแบมือขอเงิน ข้าวของอีกมากมายต้องซื้อหา มีรายการค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ งานเขียนของเรายังไม่อาจประทังชีวิต แหละผลผลิตจากผืนดินก็ยังไม่สามารถเลี้ยงครอบครัว

 

ที่แห่งนี้ผ่านการตรากตรำและใช้งานหนักมาหลายปี มันต้องการการฟื้นฟูเช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัย เราไม่ได้อยู่ริมบึงวอลเดนอันอุดมปลีกเร้น ไม่ได้ชัดเจนแจ่มกระจ่างด้วยญาณทรรศนะ หรือใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอิสระดังธอโร เราก็เหมือนผืนดินของเรา เพาะปลูกพืชพันธุ์มาแล้วหลายชนิด ถูกรีดเค้นความอุดมสมบูรณ์อันมีมาแต่เดิมเป็นเวลาช้านาน หลายครั้งตัวเราใช้ชีวิตอย่างเปล่าเปลือง เราต้องการเวลา และการรอคอยอย่างอดทน เพื่อให้ “ชีวิต” ปฐมมารดาผู้หล่อเลี้ยง ได้ฟื้นคืนขึ้นในเรา และในผืนดินที่เราอยู่อาศัย

 

หิมะตกหนักที่เมืองจีนและประเทศอิสราเอลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นไปได้ว่าอาจตกลงมาเหนือยอดดอยของเราในเวลาไม่ช้านาน เช้า สายฝนกระหน่ำหนักทั้งที่อากาศหนาว และตลอดฤดูแล้ง เราอาจถูกปิดล้อมอยู่ในหมอกควัน ธรรมชาติกำลังปรวนแปร แต่กระนั้น ชีวิตยังคงสำแดงพลัง มีความหวังให้เราเห็นในหมู่เมฆ ในท้องฟ้าที่สายฝนชะจนใสสะอาด ในข่าวสารมากมายที่ชี้บ่งว่าดาวเคราะห์สีน้ำเงินกำลังพยายามปรับตัวคืนสู่สมดุล

 

เกิดสวนผักขึ้นจากเมล็ดพันธุ์ที่หว่านโยนส่งๆ ไปหลังครัวอย่างอัศจรรย์ ยอดฟักทองอ่อนๆ งอกใบสวยงามขึ้นตามพื้น ดุจเดียวกับมะเขือเทศและมันฝรั่ง นอกจากตำลึงกับมะระที่นกน้อยพามาฝากไว้ใต้ต้นลำไย สะระแหน่ในกระบะไม้แตกยอดงาม ผักชี ต้นหอมเริ่มเก็บกินได้ แม้ว่าดินจะยังคงแข็งแห้งผากในแดด และเหนียวแฉะไม่อุ้มน้ำยามฝน เหล่าพืชผลส่วนใหญ่เติบโตอย่างยากลำบาก แต่ก็ยังมีความหวัง

 

10402


ลูกคนเล็กก้มหน้าแนบพื้น เพ่งดูลูกฟักทองใกล้ ๆ และคอยป้วนเปี้ยนรอบมะเขือเทศสุกแดงพวงใหญ่ จู้จี้ถามไถ่ เมื่อไหร่จะได้เด็ด ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทราย “อ้าย” ** บอกว่า หญ้ายังขึ้นได้ ที่ใดมีหญ้า นั่นย่อมเป็นเครื่องหมายว่า มนุษย์จะสามารถเอาชีวิตรอด (สามีของฉันชอบบอกใครๆ อย่างเย้ยหยันว่า กำลังหัดกิน)

 

10403

 

... เราไม่ต้องหัดกินหญ้าหรอกจ้ะ แต่ว่าสามารถปรับเปลี่ยนชีวิต เยียวยาบาดแผลและความผิดเพี้ยนภายในร่วมไปกับการอ่อนน้อมยอมตน ให้ความร่วมมือกับธรรมชาติ แม้อาจมะงุมมะงาหราบ้าง สิ่งที่ได้เรียนรู้หรืออ่านมาต้องการเวลาซึมแทรกเข้าสู่เลือดเนื้อ เราต้องลองผิดลองถูกกันไป ฟักทองริมรั้วไม่เติบใหญ่ เพราะแดดแรง ดอกไม้มีแต่ใบเนื่องจากถูกหนอนแทะ และที่เราเป็นทุกข์ วิตกกังวล อาจเพราะขาดความเข้าใจ ความไว้วางใจในชีวิต

 

ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันนะ พู่ระหงสีม่วงจากยอดดอย ชบาดอกแดง นุ่มเหมือนกระโปรงกำมะหยี่ เจ้ามหาหงส์กลีบบาง มะลิซ้อนสีขาว หรือเล็บมือนางที่ถูกแมลงแทะจนใบเหี้ยน โมก กุหลาบ กับพวงคราม ค่อย ๆ ทำความเข้าใจชีวิตไปพร้อมกัน

 

ที่โรงเรียนกับมหาวิทยาลัย ไม่มีใครสอนเราเรื่องเหล่านี้ เราไม่รู้ว่า เราสัมพันธ์กับผืนดิน ท้องฟ้า พืชพรรณอย่างไร นอกจากข้อมูลพื้นๆ เราใช้เวลาส่วนใหญ่เรียนรู้เรื่องราวเชิงสังคม ความคิดทฤษฏี และฝึกฝนความรู้ในสาขาวิชาชีพ คงไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่ เงียบ ฟัง และทำความเข้าใจ....

 

โลกนี้เต็มใจหล่อเลี้ยง ถ้าเพียงแต่เราจะเรียนรู้

ฉันเชื่อ เมื่อเราหยุดการกระทำที่ส่งผลร้าย “ชีวิต” สิ่งซึ่งทรงพลังที่สุด อัศจรรย์ที่สุด จะใช้ปัญญาของมัน ฟื้นโลก และ ฟื้นเรา

 

-----------------------------------------------------------------------

* วอลเดน ,เฮนรี เดวิด ธอโร เขียน ,สุริยฉัตร ชัยมงคล แปล ,พจนา จันทรสันติ บรรณาธิการ ,

โกวิทย์ เอนกชัย -วสันต์ สิทธิเขต ภาพประกอบ , คบไฟ 2534

** แสงดาว ศรัทธามั่น

 

 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
เธอ*ควานหาเสียงซึ่งไม่ใช่ตัวเธอ ไม่ได้มีอยู่ในตัวเธอ เรียกหามันด้วยกระบวนการ วิถี แนวทางแห่งศาสตร์การแสดง จวบจนกระทั่งเสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับกลาย ไม่ใช่เธออีก เธอควานหาพายุพยาบาท ไฟแค้น โศกนาฏกรรมบีบคั้นหัวใจชนิดที่ทำให้คลั่ง ซึ่งเธออาจไม่ประสบเท่านั้นในชีวิต โยกย้ายมันจากอากาศ ผ่านความเจ็บช้ำของผู้คน ระเบิดมันออกภายในร่าง จนกระทั่งปรากฏผ่านแววตา สีหน้า ท่วงทีกิริยาทุก ๆ ทาง
รวิวาร
ก็เพราะในชีวิตมีความเศร้า หรือชีวิตมีอีกชื่อเรียกว่า ทุกข์เศร้า คนจึงรานร้าว ดิ้นรนแสวงหา และเสียดทานภายในไม่หยุดหย่อน... จนกว่าจะปลดเปลื้องถึงอิสรภาพได้นั่นละกระมัง คุณน้อยคิดว่าอย่างนั้นไหม? ... สวัสดีปลายพฤษภาค่ะ
รวิวาร
 หัวใจของฉันไม่อาจแยกขาดจากร่าง ร่างกายที่กระทำการโดยปราศจากดวงใจขับเคลื่อนไปชั่วครู่ชั่วยาม ระหว่างดำเนินกิจกรรมนั้นไม่รู้สึกตัว ถูกครอบงำเต็มเปี่ยม มุ่งหน้าสู่ทิศทางที่ปรารถนา หยุดนิ่งทันทีเมื่อถึงที่หมาย "ฉัน" มีอยู่ในมิติกว้างใหญ่ ใช่เพียงแค่กาย-องคาพยพอิ่มหิวหลับนอน อยากคลายหายอยาก ไม่รู้หรอกว่าวิญญาณคืออะไร แต่รับรู้ได้ถึงความรู้-รู้สึกลึกล้ำ ส่วนหัวใจนั้นมีอยู่แน่แท้ หัวใจที่ทำให้ความรู้สึกดื่มด่ำ วาดรูป แต่งเพลง เขียนบทกวี มองเห็นความงามของสรรพสิ่ง งามที่ปวดร้าวในโลกแห่งความเป็นจริง งามบริสุทธิ์หล่อเลี้ยงในธรรมชาติ งามประณีตวิจิตรจากศิลปะ งามปัญญาแห่งธรรม
รวิวาร
น้ำ เราต้องการน้ำกันมากเหลือเกิน ทั้งน้ำดื่ม น้ำอาบ น้ำใช้ น้ำเย็น ๆ ใสสะอาด หอมหวานชื่นใจ น้ำใต้ดินเจือกลิ่นแร่ กรวดทราย หวานหอมแตกต่างกันไปแต่ละที่บนโลก ไม่จืดสนิท หรือแปร่งปร่าเช่นน้ำดื่มจากขวดหรือน้ำประปา ...
รวิวาร
ปีเก่ากำลังตายจาก ปีกาลใหม่คล้อยเคลื่อนมา นำหน้าด้วยขบวนทวยเทพ เทพีสงกรานต์ผู้สาดน้ำชะโลก ล้างแล้งด้วยพายุฤดูร้อน มนุษย์รับช่วงขัดถูบ้านเรือน ซักผ้า ชำระคราบไคลในวันสังขารล่อง...
รวิวาร
ตั้งหลักสมัครสมานกับผืนดิน (2552)มกราฯ : วุ่นรับแขกหลายคณะ ไม่เกิดฉันทะพอที่จะจับจอบกุมภาฯ : อา...โกยหญ้า ขุดดินขึ้นมากอบกำ ในที่สุดก็ผูกสัมพันธ์กันอีกครั้ง เราและผืนดินสำรวจสวนไม้ผล -มะม่วง หลังจากรดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยขี้วัวและคลุมโคนต้นด้วยเศษหญ้า ไชโย! มะม่วงมหาชนกอายุ 3 ปีที่โรงรถติดลูกจิ๋วหลิวน่ารัก ต้นข้างห้องนอนเชนแตกยอดอ่อน สุขภาพดีขึ้น-ต้นหม่อน (มัลเบอรี) ออกลูกเยอะกว่าปีที่แล้ว ลูกโตขึ้นด้วยถึงแม้จะไม่เท่าต้นแม่ที่ตัดกิ่งมาปักชำ เราใส่ปุ๋ยพรวนดินเหมือนกับต้นอื่น ๆ ระหว่างรดน้ำก็คุย ขอบคุณ และชื่นชมเขาไปด้วย ปิดเทอมนี้ น้องธารคงได้เอื้อมเด็ดใส่ตะกร้าใบน้อย-มะยม,กะท้อน เพิ่งปลูก…
รวิวาร
สรุปผลแผ่นดินโดยสังเขป (2551) ผลผลิตที่โดดเด่นที่สุด : ลำไยจำนวน : ประมาณ 15 ต้น (เคยนับแต่จำไม่ได้แน่ชัด)
รวิวาร
 ฉันรอเหมือนต้นไม้ต้นนั้น เหมือนสิงห์ดักซุ่ม เหมือนกระต่ายน้อยรีรอระแวดระวังต่อหน้าแปลงผัก เหมือนเหยี่ยวบินวนกราดดวงตาแหลมคมจากฟ้าสูง ความปรารถนามีอยู่ทุกวินาที บางครั้งราวกับความคลั่งไคล้ใหลหลงในอันที่จะเนรมิตสิ่งต่าง ๆ มองต้นไม้ที่ปลูก ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่า ระหว่างการเขียนระบายสิ่งอัดอกกับหยิบจอบพรวนดิน อันไหนสั่นไหวแรงกล้ากว่ากัน แต่กับหนังสือนั้น ยกประโยชน์ให้จำเลย ด้วยถือว่ามันเป็นรองการเคลื่อนไหว หายใจ เช้า อ่านหนังสือจบหนึ่งเล่ม ดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำ ฉันอ่านไปครึ่งเล่ม แล้วจะเป็นไร หากจะอ่านอีกครึ่งที่เหลือ ระหว่างรอสายยางให้น้ำ
รวิวาร
น้ำตาล ไม่ใช่น้ำตาลที่เข้าคู่กับกะทิแล้วรวมตัวกับฟักทองหรือกล้วยน้ำว้ากลายเป็นแกงบวดหอมมัน แต่มันคือหมาน้อยตัวหนึ่งซึ่งสามารถเสกฝนได้ หากฝนที่โปรยปรายเป็นสายจากตัวนั้นเป็นห่าหมัด ไม่ใช่สายน้ำเย็นฉ่ำ มันเป็นสุนัขจร ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ปรากฏตัวขึ้นบนถนนสายเล็ก ๆ ทอดสู่หุบเขาผาแดง ลูกหมาสีน้ำตาลพองฟูเดินต้วมเตี้ยมอยู่ตรงขอบถนนจวนเจียนจะถูกเฉี่ยวชน ผู้ซึ่งจะกลายเป็นนายของมันกระโดดผลุงลงจากกระบะหลังซึ่งสมัครพรรคพวกนั่งกันอยู่หลายชีวิต โอบอุ้มมันขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีฝูงมนุษย์ก็พากันกระถดหนีไปกองอยู่มุมเดียว ด้วยเกรงกลัวฝนสีดำแสนคันจากลูกสุนัขน้อย
รวิวาร
เช้านั้นไม่เหมือนเช้าอื่น ๆ แต่เป็นวันที่กะทิ ลูกหมาน้อยต้องจดจำไปชั่วชีวิต นายหญิงของมัน ผู้ซึ่งตะก่อนร่อนชะไรเคยตื่นแต่เช้าตรู่ เดี๋ยวนี้เมื่อไม่มีภาระดูแลลูกหญิงน้อยเริ่มตื่นสายขึ้น กะทิเองก็เช่นกัน ก็อากาศหนาวออกอย่างนั้น กว่าตะวันจะโผล่พ้นม่านหมอกก็สายโด่ง นอนซบพี่หมี ตุ๊กตาสีน้ำตาลขนฟูเพื่อนเก่าที่เด็ก ๆ ยกให้ อุ่นสบายกว่าถึงจะสาย แต่อากาศยามเช้ายังยะเยือก เย็นสบาย แทนที่นายหญิงจะถือสายยางไปรดน้ำต้นไม้ เธอกลับฉวยย่ามม้งใบน้อย ทำท่าจะออกไปข้างนอก กะทิลุกขึ้น ส่งเสียงเห่าบอกน้ำตาลทันที ‘ปะ เราไปวิ่งไล่ตามมอเตอร์ไซค์กันดีกว่า ดูซิว่า วันนี้เธอจะไปทางไหน เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา…
รวิวาร
หากใครคิดว่าที่นี่มีเพียงนกน้อยเสียงใส สัตว์โลกน่ารักและวิวงาม ๆ นั้น เขาเข้าใจผิดแล้ว จริงอยู่ นกน้อยสารพันขานรับอรุณ ปลุกเราแต่เช้า ดุเหว่าร้องเสียงใสเวลาใกล้รุ่ง บ่าย นกทุ่งส่งสำเนียงเจื้อยแจ้ว ไพเราะจนไม่ต้องง้อดนตรีของมนุษย์ เย็น เมื่อแดดแสดงลีลาเหนือขุนเขา อีกาพร่ำร้อง กาๆ กระปูดร้องปูด ๆ เตือนพลบ บางวันเหยี่ยวร้องบนฟ้าสูงไกล วู๊ ๆ เสียงใสเหมือนเด็กน้อย ขณะนกกินปลาตัวใหญ่สีขาวบินโฉบต่ำ ๆ ลิ่วลงหาปลาในสระ
รวิวาร
ทั้งเสียงไวโอลิน หนังสือและหลายสิ่งที่ชีวิตเก็บเกี่ยวตกค้างอยู่ภายในทำให้รู้สึกปวดร้าว ปวดแบบแปลบ ๆ หนึบ ๆ และร้าวรอนราวกับหัวใจบอบบางเหลือแสน ความเศร้าอันอ่อนหวาน ไม่อาจหักห้ามบังคับ ทุกคราวที่ไวโอลินโหยไห้หวนหาของซีเคร็ตการ์เดนแว่วดังขึ้น ขณะเปิด บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน1 หน้าสุดท้าย หนังสือที่เขียนโดยคนสีไวโอลิน คลอด้วยเสียงไวโอลิน หัวใจร่วงร้าวโดยไม่ตั้งใจ ขยับตัวไม่ได้ เบื้อใบ้ ปากปิดสนิท