Skip to main content

20080527 1

เหมือนความต้องการไม่รู้จบ ... ยามเช้า จะดีเสียกว่า หากปราศจากเสียงจากหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน  ฉันต้องการเพียงสรรพสำเนียงยามเช้า  ที่ผู้เป็นเอกคือเหล่านกน้อย  โดยเฉพาะนักร้องนำดุเหว่าแห่งวงมโหรีไม้ใหญ่   เจ้านกส่งเสียงเซ็งแซ่ เริงร่า มีชีวิตชีวาทุก ๆ เช้า  เริ่มรุ่งอรุณอันสดใหม่  แล้วที่เหลือจากนั้น  ขอเพียงเสียงแผ่ว ๆเคล้าระคนจากชีวิตน้อยใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ตามคบไม้ พงหญ้า   ท้องฟ้าจะได้ค่อย ๆ ซ่านแสงสี  ดวงตะวันจะได้เผยโฉมออกมาโดยปราศจากคนรบกวน

เมื่อแรกเห็น  เราดีใจว่าที่นี่ไม่เปลี่ยวร้างเกินไป  ถนนเงียบสงบลาดผ่าน  ทอดตัวไปตามหมู่ไม้  ไกลไปจนถึงเนินเขา  มาบัดนี้  เมื่ออยู่อาศัยกลับกลายเป็นว่า  จิตใจยิ่งโหยหาความสงัด  ต้องการมากยิ่งขึ้นไปอีก  ไม่มีผู้คน รถราผ่านเลยคงดี   ฉันอดประหลาดใจความรู้สึกพิลึกพิลั่นของตนไม่ได้   สัญชาตญาณไพรหรืออย่างไรกัน

ก่อนหน้านี้  เรามาค้างอ้างแรม ยามที่ยังไม่มีบ้าน  กางเต็นท์ ก่อกองไฟ  อยู่กับราตรีกาลเหมือนที่มนุษย์แต่ก่อนเคยทำ   รอบกายมีเพียงความมืด  ท้องฟ้าดุจผืนผ้าพรายดาวคลี่สะบัดอยู่เบื้องบน   ที่ราบดินดอนร้างผู้คน เปล่าเปลี่ยวบริสุทธิ์  สรรพสำเนียงหลายร้อยพันแสดงอาการแห่งชีวิตอยู่ใกล้ไกล   ยิ่งมืด ยิ่งเปลี่ยว สงัด หัวใจยิ่งกระปรี้กระเปร่า  ใคร่ลุกขึ้นกู่ร้อง หรือห้อตะบึงไปเยี่ยงสัตว์ป่า   ในตัวเราคงมีธาตุเดียวกันกับหริ่งหรีด  งูเงี้ยวเขี้ยวขอ  หรือสัตว์กลางคืนแห่งป่าไพร


.....................................................................................

20080527 2

ที่ภูเขาเดี๋ยวนี้  มีแสงไฟยามกลางคืน   ตีนดอยยามวัน เสียงเครื่องจักรทำงานอย่างต่อเนื่อง    เวลานี้  หากลองชะโงกหน้ามองไปยังภูเขา  ตรงสันเนินเล็ก ๆ ตีนดอยหลวงต่อกับดอยนาง  จะเห็นแผลใหญ่เหวอะหวะสีส้ม  ลานดินที่รถยักษ์ใหญ่ไถล้มต้นไม้อยู่หลายวัน

พวกเขาบอกกับฉัน ... “รู้ไหม  ต่อไปที่นี่จะไม่เงียบเหงาแล้ว  โน่นไง บนเขา  เราจะมีพระยืนองค์ใหญ่  คนจะพากันมามากมาย  ถนนสายนี้จะคึกคัก รถราขวักไขว่  ว่ากันว่า  อาจจะเป็นพระพุทธรูปประทับยืนองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศ  ไม่ไกลกัน ตรงนั้นก็มีเจดีย์ ที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันสร้าง   ดีจังนะ ว่าไหม?”

ได้ยินมาว่า  เชียงดาวได้รับการพยากรณ์ให้รอด   คนเมืองกรุงมุ่งหน้าแสวงหาแผ่นดินคะนาอัน*  นำเงินทองมาแลกผืนดิน ...  เราต้องสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหญ่โตทรงอิทธิฤทธิ์  เพื่อปัดเป่าเภทภัยร้าย   เพื่อความเป็นศิริมงคล   เป็นศูนย์รวมบุญกุศล คุณความดี

....เฉพาะภูเขาอย่างเดียวไม่ดีหรือ  ไหล่ดอย สันเขา ไต่ไปจนสุดยอด ล้วนเป็นเขตรักษาพืชพรรณสัตว์เถื่อน  แล้วยังยอดดอยศักดิ์สิทธิ์  ที่กาลเวลาและมลทินจากโลกย์เบื้องล่างแทบจะไม่แผ้วพานอีกเล่า   คิดสร้างกระเช้าข่มข้ามก็คิดแล้ว  รู้ ประจักษ์ ตระหนักแล้วว่าผิด    เพียงแค่อนุญาตหมู่มนุษย์สามัญย่ำเท้าไปชื่นชมก็รบกวนขุนเขาเทวดามากพอแล้ว   จะยังสร้างอะไรกระหนาบดอยอีก

ฟังว่า  เทวดานั้นไม่ชอบอยู่ใกล้มนุษย์  ด้วยเหม็นคาว สาบสาง สกปรก  หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สวรรค์ เทวดามีจริง  คงมีทิพยธาตุละเอียดพิสุทธิ์  ฉันว่าเทวดาน่าจะโปร่งเบา  เหินลอย   ยอดดอยหลวงสูงเสียดฟ้าซึ่งคงสภาพมานานนับล้านปี  อาจเพียงพอที่จะรับรองเทวดาได้  ดูเถิด  ปวงดอกไม้บนนั้นก็หาใช่ของโลก  เป็นพืชพรรณกึ่งสวรรค์กึ่งโลกมนุษย์  เทียนนกแก้วที่สีสันรูปทรงเหมือนนกแก้วไม่ผิดเพี้ยน  ราวเกิดจากการหลอมรวมระหว่างพฤกษากับวิหค  กุหลาบศรีจันทราที่หอมฟุ้งขจรขจายเฉพาะอย่างยิ่งคืนพระจันทร์เต็มดวงเล่า ก็ลี้ลับดุจบุปผาจากแดนสรวง

เหล่าพืชพรรณวิเศษแห่งยอดดอยเชียงดาวที่อยู่มานานนับกัปกัลป์  คืออุทยานเดินเล่นของชาวสวรรค์   เสียงสวดมนตร์ที่แว่วมาทุกวันพระของเหล่าเทวดา  ตำนานเจ้าหลวงคำแดง  กษัตริย์แห่งทวยเทพ  เก๊าผีล้านนา  ตำนานรักกับแม่นางอินเหลา?  หรือเราลืมแล้วว่า ความศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นที่ถ้ำเชียงดาว  ตั้งแต่ชายป่า ใกล้เขตแดนมนุษย์  ไล่ขึ้นไปตามสันเขา  สู่จุดสูงสุด ณ  ยอดดอย แดนดินถิ่นทวยเทพ**

แม้พระพุทธรูปจะไม่ใช่กระเช้าลอยฟ้า  ทว่า คือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่  อาจบดบังหมู่ไม้งำเมฆฝน   หรือก่อเกิดผลกระทบอันไม่อาจประเมินค่า จากผู้คนมากมายที่เดินทางมาท่องเที่ยวสักการะ         

มนุษย์ไม่แตะต้องบ้างไม่ได้หรือ  ปล่อยให้สิ่งต่าง ๆ อยู่ตามลำพังของมันเอง  ไม่ต้องเพียรพยายามปีนป่ายยอดเขาสูงชัน  หรือดำลึกลงไปก้นบึ้งสมุทร    ด้วยว่ากิเลสตัณหา แม้จะฝ่ายดี  หากไม่พิจารณาอย่างถ้วนถี่ย่อมส่งผลร้าย  

ฉันอาจดูเหมือนคนไร้ศรัทธา  ต่อต้านความเจริญทางศาสนา   ถึงอย่างไร หัวใจรู้สึกว่า ขุนเขาโดดเด่นอย่างเดียวงดงามกว่า  สูงสง่า บริสุทธิ์  ยังจิตใจสุขสงบ   ความเปลี่ยนแปรที่ภูเขาแสดง ผ่านใบไม้เปลี่ยนสี   ผ่านเหยี่ยว  กวางผา อีกา  หรือหมู่เมฆ  รูปเงาที่สะท้อนบนฟากฟ้า ผ่านลีลาตะวันที่หมุนเยื้องไปตามฤดูกาล  ทั้งหมดนั้นคือ สัจธรรม  ป่าไม้ให้อากาศบริสุทธิ์  อาหาร และน้ำหล่อเลี้ยงกาย  ขุนเขาหล่อเลี้ยงใจ พระพุทธองค์สอนว่า ...ธรรมมะ -ธรรมชาติ  ท่านอาจารย์พุทธทาสกล่าว ‘ตถตา’    แก่นไม่ใช่เปลือก   เปลือกหรืออาจนำไปสู่แก่น  สิ่งก่อสร้างใหญ่โต วัดวาอารามจักช่วยยึดยื้อจิตใจที่แสวงหาเพียงความสุข ความมั่งคั่งในโลกนี้ หรือสวรรค์ในโลกหน้าได้อย่างไร ?

อาจบางที...
ขุนเขา ป่าไม้  กล่าวโลกุตรธรรม
หากวัตถุที่มนุษย์เสกสร้าง
ฉายเพียงความหวาดหวั่น  และศีลธรรมพื้นผิว

เรามาสร้างพระในใจกันดีกว่า  ประดิษฐานธรรมะลงในชีวิตจิตใจ    ปล่อยขุนเขาให้อยู่อย่างสงบ  แสดงอนิจลักษณ์อันยิ่งใหญ่ต่อไป

.....................................................................................

* แผ่นดินคะนาอัน หมายถึงดินแดนที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้แก่ชนชาติอิสราเอล ซึ่งพวกเขายังคงทำสงครามแย่งชิงกับปาเลสไตน์อยู่จนทุกวันนี้
** เจ้าหลวงคำแดง ประมุขแห่งเทพไท้เทวดาทั่วถิ่นล้านนา  ตามตำนานเดิมเป็นกษัตริย์มนุษย์  มาพบนางฟ้าจำแลงร่างเป็นกวางทอง คือแม่นางอินเหลา จึงตามนาง หายลับเข้าไปในถ้ำเชียงดาว กลายเป็นประมุขแห่งเทวดา สถิตอยู่ ณ ดอยหลวงเชียงดาว
***ไชโย! หลังจากเขียนเรื่องนี้ได้ไม่นาน  เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เข้ามาระงับการก่อสร้างในบริเวณดังกล่าว 
 

บล็อกของ รวิวาร

รวิวาร
ฉันคงเคยทำคุณความดีมาบ้างกระมัง จึงได้รับน้ำใจไมตรีมากมายเพียงนี้ ... เธอมาพร้อมกับมิตรภาพแสนอบอุ่น รอยยิ้ม เสียงเพลง เสียงหัวเราะ และเสียงแจ้วๆ กับการกระโดดโลดเริงร่าของเด็ก ๆ เพื่อนทุกคนมาเยี่ยมเราที่ตูบตีนดอยพร้อมด้วยความมั่นคงทางอาหาร จากจิตใจที่ห่วงใยและยอมรับในวิถีที่เราเป็น รอยต่อระหว่างปี มีขนมมากมายในบ้าน เครื่องดื่ม กาแฟ ของฝากของแห้งที่แทบจะไม่มีที่เก็บ เรานำกาแฟสดแสนอร่อยของฝากจากเพื่อนมาชงเลี้ยงเพื่อนทุกคน ทั้งที่มาค้างและผ่านทางแวะเยือน ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยนั้นนำมาปิ้งย่างแบ่งปันกันกิน หุย... ของที่เธอนำมานั้น มันมากจนฉันรู้สึกว่าน้ำใจของเธอ(…
รวิวาร
เด็ก ๆ คือคนตัวเล็กที่แสนงาม ในบรรดาผู้มาเยือน เด็กน้อย สาม สี่ ห้าหรือหกขวบ คือแขกที่ทำให้ผู้เหย้าอย่างเราสดใส มีความสุข เราไม่รู้ตัวเลยว่า ได้กลายเป็นลุงป้าตายายที่เฝ้าจดจ่อรอคอยการมาเยือนของลูกหลานเสียแล้ว หนูมายาเพิ่งมาและกลับไป หนูนานาเข้าโรงเรียนแล้ว แต่อีกไม่นานพ่อกับแม่ของเธอก็จะมาเยี่ยมเยือน แล้วเมื่อปีใหม่มาถึง หนุ่มน้อยพีพี หลานน้อยตัวขาวแก้มยุ้ยก็จะมาหา เดาได้เลย เขาต้องพาน้องกุ๊กกิ๊ก ตุ๊กตาแมวน้ำตัวเก่าขะมอมขะแมมมาด้วย น้องกุ๊กกิ๊กที่เปื้อนน้ำลาย และเจ้าของเที่ยวยื่นไปชิดจมูกใคร ๆ พร้อมกับคำยืนยันจากปากแดงย้อยว่า ‘หอมนะ ๆ หอมไหมล่ะ?’  
รวิวาร
ความรักยกเราขึ้น ติดปีกเหนือทุกข์ในปรากฏการณ์...ความรู้สึก เราคือผู้คนแห่งความรู้สึก ความเครียดเต็มสองแผ่นหลังไม่เบาบางด้วยการคิดพิจารณา จิตใจมีกำลังเมื่อ ความรักหลั่งไหลมา ความหวังเรืองรองตามติด เรื่องราวยากยิ่ง เหมือนไร้ทางออกดูเล็กน้อยลง ขอบคุณที่มีความรัก ขอบคุณที่มีคนรัก ขอบคุณที่โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า รัก ฉันขอขอบคุณจากหัวใจสำหรับใครคนหนึ่งซึ่งอยู่เคียงข้างและมอบความรักกว้างใหญ่ให้แก่ฉันเสมอ รักอดทนและรอคอย รัก ขัดเคือง ไม่พอใจ หากยังรีรออยู่ เงี่ยหูฟังคำอธิบาย อดทนทำความเข้าใจ เพราะเชื่อมั่นในเนื้อแท้ บนพื้นผิวของความกราดเกรี้ยว ทะเลาะเบาะแว้ง…
รวิวาร
ความรู้สึกหนึ่งไหลวนอยู่ภายใน ขับเคลื่อนเราอยู่ เหมือนสายโลหิตแห่งความปรารถนา ... เธอมา นั่งอยู่ตรงนี้ เขามาและจากไป คนกลุ่มใหญ่ผ่านมาแล้วผ่านไป จังหวะบรรเลงแตกต่าง นึกถึงสิ่งหล่อเลี้ยงหัวใจ มันคืออะไรหนอ หลายคนเขียนหลายสิ่ง... สร้างงาน พวกเขาเรียกมันว่า การทำงาน แต่เธอ เธอไม่รู้เลยว่า วันแต่ละวัน เช้าแต่ละเช้า สิ่งซึ่งไหลเวียนอยู่ อึดอัด กระสับกระส่าย ดิ้นรนและปรารถนา หาหนทางหลั่งไหลนั้นคืออะไร เธอไม่รู้ เธอเฝ้าแต่รอคอย พล็อตต่าง ๆ มีอยู่ สมองไม่เคยหยุดเรียบเรียง วางแผนความคิด แต่แล้ว เจ้าสิ่งนั้น ที่บงการอยู่ข้างในไม่เคยเออออไปกับการกำหนดสั่งการ เธอพยายาม เงี่ยฟัง…
รวิวาร
ฤดูหนาวนำความสุขมากมายเหลือจะกล่าว สายลม ก้อนเมฆ ท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกอบอวลด้วยสีสันและกลิ่นหอมอย่างใหม่ ไม่ทันไร หน้าหนาวเวียนมาอีกครั้ง เสียงหมอกกลั่นเป็นน้ำค้างหยดเปาะแปะลงบนใบไม้ เสียงลมแห้ง ๆ กรูเกรียวผ่านทุ่ง ฉันอยู่ที่นี่จนกระทั่งฤดูกาลเวียนมาครบรอบแล้วหรือนี่ งานเขียนขนาดย่อมสองสามชิ้นทำให้ลืมกาลเวลา เราหยุดกิจกรรมกับผืนดินไปตั้งแต่กลางฤดูฝน หญ้าดวงดาวแห่งอัฟริกา (อัฟริกันสตาร์) หญ้าคอมมิวนิสต์ โตพรวดพราด สูงท่วมหัว เมื่อมองมุมกว้างจากถนน สวนรอบข้างดายหญ้าโล่งเตียน แต่ที่ล้อมรอบบ้านหลังคาเขียวซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวนี้คือ กองทัพต้นหญ้า…
รวิวาร
ดอยหลวงเชียงดาว แนวเทือกทิวหินปูนสูงต่ำเหยียดตัวมาจากหิมาลัย หากผ่านเมืองไปตามถนนสายเชียงใหม่-ฝาง จู่ๆ จะพบขุนเขาก้อนทื่อผุดขึ้นจากขอบฟ้าตะวันตก แต่หากหยุดแวะเชียงดาว เมืองน้อย ๆ สัญจรไปตามทิศทางแตกต่าง รูปลักษณ์ที่ประจักษ์ต่อสายตาจะเปลี่ยนไป ขุนเขาลูกนั้น บนก้อนที่ดูเป็นมวลเดียวกัน จากทางเลี่ยงเมืองหรือตำบลแม่นะ ดอยหลวงแยกตัวให้เห็นเป็นสามยอด ดังคำเรียก ขาน ‘ดอยสามพี่น้อง’ เลี้ยวซ้ายมาทางตูบตีนดอย บ้านทุ่งละคร ภูเขาเผยโฉมหน้าอีกเสี้ยวหนึ่ง ไม่แยกยอดเด่นชัด แค่พอแลเห็น แล้วหากเดินทางวกย้อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เที่ยวน้ำพุร้อน บ้านยางปู่โต๊ะ ขุนเขาชะโงกง้ำ ก้มหน้ามาใกล้…
รวิวาร
ตลาดแห่งนั้นเงียบ เป็นระเบียบและเย็นฉ่ำ ไม่มีคนขายนั่งประจำอยู่หลังกองสินค้า มีเพียงพนักงานเก็บเงินคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ กล่อมเกลาบรรยากาศ ข้าวของมากมายเรียงรายอยู่บนชั้นสูง ยืนเข้าแถวราวกับทหาร ระหว่างชั้นแต่ละชั้นเกิดช่องลึกยาว พอเหมาะพอเจาะสำหรับเด็กๆ เล่นซ่อนหา... เรามาจากโลกข้างนอก ออกมาจากพาหนะคู่ชีพบุโรทั่งที่คอยรับใช้มาอย่างซื่อสัตย์ จึงไม่กล้าบ่นที่แอร์ไม่เย็น และฝนสาดเปียกปลายผมเพราะกระจกหน้าต่างไม่อาจปิดสนิท (... ขอบคุณนะที่พาไปทุกที่ ไม่รู้เจ้าจะน้อยใจหรือเปล่าที่บางครั้งฉันก็แอบฝันถึงรถคันใหม่อยู่เหมือนกัน)
รวิวาร
การผ่อนพักอันยาวนาน มืดและเงียบสงบ ในวงล้อมของหมู่ไม้ ได้ยินเสียงสัตว์เล็กๆ และการไหวตัวใต้พื้นดิน... ฉันอยู่ที่นั่น แน่นิ่ง ไม่ไหวติง หยุดมหาสมุทร สายน้ำ สายลมในตัว โลกกำลังต้องการการหลับใหล ความคิดหยุดลงชั่วขณะ เอียนเหลือแล้วกับสิ่งต่างๆ ที่ตนแสดงออก ความคิด โครงการ คำพูด เหน็ดเหนื่อยกับความกระตือรือร้น และการกระทำฉับไวต่อเนื่องไม่ยอมหยุด นอนอยู่บนผืนดิน เงียบสงัดจากความคิด ไหลเลือน ละลาย ชำระ ปล่อยให้สารพัดสิ่งพวยพุ่งทะลักกลับคืนแหล่ง โลกไม่ต้องการอะไรจากฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องพ่นตัวเองออกสู่โลก ออกข้างนอกมากไปแล้วจำต้องหวนกลับคืนสู่ภายใน เข้าจัดการกะเกณฑ์ วางแผนมากไป…
รวิวาร
กาดก้อมเย็น มีเหตุต้องเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันสตาร์ทมอเตอร์ไซค์อยู่นาน สลับกับคอยไล่หมา ในที่สุดรถก็วิ่งฉิว สายลมปะทะใบหน้าแสนสดชื่น อากาศยามเย็นเป็นสุข ถนนหักเลี้ยวทอดหาชุมชน เราเป็นคนของหมู่บ้านนี้แหละ บ้านทุ่งลั๊วะคอน (ทางการเรียก ทุ่งละคร) เป็นโดยสำมะโนครัว แต่ไม่ค่อยรู้จักใครเพราะอยู่ห่างออกมา ถนนสายน้อยพาไปพบสะพาน จากนั้นผืนโลกก็ลาดลงเป็นที่ลุ่ม หัวใจปริ่มสุขขึ้นฉับพลัน ผืนนาเขียวขจี กิ่งก้านสาขาของต้นไม้กลางนางามเด่น ขับด้วยแถวทิวต้นข้าว เถียงนาเล็ก ๆ ดุจที่พำนักอันสมถะสงบสุข กอดอกเทียนสีม่วงขาวชมพูพราวบานอยู่ใต้ร่มตะขบริมลำธาร หันมองกลับไป…
รวิวาร
'กาดนัด'วันอังคารเป็นวันที่ใครหลายคนในเมืองนี้รอคอย ฉันเองยังติดนิสัยเขียนรายการข้าวของไว้ล่วงหน้า ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ว่าใกล้วันนัดหมายประจำสัปดาห์แล้ว เรานั่งกุกกักอยู่ที่โต๊ะทำงานหลังจากเด็กๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า มองไปยังถนนทอดยาว เห็นมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านเป็นระยะ มีถุงใส่ของหลายใบแขวนเป็นพวงที่มือจับและตะกร้า...กาดนัดเชียงดาว ถึงนั่งอยู่บ้าน ฉันก็นึกภาพออกและจำได้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เร็วหน่อย พ่อบ้าน ตื่นเร็ว วันนี้เราจะไปตลาดนัดกัน สัปดาห์นี้ขาดอะไรบ้างเอ่ย พริกแห้งเม็ดเล็ก กะปิ กระเทียม กุ้งแห้งซื้อไว้แล้วจากเจ้าท้ายถนนเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้จะซื้อหอยดองแม่กลองของเขาดีไหมนะ ยำหอยดอง…
รวิวาร
เดือนบางเดือน สัปดาห์บางสัปดาห์ผ่านไปราวเมฆล่องลม เจ็ดแปดวันสั้นๆ หากแต่บรรจุด้วยเรื่องราวและผู้คนแน่นขนัด ขณะบางเดือน เรานั่งอยู่ติดเก้าอี้ จมจ่อมกับภาระหน้าที่แทบไม่ได้ก้าวพ้นเขตรั้ว เรียกมันว่า ‘สัปดาห์แห่งผู้มาเยือน’ มีผู้คนแวะเวียนมาทุกวันโดยมิได้นัดหมาย กะทันหัน ฉับพลันเสียจนกระทั่งไม่มีเวลาถอยหลัง ผงะ หรือนึกหงุดหงิดใจว่า...แขกเหรื่ออะไรนักหนา วันที่หนึ่ง วันที่สอง และสามสี่ ตามมาอีกจนเลยแปด เมื่อจิตใจตระหนักได้ เราพากันหัวเราะ อ้อ นี่ละหนอ ความบังเอิญที่ควบคุมไม่ได้ ชีวิตจัดส่งมา พ้นความคาดเดา นอกเหนือการจัดการ
รวิวาร
มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งหน้า เนื้อตัวเท่านั้น แต่รวมถึงการเข้าไปในสถานที่อย่างร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนการโอภาปราศรัย.... หิ้วกระเป๋าเข้าที่พัก กล่องสี่เหลี่ยมครอบลงบนพื้นดินชื้นแฉะ มีพรุน้ำอยู่ข้างใต้ กล่องเก่า ๆ ที่ผุเน่าไปทีละน้อยด้วยไอชื้นจากผืนดิน และการคายน้ำของใบไม้ชายป่าที่รุกล้ำเข้ามาเรื่อย ๆ เกิดรอยแยกที่ผนัง เหล่าแมลงสาบพล่านยั้วเยี้ยยามดึกขณะผู้พักพิงหลับใหล งูเงี้ยวเขี้ยวขอ จิ้งจกตุ๊กแกและหนู ซุ่มซ่อนจับจ้องจากรู โพรงบนผนัง ขื่อคาและเพดาน ไม่ว่าจะทำอย่างไร ๆ พื้นโลกก็คือหิน ดิน ทราย น้ำ ฝุ่น โคลน เราเพียงนำวัตถุเรียบแข็งโปะทับ ทาบแผ่นกระเบื้องหลากสีลงบนพื้น…