3 กันยายน 2551...คือ วาระอีกวาระ - การละจาก เขาผู้ฝากงานบรรเจิดอันเลิศล้ำ
ไว้แด่โลกได้กำหนดได้จดจำ ด้วยลำนำ คีตกานท์ - แห่งล้านนา
ซึ่งยังส่ง - เสียงเจื้อยแจ้ว ยังแว่วหวาน ยังเบิกบาน ทระนง ทรงคุณค่าจากสายน้ำ ถึง แววดาวพราวนภา จากขอบฟ้า ถึง ขอบฝัน ทุกวันคืน
ราวกับว่า เขายังอยู่ ยังกู่ก้อง ยังร่ำร้อง สื่อดวงมาน อันหวานชื่น
ยังประคอง ซึง กีตาร์ มาหยัดยืน มาหยิบยื่น บรรเลง เพลงพิไล
“อย่า กลับคืนคำ เมื่อเธอย้ำสัญญา
อย่าเปลี่ยนวาจา เมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร
เดินทางไป อย่าหวั่นไหวใครกางกั้น”
ยังคงเป็นพลังใจให้เรากล้า ยังคงท้าทาย นักสู้ ผู้บุกบั่น
ยังคงเป็นบทเพลงแห่งรางวัล คนช่างฝัน สู่ สีทอง ของรวี
คือ อีกครั้ง แห่งวาระ รำลึกถึง เขาผู้ซึ่งแตกดับและลับลี้
จรัล มโนเพ็ชร คีตกวี ชีวิตสั้น - ศิลปะยืนยาว.
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…