อยากเอ่ยคำขอบคุณให้กับพี่ๆเพือนๆและทีมงานทุกๆคนที่อยู่ด้วยกันใน 4 วัน... ที่ยอมให้ผมไปสายทั้ง 4 วันเลย ห่ะๆ
ผมได้รับแจ้งให้ไปร่วมประชุมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะหลบเข้ามุมคิดในใจ " เฮยจะไปดีป่าวว่ะ " แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดในใจคนเดียว เพราะในทางปฏิบัติคือ " ต้องไป " และตัดสินใจเดินทางไปด้วยความโล่งของสมองที่ไม่รู้เลยว่าต้องไปทำอะไรมั่ง รู้แต่ว่าไปแคมป์อบรมเขียนข่าว!! ซึ่งวันแรกก็ไปสายซะแล้วววว!!
ไปถึงวันแรกวันศุกร์ก็สายซะแล้ว ยังงงๆว่ามาทำอะไร เจอคนมากหน้าหลายตาไปหมด มีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก ด้วยความไปช้าเลยได้นั่งหน้าสุด ก่อนจะแยกย้ายไปตามกลุ่มสีที่ตัวเองโชคดี เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก่อนจะเริ่มเขียนข่าว 1 กัน.... และวันแรกก็จบลงด้วยสภาพที่มันก็ยังงงๆมึนๆ แถมยังไม่รู้จักใครใหม่ๆซักคน...
วันที่สองวันเสาร์..ไปสายเหมือนเดิม แต่วันนี้พกความมั่นใจไปเต็มกระเป๋า พร้อมลุยแหลกเริ่มคุยกับคนโน้นคนนี้ (เหมือนจะเยอะแต่นับคนได้ ห่ะๆ) วิทยากรก็ดี กันเอง สนุกสนาน สอนเขียนข่าว 2 ทำบล๊อกกับทวิตเต้อแบบง่ายๆแต่เข้าใจ นั่งทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆก็หมดไปอีกวัน จนจบวันที่สองด้วยความงงอีกแล้วว่า ทำไมเลิกไวจัง... ห่ะๆ
วันที่สามวันอาทิตย์...ก็สายอีกตามเคย...เป็นวันที่อุตลุดจุดนัดฝันกันจริงๆ แถมยังกางเกงเกือบหลุดเพราะคาดไม่ถึงว่าทีมวิทยากรจะทำได้เนียนขนาดนี้ ทุกคนดูสับสนวุ่นวาย จนไม่มีเวลาที่จะหาเรื่องคุยกับคนที่อยากคุย แต่ก็เป็นความวุ่นวายที่มีแต่รอยยิ้มแย้มมมม... จนรอยยิ้มค่อยๆจางหายไปเมื่อต้องมาทำคลิปข่าวกันจริงๆแล่ะ มันไม่ง่ายเลยแฮะ พอเวลายิ่งจำกัดอุปสรรคก็ยิ่งมาก แต่ด้วยความใจดี๊ใจดีของทีมวิทยากรที่มากความสามารถ ก็ทำให้แต่ละทีมทำคลิปด้วยตัวเองสำเร็จจนได้ด้วยเวลาที่จำกัด... ผมไม่รู้ว่าใครจะคิดยังไง แต่ผมคิดว่าคลิปข่าวทีมผมนั่นเจ่งสุด 5555 เพราะจบแบบหักมุมไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ห่ะๆ และหลังจากมะรุมมะตุ้มทำข่าวกันมาทั้งวัน ก็จบวันที่สามด้วยความอ่อนเพลีย...อยากนอนนนนนน
วันที่สี่วันจันทร์...วันสุดท้ายของการอบรม..และแน่นอนผมไปสายอีกเหมือนเดิม แหะๆ วันนี้มาแบบสบายๆ บรรยากาศเหมือนวันสุดท้ายของค่ายลูกเสือตอนเด็กๆ... คือ เริ่มเหงา คิดถึงพี่ๆเพื่อนๆร่วมชั้น อยากอยู่กันแบบนี้อีก ยังไม่อยากกลับไปเจอกับชีวิตจริงที่แสนวุ่นวาย อยากอยู่ในโลกคู่ขนานแบบนี้ไปอีกนานๆ แต่ก็เป็นแค่ความรู้สึก.... มีงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา น้ำตาแอบตกในว่าถึงเวลาต้องแยกกันแล้ว เพลงที่ฟังตอนเด็กๆผุดขึ้นมาในความทรงจำ..." โอ้เพื่อนเอ่ยเคยร่วมสนุกกันมา แต่เวลาต้องพาให้เราจากกัน ไม่นานหรอกหนาเราคงได้มาพบกัน....ไม่มีสิ่งใดขวางกันเพราะเรามั่นในสัญญา ".... ทุกอย่างจบลงหลังจากทุกคนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใน 3 วันที่ผ่านมา รับประกาศนียบัตรและถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ถือเป็นการจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งของรุ่นที่สาม ที่ไม่ใช่รุ่นที่หนึ่งและสอง ห่ะๆๆๆๆๆ
บทสรุป... ตลอด 4 วัน ที่ผมไปๆกลับๆระหว่างบ้านพักและดิโอลด์ไรซ์มิลด์ ผมได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ได้สัมผัสความจริงใจ ได้รู้สึกถึงความรักและผูกพันของทุกๆคน และได้อะไรอีกเยอะแยะมากมายยยยยยยที่หาไม่ได้ในห้องเรียนวิชาอื่น .....สุดท้ายผมได้อะไรดีๆติดตัวกลับมาเยอะมากๆ ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งพีและเพื่อนใหม่ๆ ได้เจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ มีคนที่อยากเข้าไปคุยและคนที่ต้องเข้าไปคุยให้ได้ และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งที่ก่อนไปผมไม่มีอะไรเลย มีแต่ความบ้าบอไร้สาระของตัวเองเพียวๆ..... สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงพลังให้ผมก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางแห่งความหวังของวันข้างหน้าต่อๆไป
ผมขอขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆทีมประชาไทที่สุดยอดดดดดด และขอขอบคุณเพื่อนใหม่ร่วมชั้นทุกๆคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ทั้งที่ได้คุยและไม่ได้คุย จริงๆแล้วผมอยากคุยกับทุกคนให้มากกว่านี้ อยากบอกว่าพวกเราเจ๋งจริง ทุกคนทำได้สุดยอด ทุกคนเก่งมากๆ
ขอบคุณครับ..ที่ให้โอกาสคนไปสายคนอย่างผม แหะๆ
โชเนน หนุ่ม มพบ.
หมายเหตุ... บทความนี้ขอสงวนชื่อบุคคลที่รู้ตัวว่าถูกพาดพิงทั้งหมด... เพราะเยอะจนจำไม่ได้ แหะๆ