Skip to main content


อ่าน ข่าวใน เฟสบุ๊ค เรื่อง นักศึกษาธรรมศาสตร์ติดโปสเต้อร์เกลื่อนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประท้วงเรื่อง อธิการบดีคนปัจจุบัน ที่มีคำสั่งห้ามมิให้การ สัมนาทางวิชาการเรื่องมาตรา ๑๑๒ ในมหาวิทยาลัย ความจริงเรื่องนี้ก็มีการเคลื่อนไหวตลอดมาในหมู่อาจารย์ และนักศึกษาธรรมศาสตร์ที่มีจิตใจ จิตวิญญาณประชาธิปไตยอย่างแท้จริง! ล่าสุด อาจารย์ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เขียนแถลงการณ์ประท้วงทักท้วงด้วย

" - - - ฉั น รัก ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์ เพราะ ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์ สอนให้ ฉั น รั ก ป ร ะ ช า ช น " คำขวัญอันทรงคุณค่าและสง่างามนี้ มีมาทุกยุคในประชาคมธรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์สู้กับเผด็จการทหารตลอดมา ซึ่งรัฐประหารล่าสุดของ ทหารเผด็จการ คมช. ปี ๒๕๔๙ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับประชาชนสื่อมวลชนที่รักประชาธิปไตยก็ชุมนุมประท้วงที่สนามฟุตบอลล์ธรรมศาสตร์ด้วย ! ... 

" ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์ มี เ ส รี ภ า พ ทุ ก ต า ร า ง นิ้ ว ! " นี่ก็เป็นคำขวัญที่สง่างามของชาวธรรมศาสตร์อีกคำขวัญหนึ่ง! ในยุคหลังเหตุการณ์ การลุกขึ้นอันยิ่งใหญ่ในการโค่นล้มเผด็จการทหาร จอมพล ถนอม - ประภาส - พันเอกณรงค์ กิตติขจร ฯลฯ ของนักเรียน นิสิต นักศึกษาในธรรมศาสตร์ และทั่วประเทศ ในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖... แล้วท้องฟ้าที่มืดดำก็เปิดกว้าง ดอกไม้ประชาธิปไตยเบ่งบานสะพรั่งไปทั่วธรณิน สายธารประชาธิปไตยได้ถั่งโถมพังทะลายทำนบกำแพงเผด็จการพังพินาศล้มครืน... ถนนทุกสายของพี่น้องกรรมกร ชาวนา ชาวบ้านมุ่งสู่ธรรมศาสตร์ เมื่อมีการชุมนุมประท้วงเพื่อความเป็นธรรม(ตลอดจนสนามหลวง - สนามราษฎร์ ด้วย) พื้นที่ทุกอณูทุกปริมณฑลของธรรมศาสตร์เปิดประตูกว้างให้ประชาชนคนไพร่ราบมาพักผ่อน เอาแรง มาใช้ห้องน้ำ ฯลฯ มา บัดนี้ธรรมศาสตร์ดูเหมือนจะไม่ให้ใช้แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของอธิการบดีแต่ละคน แต่ไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าได้ปิดความคิดเห็นทางวิชาการในการสัมมนาแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ทางสติปัญญา ก็แล้วกัน แต่บัดนี้ก็มีการปิดแล้ว ... ถึงอย่างไรก็มิอาจใช้ความคิดเผด็จการปิดกั้นประชาคมธรรมศาสตร์ได้ รูปธรรมที่เห็นก็คือมีการเคลื่อนไหวให้อธิการบ่คนปัจจุบันเปิดกว้าง... ข้าพระพุทธเจ้าขอถาม --- ท่านอธิการบดีคนปัจจุบันว่า...ถ้าให้มีการเปิดกว้างทางวิชาการ (พวก มนุษย์อวิชชาบางคนบางกลุ่มก็กระแนะกระแหนโจมตีเหลือเกินทำนองว่า อ้างเอาวิชาการบังหน้า มันเป็นแบบนี้ทุกทีแหละพี่น้องเอ๊ย) อยากถามท่านว่า... ถ้าเปิดกว้างให้มีการสัมนาทางวิชาการ เกี่ยวกับมาตรา๑๑๒ นี้นั้น ท่านอธิการบดีฯ จักต้องตกกระเด็นจากเก้าอี้เชียวเหรอ เพค่ะ ... .ในทางตรงกันข้ามกลับจะยิ่งทำให้ท่านอยู่ในตำแหน่งนี่อย่างสง่างาม เชิดหน้าสบสายตาใครๆก็ได้อย่างทระนง โดยไม่ก้มหน้าอับอายใคร

- - - ใครจะคิดว่าอย่างไรต่อการที่กลุ่มนิติราษฎร์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขมาตรา๑๑๒ นั้นสำหรับข้าพระพุทธเจ้าเองเห็นสมควรด้วย เพราะไม่อยากให้ใครเอามาห้ำหั่นทางการเมือง อะไรอะไรก็แจ้งข้อหาหมิ่นฯ เอามากลั่นแกล้งกันทางการเมือง และไม่ชอบขี้หน้ากัน

ที่เขาเสนอก็เพราะเขาต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพรักของประชาชนเรา ในรัฐธรรมนูญ เราก็บัญญัติไว้ว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ เป็นองค์ประมุขฯ บอกกันโต้งๆอยู่แล้วจะแสร้งกล่าวหาว่าต้องการล้มสถาบันได้อย่างไร โปรดอย่าเป็นประเภท "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด" ซี พะ ย่ะ เจ้า ค่ะ ...

กรุณาเราอย่าไปดูถูกคนที่เขานำเสนอโดยใช้อัตวินิจฉัย ใช้อัตตาตัวตนของตัวเองไปตัดสิน ด่วนไปพิพากษา ซะแหล่ว เจ้า เราเองก็มิได้เป็นผู้พิพากษาซักกะหน่อย ... บ้างก็บอกทำนองว่า คณะ"นิติราษฎร์" ด่วนใจร้อนนำเสนอ คงอาจเป็นเพราะ ไม่เห็นด้วย หรือเห็นว่า ประชาชน สังคมยังไม่ยังพร้อมที่จะรับ หรืออะไรก็แล้วแต่ ฯลฯ แล้วมันก็จะเหมือนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แปดสิบปีแห่งการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศเราจากระบบเผด็จการสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นประชาธิปไตย พศ . ๒๔๗๕ โดย"คณะราษฎร์" นั่นแหละเจ้า ที่คิดว่าประชาชนยังไม่พร้อม ประชาชนยังโง่อยู่ ดังมีคำแถลงการณ์ของคณะราษฎร์ที่ทำการยึดอำนาจที่เขียนว่า " ถ้าเจ้าว่าประชาชนโง่ เจ้าก็โง่!" 

. . . สำหรับความคิดของตัวฉันเองคนเดียว(คนอื่นบ่เกี่ยว) คิดเห็นว่า"คณะอาจารย์นิติราษฏร์" ทำถูกสมกับเป็นอาจารย์สอนวิชานิติศาสตร์ ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(และการเมือง...ถูกตัดออกในสมัยเผด็จการทหารครองเมือง! ) 

ขัาพระพุทธเจ้าคงต้องขออนุญาตโยมไปบวช....เอ๊ย ขอสูมาตวย ขอโทษ พูดเล่นบ่ดาย อย่าถือสา ... ขออนุญาต ไปกินข้าวงาย(ข้าวเช้า) ก่อน เพ ค่ะ เจ้า! @

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ดูกร... ภราดา ...  ภราดร ...  โปรดอย่าได้  ฉงนฉงายค ว า ม ห ม า ย ชี วี  เพลานี้ณ  ที่ซึ่ง  มนุษยชาติ  โ อ บ ก อ ด ป ฐ พีณ ที่ซึ่ง เวลานี้  เ ธ อ มี รั ก ป ร ะ จั ก ษ์ ใ จรั ก มิ ต้อง ฝัน ... รั ก  นั้นคือ รั ก จ ริ ง !“ ค ว า ม รั ก นั้ น ยิ่ ง ใ ห ญ่ ”เริงรำร้อง  เที่ยวท่องไปสู่จุดหมายปลายทางแห่ง   เ พ ล ง รั ก นิ รั น ด ร์ณ ที่นี่ ... ที่นั่น ... ที่โน่น! นั้นมี  รัก!เราผ่อนพักชีวา  รั ก รั ง ส ร ร ค์เ มื่ อ  วิ ญ ญ า ณ  แห่ง  รั ก  โ อ บ ก อ ด กันโ ล ก = น ร ก – ส ว ร ร ค์  เป็นฉันใด  มิ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพจาก แฟ้มข่าวประชาไท(๑) Excellent Life Rhythm(เป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก)ปลายฤดูฝน – ต้นฤดูหนาวแสง สี เสียง แห่งแม่พระธรรมชาติ อันเป็นรากเหง้า แห่งวิถีชีวิตเพื่อนมนุษยชาติ ช่างงดงาม หลากสีสันนัก!--- ดวงตะวัน ดวงดาว เดือนเสี้ยว –- กลางฤดูปลายฝน ต้นหนาว-- ฯลฯ --- ฯลฯ --- ฯลฯ---เริงระบำ รำร่ายฟ้อนเป็น Rhythm… เป็นจังหวะดนตรีแห่งสีสัน ช่างงดงามนักExcellent Life Rhythmเป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก!“ Life is Very Beautiful”ชีวิตช่างงดงามนัก หากโครงสร้างสังคม สามานย์ เปลี่ยนแปลง(๒) หมดเวลาของคุณแล้ว!Hello!พณฯหัวเจ้าท่าน คมช.หมดเวลาของคุณแล้ว!อย่าสืบต่ออำนาจต่อไปอีกเลย!อย่าเผด็จการฟัสซิสม์…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ล ม ห น า ว เ ห นื อ พั ด โ ช ย ม ายามต้องไล้ผิวกายร้อน ที่รุ่ม ก็ คลายกลิ่นอาย เหมันตฤดู มิรู้เลือน น ก น้ อ ย ๆ สีเหลืองเรืองเรื่อโบยบินทุกแหล่งหล้ามิรู้หนโผร่อนจับเกาะกิ่งก้านต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฎร์ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว – ตามไล่ทักทายกันโ อ ... ก็นานนักแล้วซิหนอที่พวกเจ้ามิได้มาพบกัน! ณ เบื้อง ฟ้าบนด ว ง ต ะ วั น สาดแสงแรงกล้า น ก พิ ร า บ ข า ว พราวอันมิถ้วนนับสะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อน ... ราวจักข่ม คคนานต์พราวปีกขาว สะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อนเริงรำร่อนจับเกาะกอดโดมแดนธรรม... ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์โ อ !...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1)จักรวาลอวยพรชัยณ ยามราตรีกาลดวงดาวเดือนพราวพร่างบนทุ่งฟ้าวิบ วิบ วับ วับ เปล่งประกายทอแสงเจิดจ้าอวยพรชัยแด่โลก ชีวิต!แล ณ ยามอรุณรุ่งดวงตะวันสาดแสงสีทองส่องโลกหล้าวิหคนกกามวลสรรพสิ่ง – สรรพชีวี...เริงระบำรำร่ายฟ้อนอวยพรชัยแด่ผองเพื่อนมนุษยชาติ!ณ คืนวันแห่งการสัปประยุทธ ต่อสู้ด้วยอหิงสา ศานติวิธีพี่น้องม่าน พี่น้องชนเผ่าทั้งผอง...แล สตรีเหล็ก “ออง ซาน ซูคยี”รวมทั้งผองเพื่อนพี่น้องร่วมโลกร่วมแผ่นดินแห่งดาวโลกดวงนี้ต่างคล้องแขนร่วมเดินทางเปล่งร้องขับขานบทเพลงแห่งชัย...ชัย...ชัย...ชัย ! ดูรา...ภราดา...ภราดายลดูด้วยประกายดวงตาปลื้มปิติ...ดูซี...ดูซี...“มองดูความจริงซี”พระคุณท่าน แม่ชี...…