Skip to main content

 

ฝูงนกนับล้านในความนึกคิดของฉัน...

 

โอ้ ฉันพอจะรู้ได้ว่ามีความเคลื่อนไหวเล็กๆ ที่ไม่อาจต้านทานอุบัติขึ้นบนรวงรังของพวกมัน

พวกมันค่อยๆ บินจากไปทีละตัว สองตัว อาจมากกว่านั้น

จากไปทีละสี สองสี มากกว่านั้น

ฉันไม่ได้เฝ้ามองการจากไปของพวกมัน แต่ฉันรับรู้ว่า พวกมันกำลังจากไป และมีทีท่าว่าจะไม่หวนมาอีก

ฝูงนกนับล้านฝูง ฝูงนกหลากหลายสีสันและพันธุ์เพศ

จากไปเงียบๆ ในกาลเวลาอันคดเคี้ยว จากไปด้วยท่วงท่าที่บิดเบี้ยว

 

รวงรังอันไพศาลเหลือคณา ณ ความนึกคิดของฉันมิได้ว่างเปล่าหลังจากนั้น

หมู่นกถูกแทนที่และถูกขับไล่โดยสรรพสัตว์แปลกประหลาดนานา

เสียงโห่ร้อง เสียงขู่คำราม เสียงวอแวริกรี้ เสียงเงียบเชียบว่างเปล่า ดังรัวระงมอยู่ในความนึกคิดฉัน

ความนึกคิดที่เคยเป็นที่อาศัยของประดานกทั้งหลายที่ฉันรัก รักมาก...

แต่พวกมันก็จากฉันไปโดยมิเอ่ยคำอำลา จากไปโดยไม่ได้ฝากฝังสิ่งใดเอาไว้ นอกจากความโหยไห้ของฉันเพียงฝ่ายเดียว

 

พื้นที่เดิมๆ รกเรื้อด้วยความมีอยู่ของสรรพสัตว์แปลกประหลาด

นอกจากนั้น งานเลี้ยงสังสรรค์อันน่ารำคาญของพวกมันยังเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน

สำแดงกิริยาเต้นเร่าเป็นจังหวะบนความนึกคิดของฉัน

ล้นหลามลามไล้ไปตามผิวเนื้อทั่วทั้งร่าง ฉันรู้สึกครั่นคร้ามไปหมด

ความเป็นอยู่ของพวกมันช่างกราดเกรี้ยวต่อฉันนัก

ฉันปรารถนาอยู่ทุกขณะว่านกบางตัวจะกล้าหาญต่อพวกมันและบินกลับมาอยู่ที่นี่ แม้เพียงชั่วครู่ก็ยังดี

ฉันรู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีผู้ใดจะช่วยฉันได้นอกจากสัตว์ปีกเหล่านั้น

และก็รู้อยู่เต็มอกด้วยเช่นกันว่าไม่มีทางเลยที่นกเหล่านั้นจะกล้าหาญ นอกจากฉันเท่านั้นที่ทำได้

แต่ราวกับว่าฉันกำลังถูกร้อยรัดด้วยตรวนที่หนักเกินจะกล่าว

ฉันจึงตระหนักอยู่เสมอว่าสรรพสัตว์เหล่านั้นเป็นพันธะอันน่ารังเกียจที่ฉันจะต้องรับผิดชอบ

ฉันเกลียดพวกมันเข้าไส้แต่ก็จำใจรักมัน

ฉันจึงไม่มีความคิดที่จะแสดงความรู้สึกออกมา มีแต่เพียงความรู้สึกอยากแสดงความรู้สึกออกมาเต็มไปหมด

ความกล้าหาญเท่านั้นสินะที่จะช่วยฉันได้ แต่แล้วฉันก็ไม่เคยกล้าหาญเสียที

 

ครั้งหนึ่งเนิ่นนานมาแล้ว ฝูงนกนำพาฉันไปสู่การตั้งคำถามต่อเรื่องราวทั้งปวง

คำถามคือสิ่งที่ฉันวาดหวังจะครอบครองเป็นอาภรณ์ติดตัวตลอดกาล

เป็นของขวัญล้ำค่าที่หมู่นกมอบให้

ฉันชอบตั้งคำถาม การตั้งคำถามเหมือนการเปิดประตูเพื่อมองสิ่งที่ฉันอยากเห็นแต่ไม่เคยเห็น

ฉันชอบตั้งคำถามซ้ำๆ ซากๆ การตั้งคำถามซ้ำๆ ซากๆ เหมือนการเปิดประตูมองสิ่งที่อยากเห็นซ้ำๆ ซากๆ

การเห็นซ้ำๆ ซากๆ อาจน่าเบื่อแต่สำหรับฉันมันสนุก เพราะมันไม่เพียงทำให้ฉันรู้จักอะไรมากขึ้น แต่มันทำให้ฉันรู้จักอะไรเป็นอย่างดี

 

สรรพสัตว์แปลกประหลาดเหล่านี้มีอำนาจมากเหลือเกิน

ฉันรู้ดีว่าฉันเกลียดและไม่ยอมรับพวกมัน เพราะคำถามของฉันถูกกลืนกินโดยพวกมันเสียหมด

หนำซ้ำสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสมองของฉันมีแต่การยอมรับ ฉันศิโรราบต่อสัตว์เหล่านี้

ไม่ใช่การยอมจำนน แต่เพราะเต็มใจด้วยสำนึกที่ว่างเปล่า เพราะพวกมันอยู่เหนือฉัน และเพราะฉันอ่อนแอเกินไป

พวกมันซึมเข้าสู่ฉันในทุกทาง

บางครั้ง หรืออาจบ่อยเสียด้วยซ้ำที่ฉันบำบัดความหิวแสบไส้โดยการบริโภคอาหารที่พวกมันเจียดมาให้

แม้คำถามของฉันจะถูกกลืนไปหมดแต่พวกมันก็คายเศษซากสิ่งอื่นอันโอชะออกมาแทน

ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานสัญชาติญาณหิวกระหาย ฉันดื่มกินสิ่งที่พวกมันให้

บางคราวก็เสมือนว่าฉันคล้อยตามสิ่งที่พวกมันถือว่าเลิศค่าเลอความหมาย

ฉันหลงรักบางสิ่งบางอย่างที่พวกมันมี

ทั้งที่รู้ว่ามันจอมปลอมแต่การตั้งคำถาม(ต่อความจอมปลอม)หลุดลอยไปพร้อมกับฝูงนกเสียแล้ว

ฉันรักมันทั้งที่ฉันเกลียดมัน อาจเพราะฉันอยู่รอดได้เพราะมันเสียแล้ว

 

หลังจากนี้ฉันคงเหมือนคนที่เอาแต่หลับตาและจำต้องยิ้มรับความหมายที่ถูกสร้างขึ้นสินะ

คำถามคงไม่ใช่อาภรณ์ล้ำค่าอีกต่อไป

สรรพสำเนียงของสัตว์ประหลาดพวกนั้นคงทำหน้าที่ยัดเยียดความหมายพร้อมเมนูหวานคาวแก่ฉัน

ฝูงนกที่บินจากไปจะไม่กลับมาเพราะพวกมันคงถูกฆ่าเสียแล้วโดยปิศาจร้ายนิรนาม

ความกล้าหาญของฉันไม่มีวันถูกปลุกปั่นเพราะฉันหมดเรี่ยวแรงเสียแล้ว

ใครจะรู้ว่าฉันดื่มยาพิษเคล้าเสียงดนตรีไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตคืบใกล้เข้ามา

ใครจะรู้ว่าฉันรักในสิ่งที่ฉันเกลียดและเกลียดในสิ่งที่ฉันรักเสียแล้วอย่างอัตโนมัติ

ใครกันจะรู้ คงมีแต่ฉันเท่านั้นสินะที่รู้...

 

 

บล็อกของ เสี้ยวแสง

เสี้ยวแสง
 นกอย่างฉันฉันถูกสกัดปีกตั้งแต่เด็กแต่ธรรมชาติของฉันปีกของฉันยังงอกโต จะปฏิเสธอย่างไรเล่าหากฉันอยากโบยบินสักครั้งเพราะขาของฉันมันก็มิได้แกร่งสักเท่าไหร่ ขาของฉันอ่อนล้าเพราะอาหาร