Skip to main content


1.

สาวสวยทรงเสน่ห์

ที่มีผู้ชายมารุมหลงรักกันอย่างมากมายคนหนึ่ง ได้เดินทางไปปรึกษาปัญหาคับข้องใจ เกี่ยวกับ "ตัวตน" ที่สวยทรงเสน่ห์ของเธอกับพระเจ้า ณ บนสรวงสวรรค์ที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ เมื่อเธอได้ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ของพระองค์ เธอจึงย่อตัวลงคำนับและกล่าวว่า


" ข้าแด่พระองค์ท่านที่เคารพและยำเกรงแห่งโลกทั้งสาม ข้ามีปัญหาชีวิตคับข้องใจบางอย่าง ที่อยากจะเรียนถามท่านผู้รู้แจ้งในขุมนรก สรวงสวรรค์ และพื้นพิภพ "

" ไหน เจ้าลองบอกข้ามาซิ เจ้ามีปัญหาคับข้องใจอะไร เจ้าจึงบากหน้ามาหาข้าถึงที่นี่ ระยะทางจากโลกถึงสวรรค์นี่ เป็นระยะทางที่ห่างไกลกันมิใช่น้อย คงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับตัวเจ้ามากซินะ "

" เป็นเรื่องที่สำคัญมากเจ้าค่ะ นั่นคือ ข้านอนคิดด้วยตัวข้าเองมานานเกือบปีกว่าๆแล้ว แต่ข้าก็ยังตกลงใจกับตัวเองไม่ได้ ว่าข้าควรจะเที่ยวไปประกาศตัวให้คนทั่วไปรู้หรือเปล่า - ว่าตัวข้า คือ สาวสวยผู้ทรงเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง เพราะตัวข้านี่... ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือที่ไหน หรือไปปรากฏตัว ณ ที่แห่งใด ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน จะต้องมีผู้ชายมารุมหลงรักข้า และยอมพลีกายให้ข้าเชยชมไม่ต่ำกว่า 20 คน ข้าจึงอยากจะเรียนถามพระองค์ท่านว่า ตัวข้าควรหรือไม่ควร ที่จะเที่ยวไปประกาศ คุณค่าที่ข้าภาคภูมิใจตัวของข้าในเรื่องนี้ - ให้ผู้คนได้รับรู้ "


พระองค์ทรงสดับแล้ว จึงแย้มสรวล และเอื้อนพระโอษฐ์คัดค้านในทันทีว่า

" เจ้าไม่ควรเที่ยวไปประกาศตัวอย่างเด็ดขาด ! "

" ทำไม ข้าจึงประกาศคุณค่าที่น่าภาคภูมิใจของตัวข้าไม่ได้ " เธอสวนคำขึ้นด้วยความกังขา และชี้แจงความปรารถนาเป็นอย่างยิ่งของเธออีกว่า " จริงๆนะ นอกจากนี้แล้ว ข้ายังต้องการจะประกาศให้ผู้คนทุกคนที่ข้าพบปะ ได้รับรู้ให้หมดด้วยว่า มีใคร ชื่อ นามสกุลอะไร อายุน้อยและมากที่สุดเท่าไหร่ บ้านช่องอยู่ที่ไหน อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ ซอยอะไร และเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันบ้าง ที่มาหลงรักข้า และยินยอมพลีกายให้ข้าเชยชม "


" มันเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง " พระองค์ทรงยืนยันอย่างแข็งขัน

" ไม่ถูกต้องอย่างไร ในเมื่อมันเป็นความจริง ที่ตัวข้าได้ประจักษ์ ด้วยตัวของข้าเอง "

เธอเถียงด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่นและเย่อหยิ่ง ในคุณค่าของความสวยทรงเสน่ห์ของตัวเอง

" ไม่ถูกต้อง " พระองค์ทรงย้ำอีกและชี้แจง " เพราะการกระทำเช่นนี้ สำหรับพวกผู้ชายที่มาหลงรักและยอมพลีกายให้เจ้าเชยชม พวกเขาถือว่า มันเป็นการโพทะนาและกล่าวประจาน เหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของพวกเขา ทำให้พวกเขาต้องอับอายขายหน้าผู้คนทั้งหลาย อับอาย...จนกระทั่งว่าแทบจะฆ่าตัวตายก็ว่าได้ เจ้าจึงไม่ควรประกาศอย่างเด็ดขาด เพราะการยกย่องโอ้อวดคุณค่าของตัวเอง แต่กลายเป็นการทำร้ายผู้อื่นเขา ถึงแม้จะเป็นการพูดความจริง แต่ก็เป็นการพูดความจริง ที่ชาวโลกเขารังเกียจและไม่ยอมรับ เจ้าจึงไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง "


" แล้วข้าควรจะทำอย่างไรดี " เธอถาม

" เจ้าไม่ต้องทำอะไรหรอก จงอยู่เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรในเกิดขึ้นในโลกนี้ ก็พอแล้ว" พระองค์ตอบและทรงชี้แนะ

" แล้วใครล่ะ จะเป็นคนประกาศให้โลกรู้ ถึงคุณค่าความสวยอันทรงเสน่ห์ของตัวข้า ที่ทำให้ผู้ชายมาหลงรักและยอมพลีกายให้แก่ข้า "


เธอถามพลางตัดพ้อหาคำตอบ พระองค์จึงตรัสแก่เธอว่า

" ก็ ไอ้ พวกผู้ชายทั้งหลายที่มาหลงรักเจ้า และยอมพลีกายให้เจ้านั่นแหละ พวกเขา - จะค่อยๆพากันไปประกาศยกย่องตัวเจ้ากับผู้คน ว่าพวกเขาช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้หลงรักเจ้าและยอมพลีกายให้แก่เจ้าด้วยความยินดี และไม่ได้รับการรังเกียจจากตัวเจ้า นี่แหละ...โลกถึงจะยอมรับและชื่นชมในตัวเจ้า - เจ้าอย่ากังวลไปเลย ว่าจะไม่มีใครเขารู้จัก ว่าเจ้าเป็นผู้หญิงที่สวยและทรงเสน่ห์ "

" อย่างนั้นหรือ พระองค์ท่าน "

" อ๋อ ใช่สิ นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด และดีที่สุด ที่เจ้าพึงสำนึกรู้...และนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่นคือ เจ้าจงหุบปากอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้คนอื่นๆเขาเป็นคนประกาศยกย่องคุณค่าของตัวเจ้า มิใช่ตัวเจ้าที่ต้องเที่ยว

ไปประกาศยกย่องโอ้อวดตัวเอง นี่แหละ โลกจึงจะยอมรับและชื่นชม คุณค่าความสวยอันทรงเสน่ห์ของตัวเจ้า " พระองค์ทรงชี้ทางสว่างด้วยความเมตตา เธอทรุดตัวลงและก้มลงกราบแทบพระยุคลบาทของพระองค์ และกล่าวว่า


" โอ ขอบพระคุณพระเมตตาจากท่านเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ ข้าน้อยขอน้อมรับคำดำรัสของท่าน ไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดทุกประการเลยเจ้าค่ะ เพราะข้าอยากให้โลกนี้ทั้งโลกได้รับรู้เหลือเกินว่า ข้าเป็นผู้หญิงที่สวยทรงเสน่ห์ ที่โลกควรจะจักเพียงใด "

" อา! ดีแล้ว ดีแล้ว ณ บัดนี้ นอกจากเจ้าจะเป็นผู้หญิงที่สวยทรงเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งแล้ว เจ้ายังกำลังจะเป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย "


" ข้าจะเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุใดเจ้าคะ " เธอถาม

" เจ้าจักเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะบัดนี้เจ้าได้เรียนรู้ - ความรู้อันสำคัญยิ่ง ที่มนุษย์ทุกคนควรจะเรียนรู้ เพราะความรู้ในเรื่องนี้ จะทำให้เจ้าอยู่รอดปลอดภัยในโลก และเป็นที่รักที่นับถือของคนทั่วไป " พระเจ้าตอบ

" ความรู้อะไรเจ้าคะ " เธอถาม

" ความรู้ที่รู้ว่า อะไรควรพูดและอะไรไม่ควรพูด อะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ เมื่อเจ้าต้องอยู่ร่วมกับมนุษย์ ตั้งแต่ครึ่งคนและหนึ่งคนขึ้นไป " พระเจ้าตอบ

 

 

2.

และหลังจากสาวสวยทรงเสน่ห์คนนี้

ได้รับการอบรมสั่งสอน และคำตอบจากพระเจ้ากลับไปแล้ว ก็ปรากฏว่า มีชายหนุ่มรูปงามทรงเสน่ห์ ที่มีแต่ผู้หญิงมารุมหลงรัก เช่นเดียวกับสาวสวยทรงเสน่ห์ นั่นคือ ไม่ว่าเขาจะไปปรากฏตัวอยู่ ณ ที่แห่งใด ภายในเวลาไม่เกิน 3 วัน จะต้องมีผู้หญิงมารุมหลงรัก และยอมพลีกายให้แก่เขาไม่ต่ำกว่า 20 กว่าคน - เหมือนกัน ได้ขึ้นสวรรค์มาปรึกษาปัญหากับพระองค์ ด้วยความคับข้องใจ เช่นเดียวกับสาวสวยทรงเสน่ห์ ราวกับถอดเรื่องราวออกมาจากเทปบันทึกเสียงม้วนเดียวกัน - ทุกถ้อยคำ ต่างกัน ก็เฉพาะเพศที่กลับกันจากหญิงเป็นชายเท่านั้นเอง...

 

นั่นคือ

เขาอยากเที่ยวไปประกาศ ยกย่องและโอ้อวดคุณค่าของตัวเองกับผู้คนว่า ตัวเขาคือชายหนุ่มรูปงามผู้ทรงเสน่ห์ ที่มีแต่ผู้หญิงมารุมหลงรัก และยอมพลีกายให้เชยชมเป็นว่าเล่น และต้องการจะประกาศให้ผู้คนทุกคนที่เขาพบปะรู้ดัวยว่า

 

มีใคร...

ชื่อ นามสกุลอะไร...

อายุน้อยและมากที่สุดเท่าไหร่...

บ้านช่องอยู่ที่ไหน...

อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่...

ซอยอะไร...

และเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันบ้าง...

ที่มาหลงรักและยอมพลีกายให้เขาเชยชม...

 

ปรากฏว่า

หลังจากเขาปรึกษาปัญหาคับข้องใจของตัวเองกับพระเจ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็ ได้การอบรมสั่งสอน และคำตอบอันเลิศล้ำจากพระองค์ เช่นเดียวกับที่สาวสวยทรงเสน่ห์ได้รับทุกประการ - เหมือนกัน

 

3.

หลังจากชายหนุ่มรูปงามผู้ทรงเสน่ห์

ได้รับการสั่งสอนอบรม และคำตอบจากพระเจ้าได้ลาจากไปแล้ว พระองค์ก็ทรงปรารภกับตนเอง ในขณะทรงประทับอยู่เพียงลำพังผู้เดียวบนสรวงสวรรค์ ด้วยภาษาของชาวโลกยุคใหม่ ราวกับจะจงใจให้ใครสักคนหนึ่งในโลกมนุษย์ได้ยินดังๆ ว่า


" โลกปัจจุบัน

ในยุคที่มีพวก สตรีนิยม ระบาดกันจนทั่วไป

ถ้าหากพวกผู้หญิงทั้งหลายในโลกนี้

เขายังบกพร่อง

เขายังขาดความเป็น สุภาพสตรี ในเรื่องความรักและเรื่องเพศ

นั่นคือ ยังคงมีพฤติกรรม

ชอบเที่ยวไปคุยโวโอ้อวดให้คนโน้นคนนี้ฟังกันทั้งโลก

ว่าตัวเอง " ได้ฟัน - ผู้ชายรูปหล่อคนนั้น ! ได้ฟัน - ผู้ชายรูปหล่อคนนี้ ! "

ยังเป็นเรื่องที่พอรับฟัง... ( และอภัยให้กันได้ )

เพราะยังเป็นของใหม่ที่ทางฝ่าย สตรีนิยม เขายังไม่ได้กำหนด

บทจริยธรรมอันดีงาม ควบคุมเรื่องนี้เอาไว้

แต่ แหม ไอ้พวกผู้ชาย...ที่ยังขาดความเป็น สุภาพบุรุษ ในเรื่องนี้

เป็นเรื่องยากที่จะมีคนเขาให้อภัย

เพราะใครๆ เขาก็รู้กัน... มาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้วว่า

มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด แบบกินที่ลับแล้วนำไปไขในที่แจ้ง ให้ผู้หญิงเขาอับอายขายหน้า


ไม่น่าเชื่อว่าโลกในยุคนี้

ยังมี ผู้ชายเชยๆ ที่คิดเลวๆ อย่างนี้ หลงเหลืออยู่ในโลก

น่าเบื่อจริงๆ เรื่องเชยๆ เลวๆ ที่ไร้สาระเรื่องนี้

ขืนเล่าให้ใครฟัง ก็คงไม่มีใครเขาอยากฟังกัน - ให้เสียความรู้สึก "

 

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  แล้วในที่สุด ผมก็ได้รับรู้ความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล เป็นเรื่องเป็นราว (ที่อยากรู้มานาน) ของ คุณหมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเครือข่ายราษฎร์อาสาปกป้องสถาบัน หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ที่ออกมาต่อต้านข้อเสนอแก้ ม.112 ของนิติราษฎร์และครก.112 จากการเป็นวิทยากรรับเชิญอภิปรายในเรื่องนี้ ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 55 ที่ประชาไทนำมาลงในหน้าแรกประชาไท เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 55 ทั้งคลิปภาพและเสียงการอภิปรายที่ใช้ภาษาอังกฤษล้วนๆ และเนื้อหาที่ประชาไทแปลแบบย่อความมา รวมทั้งการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเข้าใจว่า
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ช่างเถิด ถึงแม้ว่า เขาจะดื่มตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา ตั้งแต่เช้าจนจรดเย็น เพื่อบำบัดความเปล่าเปลี่ยวในหัวใจของเขา ในยามที่ชีวิตของเขาตกต่ำ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
การต่อสู้กันทางการเมืองครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างชนชั้นนำในสังคมที่ขัดแย้งกัน หรือพูดง่ายๆก็คือระหว่างทุนเก่ากับทุนใหม่ ที่ช่วงชิงอำนาจกันเพื่อขึ้นเป็นรัฐบาล ที่ต่างฝ่ายต่างมีประชาชนเป็นฐานคะแนนเสียงสนับสนุนอุดมการณ์ของแต่ละฝ่าย ซึ่งต่างจากการต่อสู้กันในยุคเดือนตุลามหาวิปโยค ที่เป็นความขัดแย้งกันระหว่างรัฐบาลเผด็จการกับประชาชน นิสิตนักศึกษา ปัญญาชน โดยตรง
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อคน คนหนึ่งล้มลงป่วย เขาย่อมได้รับการเยียวยารักษา ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน ยากดีมีจนอย่างไร หาไม่เช่นนั้น..อาการป่วยไข้ของเขาย่อมลุกลามใหญ่โต และชีวิตเขาย่อมมีอันเป็นไปอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแม้กระทั่งถึงแก่ชีวิตได้  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  800x600 Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt;…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ผมสัมผัส งานวิพากษ์วิจารณ์สังคมและการเมืองของ คำ ผกา ด้วยความรู้สึกเดียวกันกับใครบางคนหรือสองคนสามคน ที่เคยแอบเป็นห่วงความแรงเธอ และต่อมาต่างก็พากันเลิกรู้สึก เมื่อเธอยืนยันความเป็นตัวตนของเธออย่างเสมอต้นเสมอปลาย และยืนหยัดอยู่ได้มานานจนเป็นปรกติธรรมดามาจนถึงวันนี้ และสรุปกันว่ามันเป็นธรรมชาติวิสัยของเธอที่ต้องเป็นเช่นนั้น เช่นเดียวกับสังคมที่เคยตกอกตกใจ ต่างก็เคยชิน...และยอมรับความเป็นตัวตนในการสื่อสารของเธอ ทั้งคนที่รักเธอและเกลียดเธอในเรื่องอุดมการณ์ความคิดที่ต่างกัน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  สวย เขาก็หาว่า สวยแต่รูปจูบไม่หอม  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
"นางแบบโดย อรวรรณ ชมพู จาก ชมพูเชียงดาว coffe" คุณพยายามหลีกเลี่ยงลดละ การดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ การถกเถียงกันเพื่อเอาชนะกัน การทะเลาะเบาะแว้งกัน การท่องเที่ยวในยามวิกาล การขับรถด้วยความรีบร้อน  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  น้ำท่วม เดือนตุลาคม 2554 ไหลลงไปจากที่สูงลงไปท่วมท้น ทุกหนทุกแห่งที่เป็นที่ต่ำ - ตามธรรมชาติของน้ำ ไม่ละเว้นว่าพื้นที่แห่งนั้นจะเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ กี่พัน กี่หมื่น กี่แสน กี่ล้าน ล้านเท่าไหร่ ไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงหรือชนบท แม้แต่วัดวาอารามศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนกราบไหว้ ยังมิอาจป้องกัน ยังมิอาจสวดมนต์ภาวนาใดๆ ขอให้มวลมหึมาของอุทกภัยอันยิ่งใหญ่ ละเว้นไว้อยู่กับองค์พระปฏิมา