“ตื่นมาทุกเช้า อย่าลืมทำดีให้ตัวเอง” ประโยคนี้นึกขึ้นเมื่อสาย
ยังดีเป็นสายที่มีแดดส่อง ไม่ใช่สายเกินไป สายเกินการณ์......
“เขียนหนังสือ” เขียนทุกวันไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ยากเนื่องจากเรารู้ และคิดหัวข้อเรื่องไว้มากมาย แต่ที่ไม่ง่ายคือ แรงบันดาลใจสดใหม่ขณะเขียน
สำหรับฉันแล้ว “แรงบันดาลใจ” คือความรู้สึกล้นปรี่ที่ขับความปรารถนา ความสุข และความกระหายภายในพรั่งพรูออกมาเป็นตัวอักษร ความรู้สึกเช่นนั้นเป็นความรู้สึกของความสุขหรรษา และการสร้างสรรค์อันเบิกบาน วันใดที่เริ่มต้นยามเช้าด้วยความขุ่นข้องหมองจิต ไม่อาจสรรหาแรงบันดาลใจ- แรงดลล้นปรี่แห่งความสุขภายใน
.............................................
ทำดีให้ตัวเอง รู้สึกดีหรือรักตัวเองทำได้ไม่ยาก เพียงตื่นมายามเช้า รู้สึกถึงโลกอันเยือกเย็นบริสุทธิ์ สัมผัสละอองหมอกฝอย ๆ เย็นสดชื่น รับรู้ว่าทุกอย่างยังดีอยู่ เรายังมีชีวิตอยู่ มีลมหายใจ และรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ ได้เช่นที่เคยเป็น
เช้านี้หงุดหงิดกับเด็ก, หมา ด้วยความวุ่นวายชักช้าไม่เป็นอย่างใจ กลับมานั่งถอนหายใจ คลึงถ้วยกาแฟอุ่น ๆ เรียกความสงบกลับคืน
ความรู้สึกอยากเขียนมีมากมายเหลือเกิน ความสุขที่เหมือนหย่อนร่างลงในสายธาร ลำธารแห่งถ้อยคำที่ชุ่มฉ่ำ เต็มเปี่ยม และสะอาดใสบริสุทธิ์ แหวกว่าย และค้นพบถ้อยคำซึ่งยังไม่มีใครเคยใช้ เขียนเรื่องราวที่ยังไม่มีใครเขียน และสามารถเรียงร้อยได้อย่างอิสระ หมดจดเหมาะใจ
เราเขียนด้วยความกระหาย เพื่อดับกระหาย เมื่อพบว่า วันหนึ่ง หนังสือที่อยากอ่านเหมือนหายไป ไม่มีในโลก เล่มนี้ก็ไม่ใช่ เล่มโน้นก็ไม่เชิง มันเพียงแค่แตะ ๆ ถูกอารมณ์บางเสี้ยว ทว่า ลึก ๆ ภายในยังโหยหา ไม่อิ่ม โอสถหรือกระยาทิพย์ใดจากในนั้น
ทุกครั้งที่เริ่มต้น หวาดหวั่นดุจรอเวลากระโจนจากหน้าผา ตัวหนังสือเอยจะนำเราไปที่ใด เฝ้ารวบรวมเรียกหาอารมณ์เหมาะเจาะ ฉกฉวยแรงบันดาลใจที่สว่างวาบขึ้นตรงหน้า เกิดใหม่ หรือว่าถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครา เพื่อที่จะกระโจน ล่องลอย สละทั้งชีวิต โลดลิ่วติดตามไป
นกเรื่องเล่าจะนำเราไปสู่ทิศไหน การร่อนบินอันน่าตื่นใจ... แม้จะเคยร่วงหล่น หรือลงจอดหกคะเมนบอบช้ำ ฉันไม่รู้สึกเข็ดหลาบจดจำ ขอเพียงทุกวันได้นั่งลง ปลดสัมภาระเครื่องป้องกันกาย จดจ่อ กระโจน!
เช้าที่ลืมทำดีให้ตัวเอง และการเขียนขาดตอนด้วยเรื่องราวทางโทรศัพท์ กลับพบแรงบันดาลใจซุกซ่อนอยู่มุมหนึ่งของบ้าน ในไฟล์งานของลูกสาว
ลูกสิบสองขวบริเขียนนวนิยาย และเป็นนิยายที่หากเขียนจบ มีทีท่าว่าจะไปได้สวย ความรู้สึกนี้แหละ ความรู้สึกเช่นนี้ที่ขับดันเธอ ไม่ว่าจะเพศวัยใดให้ลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่าง ...สำหรับแม่ รู้ไหม? งานเขียนของลูกเหมือนปาฏิหาริย์ !...
จินตนาการช่างหยั่งรากยาวนาน ผู้เป็นแม่ไม่เคยนึกว่าลูกสาว ซึ่งร้องไห้ในวัยสี่ขวบเพียง เพราะสงสารดอกไม้ที่เพื่อนเด็ดจะติดตามความฝันมาไกลถึงเพียงนี้ พ่อกับแม่ส่ายหน้าเมื่อลูกคลั่งไคล้ดารา จมปลักอยู่กับนิยายเริงรมย์และละครโทรทัศน์ ลูกอาจไม่ชอบใจทัศนคติเราผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ว่าอะไร ทุกคืน กำบังกายอยู่ในโปงผ้านวม ท่ามกลางแสงโคมไฟสีส้ม หมกมุ่นเขียนบางอย่างอยู่ลำพัง
นี่อย่างไร แรงบันดาลใจ มันอัดอั้นอยู่ภายในใคร่ระบาย หากไม่ได้เขียนออกมาย่อมจะกลัดกลุ้มไม่เป็นสุข เมื่อเขียนได้แล้วอิ่มเอิบ ผ่อนคลาย ลูกสาวอดทนฟังเสียงบ่น เรียกเข้านอนจากแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อจะทำตามใจกระหาย
.........................................
สิ่งใดๆ ที่กระทำลงไปด้วยแรงดลดาลจากภายใน แววตาจะเปล่งประกายสุกใส หัวใจคับพอง สิ่งดีงามของชีวิตจะทยอยติดตามมา พวกมันแอบอยู่เบื้องหลังประตูบานนั้นเอง บานประตูแห่งจินตนาการ ที่ลูกเปิดมันออกด้วยผลงาน ด้วยความมุมานะไม่เบื่อหน่ายทุกคืนค่ำของเจ้า
รักตัวเองเถิดหนา ทำดีกับตัวเองให้มากไว้เถิดลูก ทำในสิ่งที่หัวใจเป็นสุข และบางครั้งก็เมินเฉยกับคำบ่นว่าที่ปราศจากความเข้าใจของแม่บ้าง เพื่อลูกจะได้ติดตามหัวใจ ด้วยว่าหัวใจนั้นอาศัยอยู่ในแหล่งพลังยิ่งใหญ่ สมบูรณ์แบบ งอกงามและสร้างสรรค์อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย
วันนี้ ลูกบอกแม่เรื่อง การงานของหัวใจ
เจ้าย้ำเตือนแม่ถึงสิ่งยิ่งใหญ่ .. “อะไร” มีความหมายต่อชีวิต?