Skip to main content

20080514 1

สีแดงมาจากไหน  ล่องหนอยู่ในน่านฟ้าหรือ?...  เริ่มละเลงลงบนใบหูกวาง ชมพูแซมแทรกด้วยแดง  ระบายจุดสีคล้ำตามใบ ก่อนเคลือบด้วยน้ำตาล  ฤดูกาลคืบคลานมาช้า ๆ  อากาศอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ  จนกระทั่งถึงขีดสุดกลางเดือนเมษาฯ

เหยี่ยวดำคู่ผัวเมียแห่งเชิงผาหายไปไม่รู้เนื้อรู้ตัว  ดุเหว่าร่อนร้องทั้งยามเช้าและเวลาเย็น ...กาเว๊า ๆ   เหยี่ยวทุ่งสีขาวเทาเยี่ยมหน้า  โฉบร่อนตามแนวถนน  บนกิ่งไม้และเหนือทุ่ง   ผืนดินเริ่มแห้ง  ต้นหญ้าสลดเฉาดุจเดียวกับพืชผล  มะเขือเทศข้างร่องน้ำผลิลูกเล็ก ๆ สีอ่อน ไม่ทันไรก็สุกแดง แห้งเหี่ยวหมดทั้งต้น   ฟักทองลูกสุดท้ายสุกเหลืองก่อนโตเต็มขนาด

ไล่เลี่ยกับแคแสดดอกบานเบ้อเริ่มตามขอบทุ่ง  กัลปพฤกษ์ในดวงใจชมพูสะพรั่งที่โน่นที่นี่   ดอกไม้อะไรอย่างนี้  ตลอดปีมีเพียงใบเขียว ๆ กับฝักเก่าๆ แขวนระย้า  เมื่อมีนาคมปรบมือเรียกฤดูร้อนย่างกรายมา  รากและลำต้นก็ไหวตัว กระซิบบอกเนื้อเยื่อ  สั่ง ‘ชีวิต’ ที่อยู่ภายใน...ได้เวลาผลิดอกแล้ว  สีชมพูถูกส่งมาแล้ว  แล้วเมื่อดอกสีชมพูบานพราวออกมาพร้อมกัน คุณเคยเห็นไหม?  ภาพพีชบล็อสซัมในชุดสวนผลไม้เบ่งบานของแวนโกะห์   ต้นไม้สีชมพูที่ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ   สีสันของมันส่งความรู้สึกมายังเรา เลยไปถึงฟากฟ้า  พื้นถนน และแมกไม้ใกล้ ๆ  

บนภูเขามีดอกเสี้ยวขาว  ขณะใบไม้มากมายถูกบ่มด้วยแสงแดดและความร้อน จนกระทั่งผืนป่าเขียวสดเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนแก่ และน้ำตาล  ไม้ป่าที่ออกดอกหน้าร้อนทยอยผลิช่อ  เป็นดอกไม้ขาวหรือเหลืองละออ  รวมทั้งเถาช่อชมพูฝาดเลื้อยพัน

20080514 2

แล้วเมื่อประตูหน้าต่างเปิดกว้างรับลมดึก  ทุกคนพร้อมใจกันสลัดผ้านวม ฉวยผ้าผวยผืนบางคลุมอก  ต้นไม้สีชมพูกระจ่างก็จางลงเป็นสีขาว  ค่อย ๆ หล่นร่วงบางตา  หางนกยูงข้างทางสยายปีกแดงโรจน์ไปทั่วหลังจากรอเวลาไม่กี่สัปดาห์   สีชมพูของฤดูร้อนถูกสีแดงเติมลงไปจนหมดขวด  ดุจเดียวกับความร้อนแรงของดวงอาทิตย์  เที่ยงวันอันร้อนรุ่ม หรือเที่ยงคืนที่นอนพลิกตัวกระสับกระส่าย  ถึงตอนนั้นชมพูพันธุ์ทิพย์ก็จับจีบชมพูม่วงบานล่วงหน้าไปแล้ว  ที่รีรอหลังสุดไม่ใช่ใคร  เมื่อฝนกระหน่ำส่งฤดู  ลมแล้งก็ทิ้งช่อเหลืองกระจ่าง ห้อยระย้าอยู่ในสายลม

เราออกจากบ้าน เดินทางไปตามถนนสายทอดยาวคดเคี้ยวเลียบภูเขา  จากต้น กลาง และปลายฤดูร้อน  ภูเขาที่ผลัดอาภรณ์ก่ำแดงในคราแรก แห้งผากเป็นสีน้ำตาล  แล้วแปรเปลี่ยนเป็นสีดำด้วยเขม่าควันไฟ  และเมื่อมรสุมพัดผ่าน เขย่าหลังคากราวใหญ่   ต้นไม้ก็เริ่มแตกใบ  สีเขียวใหม่ ๆ จากจานสีของธรรมชาติค่อย ๆ แตะแต้มลงบนราวป่า

รอบบ้านเป็นทุ่งโล่ง มองไปเห็นภูเขาไกล ๆ  รายรอบ  ที่สูงสง่าตรงหน้าคือดอยหลวงเชียงดาว  ซบแนบแทบข้างคือดอยนางผู้จงรัก  ถัดไปเป็นเทือกทิวที่ทอดสู่อำเภอปาย ทะเลหมอกแห่งห้วยน้ำดัง  แยกอีกทาง เบี่ยงเป็นแนวเทือกเขาแดนลาว   เขตดอกไม้ผลไม้เมืองหนาวแห่งดอยอ่างขาง   ด้านทิศตะวันออกนั้นมีแนวเขาไม่สูงนัก คั่นระหว่างอำเภอพร้าว  ทะลุสู่ถนนสายเหยียดยาวมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงราย  ขุนเขาด้านนี้เป็นกลุ่มเตี้ย ๆ  ยอดตัด คล้ายโต๊ะศิลาใต้เมฆ  มองจากหน้าต่าง  แนวต้นสักของสวนถัดไป  ทาบกิ่งก้านโล้นโกร๋นเป็นฉากหน้าแห่งทัศนียภาพ

ทั้งยามกลางวัน และคืนจันทร์เต็มดวง  มองจากนอกชาน  จุดรวมสายตาตามธรรมชาตินอกจากขุนเขาใหญ่ คือไม้ต้นหนึ่งซึ่งแลดูสูงเพียงไหล่ดอย   กลางฤดูร้อน มันเปลี่ยนสีเป็นแดงช้ำและน้ำตาลคล้ายเตรียมผลัดใบ  สีแดงในตอนแรกนั้นสวยราวฉากฤดูใบไม้ร่วง  พอสีน้ำตาลฉาบจับจนคล้ำ  เราเผลอทอดอาลัย  มันคงกำลังจะทิ้งใบ   ฉับพลัน ในวันอันว่องไวและคาดไม่ถึงนั้นเอง  สีสันอันห่อเหี่ยวและชวนใจถึงความตายกลับกลายเป็นสีเขียวอ่อนลออของชีวิตใหม่   คุณเคยเห็นอะไรอย่างนี้ไหม?  ปกติไม้ใหม่จะแตกใบสีชมพูฝาด  แล้วค่อย ๆ เขียว  พอแก่ใกล้ร่วงจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล  ไม่ได้รวมกิริยาอาการของใบไม้ผลิและร่วงไว้ด้วยกันอย่างนี้

เมื่อไม้ชวนฉงนกลับสู่ความเขียวขจีดังเก่า  ฉันพบว่าเสียงดุเหว่าจางไป  มันไม่มาร้องใกล้ ๆ  ทั้งเวลาเช้าและเย็นย่ำ  แต่เพรียกพร่ำนาน ๆ จากที่ไกล ๆ  พวกที่ส่งเสียงจ้อไม่ยอมหยุด และบุกรุกปลุกเราแต่เช้านี่สิ เจ้าเอี้ยงสาลิกา  พวกมันเปลี่ยนที่จิกตีกันจากใต้คบไม้ใหญ่หน้าบ้าน และตามพงหญ้าขึ้นมาบนหลังคา  เสียงอุ้งเท้าเล็ก ๆ ที่มีปลายเล็บแข็ง ๆ จิกครูดไปบนกระเบื้องลอน  ปากก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายเหมือนอยู่ในตลาดเช้า  เด็กน้อยที่ยังง่วงงุนถามแม่ว่า  นกมันทะเลาะกันหรือจ๊ะ?  ส่วนนักประพันธ์ขี้เซาผู้ปลุกปั้นกับงานเขียนจนใกล้รุ่งหลับปุ๋ย ไม่สำเหนียกส่ำเสียงใด

เหมือนทุกสิ่งดำเนินไปตามปกติ  ชีวิตที่นี่ทำให้เราเห็นฤดูกาลชัดขึ้น  เราตัวเล็ก เหมือนครอบครัวสัตว์ทุ่งครอบครัวหนึ่ง  แหละสายฝน  ความหนาว ความร้อน  ทัพเมฆ  มรสุม  ก็แสดงตัวต่อหน้า  ทว่า... แท้จริง  ไม่มีฤดูร้อนใดร้อนเท่าปีนี้   นานมาแล้ว  ดื่นดึกของเดือนเมษาฯ เราเคยได้อาศัยผ้านวมผืนนุ่มเสมอ  แต่ปีนี้  เที่ยงคืน  อุณหภูมิค้างอยู่ที่ 30 องศา บ้านต้องเปิดกว้าง  เลิกหวั่นน้ำค้างหรือไอชื้น   เรากระสับกระส่ายผุดลุกผุดนั่งยามกลางวัน  พื้นกระดานร้อนผ่าวจนนั่งไม่ลง  กระเบื้องหลังคาส่งไอร้อนลงมาไม่หยุดหย่อน  เราพากันดื่มน้ำเหมือนไม่รู้จักอิ่ม

ดอกไม้ของฉันอดทนมากเมื่อต้องมาอยู่ที่นี่  ‘หนองแร้ง-แล้ง’ ตามชื่อดั้งเดิมของมัน  ดอกไม้ไม่ค่อยโตแต่ก็ทรงชีวิต   ไม่มีหมอก ไม่มีสายฝน  มีเพียงความร้อนที่แผดเผาเราอยู่นานหลายสัปดาห์  ผืนดินแห้งแข็งแตกปริ  น้ำในบ่อแห้งขอดลง จนต้องแบ่งกันให้ดีระหว่างคนกับต้นไม้  

20080514 3

ตลอดเดือนมีนาคม  ฉันดีใจมากที่เด็ก ๆ ไม่อยู่บ้าน  ช่วงเวลาของกิจกรรมแห่งความสืบเนื่องของฤดูกาล  ‘ไฟ’ ถูกจุดขึ้น ส่งควันสักการะท้องฟ้า  การทำความสะอาดผืนดิน ลานบ้านจากใบไม้ เศษขยะ  การปราบเรือกสวนนาไร่รวมทั้งผืนป่า  เปลวไฟเลื้อยไล่ไปตามสันดอยด้วยความหวังจากการหาอาหารไพร  ผืนนาที่ดำละเอียดด้วยเถ้า ซึ่งชาวนานั่งมองอย่างพึงพอใจว่า  ฤดูแห่งงานหนักได้ผ่านไปแล้วอีกรอบหนึ่ง หลังจากพักเหนื่อย ปาดเหงื่อออกจากหน้า  ก็จะถึงเวลาลงแรงใหม่

เราทำเช่นนั้นไม่ได้อีกแล้ว!  ทั่วแอ่งกระทะภาคเหนือตอนบน   กะทะเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน  สองปีมาแล้วที่เราถูกคั่วไหม้รมควันอยู่ข้างใน  ฤดูกาลยังมาเยือนเหมือนซื่อตรง แต่ความผันแปรที่มีนัยยะร้ายก็แสดงตัวให้เห็นอย่างเด่นชัด   ที่บ้าน  เรามองไม่เห็นดอยหลวงที่ตั้งตระหง่านตรงหน้านานหลายสัปดาห์  ท้องฟ้าไม่เป็นสีฟ้า  เมฆขาวหายไป  มีเพียงชั้นเขม่าสีส้มจางบดบัง  ค่ำคืนไม่เห็นดาว ไม่เห็นจันทร์  ฉันภาวนาให้ตัวเองไม่ต้องใช้ยาพ่นขยายหลอดลม   แต่หลานน้อย และแม่ผู้ชราซึ่งอยู่แนวเทือกเขาถัดไปอาการไม่ใคร่ดีนัก

ขอเราจงตระหนักและบังเกิดความเข้าใจ  เราเป็นเพียงชาวนาชาวไร่แห่งเมืองเล็ก ๆ มี  ขุนเขาที่ทั้งโอบกอดและปิดล้อม  เราไม่รู้ว่าตลอดองคาพยพอันกว้างใหญ่ของโลก  บัดนี้เจ็บป่วยเพียบแปล้ไปทั่ว  ช่วยบอกเราด้วยว่า ร่างกายของโลกพ่นควันอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว  บอกคนอื่น ๆ ด้วยว่าให้หยุดขุดเจาะ  เลิกนำเทคโนโลยีมาบิดเบือนแสวงประโยชน์จากธรรมชาติ  เพื่อที่ฤดูกาลจะยังเที่ยงตรง  ชีวิตจึงจะดำเนินไปได้

ฉันกลับเข้าไปนั่งในบ้าน  ฝนตกกระหน่ำเมื่อวาน ทำให้ค่ำคืนที่เพิ่งผ่านเย็นฉ่ำหลับสบาย  แต่ว่าวันนี้ ฤดูร้อนยังอยู่กับเรา  สีแดงยังไม่หมดขวดดี  พระอาทิตย์ที่คล้อยไปตกตรงรอยต่อดอยนางยังไม่เปลี่ยนเส้นทางโคจร  วันนี้ เราจะอยู่กับความรุ่มร้อนได้ดีเพียงใด...

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
ฉันคงเคยทำคุณความดีมาบ้างกระมัง จึงได้รับน้ำใจไมตรีมากมายเพียงนี้ ... เธอมาพร้อมกับมิตรภาพแสนอบอุ่น รอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงแจ้วๆ กับการกระโดดโลดเริงร่าของเด็ก ๆ เพื่อนทุกคนมาเยี่ยมเราที่ตูบตีนดอยพร้อมด้วยความมั่นคงทางอาหาร จากจิตใจที่ห่วงใยและยอมรับในวิถีที่เราเป็น รอยต่อระหว่างปี มีขนมมากมายในบ้าน เครื่องดื่ม กาแฟ ของฝากของแห้งที่แทบจะไม่มีที่เก็บ เรานำกาแฟสดแสนอร่อยของฝากจากเพื่อนมาชงเลี้ยงเพื่อนทุกคน ทั้งที่มาค้างและผ่านทางแวะเยือน ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยนั้นนำมาปิ้งย่างแบ่งปันกันกิน หุย... ของที่เธอนำมานั้น มันมากจนฉันรู้สึกว่าน้ำใจของเธอ(…
รวิวาร
เด็ก ๆ คือคนตัวเล็กที่แสนงาม ในบรรดาผู้มาเยือน เด็กน้อย สาม สี่ ห้าหรือหกขวบ คือแขกที่ทำให้ผู้เหย้าอย่างเราสดใส มีความสุข เราไม่รู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นลุงป้าตายายที่เฝ้าจดจ่อรอคอยการมาเยือนของลูกหลานเสียแล้ว หนูมายาเพิ่งมาและกลับไป หนูนานาเข้าโรงเรียนแล้ว แต่อีกไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็จะมาเยี่ยมเยือน แล้วเมื่อปีใหม่มาถึง หนุ่มน้อยพีพี หลานน้อยตัวขาวแก้มยุ้ยก็จะมาหา เดาได้เลย เขาต้องพาน้องกุ๊กกิ๊ก ตุ๊กตาแมวน้ำตัวเก่าขะมอมขะแมมมาด้วย น้องกุ๊กกิ๊กที่เปื้อนน้ำลาย และเจ้าของเที่ยวยื่นไปชิดจมูกใคร ๆ พร้อมกับคำยืนยันจากปากแดงย้อยว่า ‘หอมนะ ๆ หอมไหมล่ะ?’  
รวิวาร
ความรักยกเราขึ้น ติดปีกเหนือทุกข์ในปรากฏการณ์...ความรู้สึก เราคือผู้คนแห่งความรู้สึก ความเครียดเต็มสองแผ่นหลังไม่เบาบางด้วยการคิดพิจารณา จิตใจมีกำลังเมื่อ ความรักหลั่งไหลมา ความหวังเรืองรองตามติด เรื่องราวยากยิ่ง เหมือนไร้ทางออกดูเล็กน้อยลง ขอบคุณที่มีความรัก ขอบคุณที่มีคนรัก ขอบคุณที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า รัก ฉันขอขอบคุณจากหัวใจสำหรับใครคนหนึ่งซึ่งอยู่เคียงข้างและมอบความรักกว้างใหญ่ให้แก่ฉันเสมอ รักอดทนและรอคอย รัก ขัดเคือง ไม่พอใจ หากยังรีรออยู่ เงี่ยหูฟังคำอธิบาย อดทนทำความเข้าใจ เพราะเชื่อมั่นในเนื้อแท้ บนพื้นผิวของความกราดเกรี้ยว ทะเลาะเบาะแว้ง…
รวิวาร
ความรู้สึกหนึ่งไหลวนอยู่ภายใน ขับเคลื่อนเราอยู่ เหมือนสายโลหิตแห่งความปรารถนา ... เธอมา นั่งอยู่ตรงนี้ เขามาและจากไป คนกลุ่มใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป จังหวะบรรเลงแตกต่าง นึกถึงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ มันคืออะไรหนอ หลายคนเขียนหลายสิ่ง... สร้างงาน พวกเขาเรียกมันว่า การทำงาน แต่เธอ เธอไม่รู้เลยว่า วันแต่ละวัน เช้าแต่ละเช้า สิ่งซึ่งไหลเวียนอยู่ อึดอัด กระสับกระส่าย ดิ้นรนและปรารถนา หาหนทางหลั่งไหลนั้นคืออะไร เธอไม่รู้ เธอเฝ้าแต่รอคอย พล็อตต่าง ๆ มีอยู่ สมองไม่เคยหยุดเรียบเรียง วางแผนความคิด แต่แล้ว เจ้าสิ่งนั้น ที่บงการอยู่ข้างในไม่เคยเออออไปกับการกำหนดสั่งการ เธอพยายาม เงี่ยฟัง…
รวิวาร
ฤดูหนาวนำความสุขมากมายเหลือจะกล่าว สายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกอบอวลด้วยสีสันและกลิ่นหอมอย่างใหม่ ไม่ทันไร หน้าหนาวเวียนมาอีกครั้ง เสียงหมอกกลั่นเป็นน้ำค้างหยดเปาะแปะลงบนใบไม้ เสียงลมแห้ง ๆ กรูเกรียวผ่านทุ่ง ฉันอยู่ที่นี่จนกระทั่งฤดูกาลเวียนมาครบรอบแล้วหรือนี่ งานเขียนขนาดย่อมสองสามชิ้นทำให้ลืมกาลเวลา เราหยุดกิจกรรมกับผืนดินไปตั้งแต่กลางฤดูฝน หญ้าดวงดาวแห่งอัฟริกา (อัฟริกันสตาร์) หญ้าคอมมิวนิสต์ โตพรวดพราด สูงท่วมหัว เมื่อมองมุมกว้างจากถนน สวนรอบข้างดายหญ้าโล่งเตียน แต่ที่ล้อมรอบบ้านหลังคาเขียวซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวนี้คือ กองทัพต้นหญ้า…
รวิวาร
ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้…
รวิวาร
ตลาดแห่งนั้นเงียบ เป็นระเบียบและเย็นฉ่ำ ไม่มีคนขายนั่งประจำอยู่หลังกองสินค้า มีเพียงพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ กล่อมเกลาบรรยากาศ ข้าวของมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นสูง ยืนเข้าแถวราวกับทหาร ระหว่างชั้นแต่ละชั้นเกิดช่องลึกยาว พอเหมาะพอเจาะสำหรับเด็กๆ เล่นซ่อนหา... เรามาจากโลกข้างนอก ออกมาจากพาหนะคู่ชีพบุโรทั่งที่คอยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่กล้าบ่นที่แอร์ไม่เย็น และฝนสาดเปียกปลายผมเพราะกระจกหน้าต่างไม่อาจปิดสนิท (... ขอบคุณนะที่พาไปทุกที่ ไม่รู้เจ้าจะน้อยใจหรือเปล่าที่บางครั้งฉันก็แอบฝันถึงรถคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
รวิวาร
การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน... ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป…
รวิวาร
กาดก้อมเย็น มีเหตุต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันสตาร์ทมอเตอร์ไซค์อยู่นาน สลับกับคอยไล่หมา ในที่สุดรถก็วิ่งฉิว สายลมปะทะใบหน้าแสนสดชื่น อากาศยามเย็นเป็นสุข ถนนหักเลี้ยวทอดหาชุมชน เราเป็นคนของหมู่บ้านนี้แหละ บ้านทุ่งลั๊วะคอน (ทางการเรียก ทุ่งละคร) เป็นโดยสำมะโนครัว แต่ไม่ค่อยรู้จักใครเพราะอยู่ห่างออกมา ถนนสายน้อยพาไปพบสะพาน จากนั้นผืนโลกก็ลาดลงเป็นที่ลุ่ม หัวใจปริ่มสุขขึ้นฉับพลัน ผืนนาเขียวขจี กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กลางนางามเด่น ขับด้วยแถวทิวต้นข้าว เถียงนาเล็ก ๆ ดุจที่พำนักอันสมถะสงบสุข กอดอกเทียนสีม่วงขาวชมพูพราวบานอยู่ใต้ร่มตะขบริมลำธาร หันมองกลับไป…
รวิวาร
'กาดนัด'วันอังคารเป็นวันที่ใครหลายคนในเมืองนี้รอคอย ฉันเองยังติดนิสัยเขียนรายการข้าวของไว้ล่วงหน้า ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าใกล้วันนัดหมายประจำสัปดาห์แล้ว เรานั่งกุกกักอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า มองไปยังถนนทอดยาว เห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเป็นระยะ มีถุงใส่ของหลายใบแขวนเป็นพวงที่มือจับและตะกร้า...กาดนัดเชียงดาว ถึงนั่งอยู่บ้าน ฉันก็นึกภาพออกและจำได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เร็วหน่อย พ่อบ้าน ตื่นเร็ว วันนี้เราจะไปตลาดนัดกัน สัปดาห์นี้ขาดอะไรบ้างเอ่ย พริกแห้งเม็ดเล็ก กะปิ กระเทียม กุ้งแห้งซื้อไว้แล้วจากเจ้าท้ายถนนเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จะซื้อหอยดองแม่กลองของเขาดีไหมนะ ยำหอยดอง…
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
รวิวาร
มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งหน้า เนื้อตัวเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปในสถานที่อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนการโอภาปราศรัย.... หิ้วกระเป๋าเข้าที่พัก กล่องสี่เหลี่ยมครอบลงบนพื้นดินชื้นแฉะ มีพรุน้ำอยู่ข้างใต้ กล่องเก่า ๆ ที่ผุเน่าไปทีละน้อยด้วยไอชื้นจากผืนดิน และการคายน้ำของใบไม้ชายป่าที่รุกล้ำเข้ามาเรื่อย ๆ เกิดรอยแยกที่ผนัง เหล่าแมลงสาบพล่านยั้วเยี้ยยามดึกขณะผู้พักพิงหลับใหล งูเงี้ยวเขี้ยวขอ จิ้งจกตุ๊กแกและหนู ซุ่มซ่อนจับจ้องจากรู โพรงบนผนัง ขื่อคาและเพดาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ๆ พื้นโลกก็คือหิน ดิน ทราย น้ำ ฝุ่น โคลน เราเพียงนำวัตถุเรียบแข็งโปะทับ ทาบแผ่นกระเบื้องหลากสีลงบนพื้น…