“ขออภัยค่ะ เลขหมายนี้ระงับใช้บริการชั่วคราว”
เป็นเสียงตอบรับจากปลายสายของเพื่อนคนหนึ่ง ที่ชวนประหลาดใจพอสมควรว่า..เกิดอะไรขึ้น?
ตัดสินใจอีเมลไปถามไถ่ ได้คำตอบมาว่า..
“เรื่องโทรศัพท์มือถือที่ระงับใช้บริการชั่วคราว..มันมีเหตุที่คิดทีไรก็ปวดหัวจี๊ดเลยแก !!!
เรื่องก็มีอยู่ว่า โทรศัพท์มือถือฉันก็ใช้มาแบบปลอดสัญญาณการโทรที่ออฟฟิศ ซึ่งเป็นปัญหาน่าเหนื่อยหน่ายมาพอสมควร ก็เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่สามารถย้ายเครือข่ายโทรศัพท์ได้ โดยใช้เลขหมายเดิม ก็จะไปดำเนินการ ตามที่ กทช. ตีฆ้องร้องป่าวมาให้หลงดีใจ
ค่าโทรศัพท์ก็จ่ายให้แต่โดยดีในอัตราค่าเสียหายเดือนละ 500-1,000 บาท อยู่มาวันหนึ่งก็มี SMS แจ้งเตือนให้ชำระค่าบริการ กำลังจะเปิดเว็บจ่ายเงินจากบัญชีออนไลน์ เพ่งดูตัวเลขที่จะต้องตัดยอดจากบัญชี แล้วก็ค้างเลยแก
ห้าพันกว่าบาท..พระเจ้าจอร์จมันบ้านไปแล้ว
คว้าโทรศัพท์เดินหาสัญญาณโทรศัพท์หน้าออฟฟิศ โทรถึงเบอร์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ของ 1xxx เขาก็ยืนยันค่าใช้จ่าย ขอตรวจสอบยืนยันว่า ฉันจะบ้าโทรอะไรกันนักกันหนา Call Center เสียงหวานก็ตอบกลับมาว่า เป็นค่าบริการ GPRS สามพันกว่าบาท รวมเวลาการใช้กว่าแปดพันนาที..ได้ยินเท่านั้นฉันก็ปรี๊ดเลยแก เพราะว่า
มันเป็นไปไม่ได้ แค่ใช้ระหว่างเดินทางไปกลับบ้าน-ออฟฟิศวันละชั่วโมงเท่านั้นที่ใช้ GPRS มันจะไปทวีคูณเป็นแปดพันนาทีได้ไง Fun Package ที่ใช้อยู่ก็ครอบคลุมมาตลอด แบบนี้ฉันก็ชักจะไม่ fun ด้วยแล้ว -_-'
เจ้าหน้าที่ Call Center เขาก็โฮนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่เฉพาะด้าน(ด้านไหนฉันก็ไม่ทันได้ฟังเพราะกำลังหูดับ) เจ้าหน้าที่คนใหม่ก็สอบถามเรื่องรุ่นโทรศัพท์ พอฉันบอกไปว่าเป็น Iphone เขาก็บอกว่าเจอปัญหาแบบนี้หลายรายแล้ว..ฉันก็อ้าวสิคะ เพราะโทรศัพท์ฉันใช้รุ่นนี้มาปีกว่าแล้ว ถามไปว่าทางบริษัท ตั้งค่าอะไรใหม่รึเปล่า เพราะใช้มาตลอดไม่ได้มีปัญหานี้ ทำไมเพิ่งจะมีปัญหาเดือนกันยายน.. ก็เป็นอันว่าตกลงกันไม่ได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน ที่สำคัญโทรศัพท์สัญญาณที่ออฟฟิศก็ดับมากกว่าติด ขนาดเวลาคุยกับ Call Center ยังต้องออกไปหาสัญญาณหน้าออฟฟิศ แล้วทำไม๊ ทำไม GPRS มันจะช่างต่อติดได้ตลอดเวลาขนาดนั้น
ด้วยวิญญาณหวงสิทธิตามที่ฉันซึบซับเอาจากที่แกเป่าหูฉัน ก็แจ้งไปว่า “จะยังไม่จ่ายจนกว่าจะได้ตรวจสอบ ยอดค่าใช้บริการซะก่อน ขอให้ทางบริษัทส่งรายละเอียดค่าใช้บริการมาตามที่อยู่ที่ส่งใบแจ้งหนี้ค่าบริการมาด้วย” Call Center “ได้ค่ะ แต่ต้องขอเวลาสามวันทำการนะคะ”
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าต้องข้ามไปเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งฉันเองก็จะไม่อยู่กรุงเทพฯไปอีกร่วมสัปดาห์ รวมๆแล้วกว่าฉันจะได้มีโอกาสเห็นรายละเอียดค่าบริการก็ร่วมสองสัปดาห์ผ่านไป..แล้วพอเห็นซองเอกสารที่ส่งมานะแกเอ๊ย ฉันจะเป็นลมมันหนาเป็นปึกน้ำหนักเอกสารร่วมกิโล จำนวนรวม 285 หน้า ได้ ด้วยภาษาที่ฉันต้องพยายามทำความเข้าใจอย่างหนัก พลิกไปดูได้ซัก 10 แผ่นแรกก็ท้อแล้ว แต่ที่ฉันอดสะดุดไม่ได้ ก็ไอ้ตัวสีแดง ๆ หมายเหตุด้านล่างของเอกสาร Invoiced Call Detailsที่ระบุไว้ว่า.. *ห้ามใช้เป็นเอกสารอ้างอิงใด ๆ ใช้สำหรับการตรวจสอบค่าใช้บริการเท่านั้น
ตอนนี้ฉันก็ยังยืนยันที่จะไม่จ่าย จนกว่าจะมีความชัดเจน โทรศัพท์ก็ระงับการใช้งานไปตามระเบียบ โดยมียอดค้างค่าบริการ 3 เดือน คือ 4 พันกว่าบาท, 1 พันกว่าบาท และอีก 400 บาทสำหรับค่าแพ็คเกจการโทรและ GPRS พื้นฐานที่ไม่ได้ใช้งานเลยของเดือนล่าสุด
แกมีข้อแนะนำยังไงก็ช่วยบอกมาด้วยละกัน..ผู้คนติดต่อฉันไม่ได้ ความเสียหายแบบนี้ ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ จะไปเรียกร้องกับใครได้ยังไงละเนี่ย”
อ่านแล้วก็รู้สึกว่าเพื่อนเราช่างอินเทรนด์เสียจริง ตอนหน้าจะมาตอบเพื่อนและคุณผู้อ่านไปด้วยกัน ส่วนตอนนี้ฝากลิงค์ข่าวให้อ่านกันเพลิน ๆ ไปพลาง ๆ นะคะ
สบท.เตือน ระวังมือถือยุคใหม่ จ่ายค่าเน็ตไม่รู้ตัว