Skip to main content

20080320 ภาพ วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์

สารคดี : เคยคิดบ้างไหมว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละ ?
ว นิ ดา : (นิ่งคิดครู่หนึ่ง) ...เรื่องนี้ไม่ค่อยคิดเท่าไร ดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่เรื่องว่าใครคนใดคนหนึ่งต้องเสียสละ คนอื่นเขาก็เสียสละ คนที่ทำงานกับเราเสียสละทุกคน จริงๆแล้ว ชาวบ้านเป็นผู้เสียสละ เขาถูกขับไล่ ถูกเวณคืนเพื่อสร้างเขื่อน ไม่อย่างนั้นเราก็ไมมีน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้ เรามีโอกาสมากกว่า เราก็ช่วยเขา มีแรงพอจะช่วยเขาได้ เราก็ช่วย ดิฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียสละ
ไม่ได้คิดว่าเป็นนักบุญ หรือ แม่พระ และก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหญิงเหล็ก คนอื่นเขาเหล็กกว่าดิฉันเยอะ
ดิ ฉั น เ ป็ น ค น ธ ร ร ม ดา  เ พี ย ง แ ต่ ดิ ฉั น เ ป็ น ค นไ ม่ย อ ม แ พ้ ไ ม่ ย อ ม จำ น น ง่า ยๆ  เ ท่า นั้ น "

** ตอนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ ในนิตยสารสารคดี

ต้ น คิมหันตฤดู สายลมโชยพลิ้วไหว
ดอกไม้ใบไม่อวลกลิ่นหอมเบ่งบานสะพรั่ง
นกน้อยๆ ร้องเพลงขับขานผสานแสงแดดทอสีขาวงามตา

ฉั น
นั่งเรียงร้อยอักษราใต้ร่มไม้อันร่มรื่น...ต้นลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง ณ บ้านเช่าเฌองดอยสุเทพของ " แก้ว " มิตรสหาย
น้องชายที่ดีงามแห่งโลกชีวิตอีกคนหนึ่งของฉัน โดยมี "ไอ่หนูวิ น้องสาวที่งดงามใจงาม มาร่วมงดงามให้กำลังใจกัน ณ ที่นี้

"แก้ว อ้ายอยากได้ปฏิทินรูปพี่มด แก้วเอามาจากไหน ? "
"เพื่อนๆ เอามามอบให้คับ"
แก้วตอบฉันด้วยรอยยิ้ม แก้วเอาภาพโปสเตอร์ของพี่มดติดในปฏิทินปี 2551 ไว้ข้างฝา
เป็นภาพของ "มด ...วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์" น้องสาวผู้งดงามใจงามแกร่งอีกชีวิตหนึ่งของฉัน เราเคยร่วมแจมเคลื่อนไหวด้วยกันหลายครั้งสำหรับการร่วมต่อสู้เพื่อรากเหง้าวิถีชีวิตของประชาชน !!!


ในภาพ เธอสวมแว่นตา มีประกายตาสดใส
โปสเตอร์ภาพนี้บรรเลงแต่งแต้มสีสันโดย "หงษ์จร เสน่ห์งามเจริญ"
ศิลปินอีกคนหนึ่งที่ยืนเคียงข้างประชาชน เขาเคยปั้นรูปอนุสาวรีย์ของอ้าย "จรัล มโนเพ็ชร"
ศิลปินพื้นบ้านผู้ยิ่งใหญ่ในผลงานที่สร้างสรรค์แห่งล้านนา !!!
เขามอบรูปปั้นให้ "ป้าหมู...อันยา ฯ" ภริยาของอ้าย "จรัลฯ"
รูปปั้นตั้งไว้ ณ "บ้านร้าน สายหมอก - ดอกไม้ "
ร้านอาหารและดนตรีของ"อ้ายจรัลฯ กับป้าหมู"
ตอนที่อ้ายจรัลฯ ยังมีชีวิตอยู่ อ้ายก็เล่นดนตรีให้แขกผู้มาแอ่วเยือนฟัง
หากใครมาเชียงใหม่ก็ขอเชิญชวนแว๊บไปเยือนร้านบ้านอ้ายจรัลฯ กับป้าหมูได้

ภาพที่อ้าย"หงษ์จรฯ" วาดปาดป้ายนี้ได้รับการสนับสนุนโดย
"อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ " คนแก่ ผู้อาวุโสแห่งประเทศไทยสมมุติ
(เฒ่าแก่แต่เพียงกาลเวลา แต่ทว่าหัวใจท่านหนุ่มอยู่เสมอ เพราะท่านเดินทางไกลไปให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ฯลฯ)

" แกยิ่งแก่ ก็ยิ่งน่ารักหว่ะ "
ฉันเคยสนทนากับเพื่อนๆ บ่อยครั้ง เพื่อนทุกคน พยักหน้ายิ้ม

ที่ฉันว่ายิ่งแก่ก็ยิ่งน่ารัก นั้นก็คือ อ. ส.ศิวรักษ์ ณ ช่วงวัยนี้ท่านยืนหยัดเคียงข้างกับประชาชนผู้ถูกกดขี่
ผู้ถูกทำให้จนทุกข์ยากอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นกรณีพี่น้องสมัชชาคนจน ปากมูน บ่อนอก - หินกรูด, จะนะ – สงขลา, พี่น้องชนเผ่าบนดอย, พี่น้องชาวเลชายเลน และทุกหนแห่ง ฯลฯ
ที่ต่อสู่เพื่อรากเหง้าวิถีชีวิตของชุมชน และเพื่อชนชั้นกลางในเมืองที่ตกอยู่ในกับดักของโครงสร้างสังคมอภิบริโภคทุนนิยมสุดโต่งสามานย์นี้ด้วย อันมีชนชั้นปกครองสมมุติ นายทุน ขุนศึก ศักดินา พวกนักธุรกิจกินเมืองหรือเผด็จการพลเรือนรัฐสภาสามานย์ที่ไม่แตกต่างกับเผด็จการทหารท็อบบูททมิฬ (เอาเถิด ให้แหม่ม มันปี้กัน ประชาชนเราต้องช่วยเหลือตนเอง และขยายความรักที่ดีงามให้กว้างใหญ่ไพศาล ที่เมื่อถึงเวลาสุกงอมก็ลุยกัน)

อาจารย์ ส. ศิวรักษ์
จึงเป็นผู้อาวุโสอีกผู้หนึ่งที่น่ารัก
เช่นเดียวกับผู้อาวุโสคนอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ...คุณครู ระพี สาคริก ,
คุณครูเสน่ห์ จามริก, คุณครูนิธิ เอียวศรีวงศ์ และ ฯลฯ

*** ***** ******** ********
******

"อ้ายแก้ว มีซีดีของน้าคิทาโร่ไหม ?” ฉันถามอ้ายแก้วในขณะที่เขากำลังชงกาแฟยามเช้า
"มีครับ" เขาบอก และแล้วเพลงบรรเลงของ "คิทาโร่" ก็บรรเลงดังขึ้นท่ามกลางความร่มรื่นของธรรมชาติ ณ
เชิงดอยสุเทพ

ฉันนั่งเขียนหนังสือใต้ร่มไม้อันมีแสงแดดลอดร่มไม้มาทายทัก...
ช่างพริ้งเพราะไพเราะนัก บทเพลงบรรรเลงแห่ง " ทิคาโร่ " จากนิบป้อน

"อ้ายแสงดาว ผมเอาโปสเตอร์ ของพี่มดม้วนในกล่องให้อ้ายแล้วเน้อ" อ้ายแก้วเอ่ย เมื่อฉันเดินเข้าบ้านไปเติมน้ำร้อนในถ้วยกาแฟ

"ขอบคุณคร๊าบ แก้ว" ฉันค้อมใบหน้ายิ้มด้วยหัวใจฉ่ำบาน !!!

ฉันเอาภาพ "มด" บรรจงวางไว้ ณ ใต้ร่มไม้ อันร่มรื่น พลางรจนาบทกวีฉับพลันทันใด...

...ไ ม่ ว่าจักหมื่นแสนล้านวันไหน
จิตวิญญาณ สหาย " ม ด "
ยังอยู่ในดวงใจแห่งผองชนเสมอ
ทุก เพลานาที เราจะเจอ
จิตวิญญาณ์ หญิงแกร่ง ใจกล้า
งามเลิศเลอ ตราบนิรันดร์ .


        ด้วยรำลึก + คารวาลัย
        "แ ส ง ดา ว  ศ รั ท ธา มั่ น"
        (อดีต "สหายรัตน์ " แห่งเขตขาวในเมืองฯ)

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ดูกร... ภราดา ...  ภราดร ...  โปรดอย่าได้  ฉงนฉงายค ว า ม ห ม า ย ชี วี  เพลานี้ณ  ที่ซึ่ง  มนุษยชาติ  โ อ บ ก อ ด ป ฐ พีณ ที่ซึ่ง เวลานี้  เ ธ อ มี รั ก ป ร ะ จั ก ษ์ ใ จรั ก มิ ต้อง ฝัน ... รั ก  นั้นคือ รั ก จ ริ ง !“ ค ว า ม รั ก นั้ น ยิ่ ง ใ ห ญ่ ”เริงรำร้อง  เที่ยวท่องไปสู่จุดหมายปลายทางแห่ง   เ พ ล ง รั ก นิ รั น ด ร์ณ ที่นี่ ... ที่นั่น ... ที่โน่น! นั้นมี  รัก!เราผ่อนพักชีวา  รั ก รั ง ส ร ร ค์เ มื่ อ  วิ ญ ญ า ณ  แห่ง  รั ก  โ อ บ ก อ ด กันโ ล ก = น ร ก – ส ว ร ร ค์  เป็นฉันใด  มิ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพจาก แฟ้มข่าวประชาไท(๑) Excellent Life Rhythm(เป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก)ปลายฤดูฝน – ต้นฤดูหนาวแสง สี เสียง แห่งแม่พระธรรมชาติ อันเป็นรากเหง้า แห่งวิถีชีวิตเพื่อนมนุษยชาติ ช่างงดงาม หลากสีสันนัก!--- ดวงตะวัน ดวงดาว เดือนเสี้ยว –- กลางฤดูปลายฝน ต้นหนาว-- ฯลฯ --- ฯลฯ --- ฯลฯ---เริงระบำ รำร่ายฟ้อนเป็น Rhythm… เป็นจังหวะดนตรีแห่งสีสัน ช่างงดงามนักExcellent Life Rhythmเป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก!“ Life is Very Beautiful”ชีวิตช่างงดงามนัก หากโครงสร้างสังคม สามานย์ เปลี่ยนแปลง(๒) หมดเวลาของคุณแล้ว!Hello!พณฯหัวเจ้าท่าน คมช.หมดเวลาของคุณแล้ว!อย่าสืบต่ออำนาจต่อไปอีกเลย!อย่าเผด็จการฟัสซิสม์…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ล ม ห น า ว เ ห นื อ พั ด โ ช ย ม ายามต้องไล้ผิวกายร้อน ที่รุ่ม ก็ คลายกลิ่นอาย เหมันตฤดู มิรู้เลือน น ก น้ อ ย ๆ สีเหลืองเรืองเรื่อโบยบินทุกแหล่งหล้ามิรู้หนโผร่อนจับเกาะกิ่งก้านต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฎร์ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว – ตามไล่ทักทายกันโ อ ... ก็นานนักแล้วซิหนอที่พวกเจ้ามิได้มาพบกัน! ณ เบื้อง ฟ้าบนด ว ง ต ะ วั น สาดแสงแรงกล้า น ก พิ ร า บ ข า ว พราวอันมิถ้วนนับสะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อน ... ราวจักข่ม คคนานต์พราวปีกขาว สะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อนเริงรำร่อนจับเกาะกอดโดมแดนธรรม... ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์โ อ !...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1)จักรวาลอวยพรชัยณ ยามราตรีกาลดวงดาวเดือนพราวพร่างบนทุ่งฟ้าวิบ วิบ วับ วับ เปล่งประกายทอแสงเจิดจ้าอวยพรชัยแด่โลก ชีวิต!แล ณ ยามอรุณรุ่งดวงตะวันสาดแสงสีทองส่องโลกหล้าวิหคนกกามวลสรรพสิ่ง – สรรพชีวี...เริงระบำรำร่ายฟ้อนอวยพรชัยแด่ผองเพื่อนมนุษยชาติ!ณ คืนวันแห่งการสัปประยุทธ ต่อสู้ด้วยอหิงสา ศานติวิธีพี่น้องม่าน พี่น้องชนเผ่าทั้งผอง...แล สตรีเหล็ก “ออง ซาน ซูคยี”รวมทั้งผองเพื่อนพี่น้องร่วมโลกร่วมแผ่นดินแห่งดาวโลกดวงนี้ต่างคล้องแขนร่วมเดินทางเปล่งร้องขับขานบทเพลงแห่งชัย...ชัย...ชัย...ชัย ! ดูรา...ภราดา...ภราดายลดูด้วยประกายดวงตาปลื้มปิติ...ดูซี...ดูซี...“มองดูความจริงซี”พระคุณท่าน แม่ชี...…