Skip to main content

 

สวย
เขาก็หาว่า
สวยแต่รูปจูบไม่หอม
 
ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น
เขาก็หาว่า
ได้มาเพราะบารมีของพี่ชาย
และเงินซื้อคะแนนเสียงที่ไร้คุณภาพ
 
การศึกษาดี
เขาก็หาว่า
ไม่เกี่ยวกับความรู้และประสบการณ์ทางการเมือง
 
การงานอาชีพดี
เขาก็หาว่า
งานบริหารบ้านเมืองเป็นคนละเรื่องกับงานบริหารบริษัท
 
แต่งตัวติดเครื่องหมายยศ ผิด เพียงนิดหน่อย
เขาก็หาว่า
ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรที่ควรรู้
 
ชอบทำมากกว่าพูด
เขาก็หาว่า
เป็นนายกทำไมพูดไม่เป็น
 
ลงท้องที่ไปหาประชาชนบ่อย
เขาก็หาว่า
ไปเพื่อเรียกคะแนนนิยม
แทนที่จะสั่งงานอยู่ในทำเนียบ
และใช้เวลาทำงานอย่างอื่นที่ควรทำ
 
ทำงานปรึกษากับทุกฝ่ายไม่เผด็จการ...เอาแต่ใจตัวเอง
เขาก็หาว่า
ไม่เป็นตัวของตัวเอง
ไม่หลุดพ้นจากเงาของพี่ชาย
ที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง
 
ร้องไห้ให้แก่ความทุกข์ยากของคนที่ถูกน้ำท่วม
เขาก็หาว่า
ร้องไห้ตามสคริปทางการเมือง
ดัดจริต เสแสร้ง เรียกคะแนนสงสาร
อ่อนแอ ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ
 
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ทำดี...ก็ถูกด่า
ทำไม่ดี...ก็ถูกด่า
ไม่ทำอะไรเลย...ก็ถูกด่า
ได้รับการยกย่อง...ก็ถูกด่า
ไม่ได้รับการยกย่อง...ก็ถูกด่า
ว่ามีสมองหมาปัญญาควาย
เป็นผู้หญิงเหนือที่ทำงานอะไรไม่เป็น
ควรจะไปทำงานขายบริการดีกว่า...
 
หรือถ้าจะโดนหนักยิ่งกว่านี้
ก็มิใช่เรื่องที่แปลก
เพราะรัฐบาลที่ชาวบ้านเลือกเข้ามาแทบทุกสมัย
ย่อมต้องถูกคนชั้นกลางในเมืองที่มีการศึกษาดี
มีความรู้มีความสามารถมีสถานภาพทางสังคมสูง
รวมทั้งอำนาจกว้างขวางที่ทำให้ผู้คนยำเกรง
และมีสื่อที่ทรงพลัง...ต้องการจะโค่นล้ม
และสามารถโค่นล้มได้ทุกครั้ง
เพราะเป็นรัฐบาลที่พวกเขาไม่ชอบ
ตอนนี้เราได้แต่คอยดูว่าเขาจะโค่นล้มรัฐบาล
ที่มีนายกฯ เป็นผู้หญิงคนแรกได้หรือไม่
และด้วยวิธีการใด...
 
นิทานเรื่อง หมาป่ากับลูกแกะ
 
ขณะที่หมาป่า
กำลังกินน้ำอยู่ที่ต้นลำธารแห่งหนึ่ง แลเห็นลูกแกะเดินท่องน้ำมาแต่ไกล หมาป่าตั้งใจว่าจะจับกินเสีย แต่เมื่อจะกินคิดว่า จะต้องทำให้ลูกแกะเห็นความชอบธรรมของตนเสียก่อน  เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ก็ตรงเข้าด่าลูกแกะว่า
“เอ็งนี้ชาติชั่ว เองถือดีอย่างไรจึงมากวนน้ำของข้าให้ขุ่นเป็นตมดังนี้”
ลูกแกะตกใจ ร้องตอบไปโดยซื่อว่า
“ท่านจะว่าข้าพเจ้ากวนน้ำกินของท่านให้ขุ่นอย่างไรถูก เพราะน้ำในลำธารนี้ ไหลจากท่านมายังข้าพเจ้า หาได้ไหลจากข้าพเจ้าไปยังท่านไม่”
หมาป่าก็แกล้งหาความต่อไปว่า
“เอาเถิด ถึงเอ็งจะไม่ทำน้ำขุ่นวันนี้ เมื่อปีกลายนี้ เอ็งก็ได้ด่าว่าข้าหนักหนา”
ลูกแกะตัวสั่น ร้องตอบไปว่า
“พุทโธ่ เอ๋ย เมื่อปีกลาย ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้เกิดมาเห็นเดือนเห็นตะวันเลย”
หมาป่าตอบว่า
“เอาเถอะนะ ถึงเอ็งไม่ได้ด่าข้า พ่อเอ็งก็ด่าข้า เอ็งมีความผิดเหมือนกัน จะมาต่อล้อต่อเถียงกันไปทำไม”
ว่าแล้วก็ตะครุบลูกแกะกินเป็นอาหาร...
 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ...
 
บทสรุป
นักวิเคราะห์การเมืองไร้สำนักท่านหนึ่งกล่าวว่า ไม่ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะดีหรือเลวตามข้อเท็จจริง นั่นคือ ไม่ได้ดีเพราะโฆษณายกย่องตัวเอง หรือเลวเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีจนเกินจริง... จะเป็นรัฐบาลที่ดีเลิศ ดี ดีปานกลาง ดีพอใช้ หรือย่ำแย่...ไม่เอาไหนสักเพียงใดก็ตาม
 
แต่มีสิ่งหนึ่ง...ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำให้สังคมเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด จากการยอมอดทนถูกทุบตีและกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้ (จะร้องไห้อีก เขาก็ห้ามไม่ไห้ร้องอีกแล้ว...) นั่นคือ การเป็นกระจกเงาที่เรียบราบสงบนิ่ง ที่สะท้อนให้เราเห็นภาพ อาการลงแดง ของอำนาจเก่าที่กำลังทุรนทุรายหาช่องทาง...ที่จะกลับมาเสพอำนาจให้จงได้โดยเร็วที่สุด
 
แถมยังชี้ทางออกให้ฟังอีกว่า การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่...เพื่อลดความกดดันและความรุนแรงที่กำลังพุ่งขึ้นจากผู้ที่สูญเสียอำนาจที่กำลังลงแดง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่ต้องเตรียมการไว้เพื่อส่วนรวม เพื่อพิสูจน์กันให้รู้กันแน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง และเพื่อรักษาระบอบการเมืองที่เปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมนี้เอาไว้ ก่อนที่หมาป่าจะลงมือตะครุบลูกแกะ...
 
 เพื่อกลับมาสู่วงจรเดิมๆซ้ำๆซากๆอีกต่อไป หรืออย่างไร...ก็ต้องคอยดูกันต่อไป เพราะสังคมเรากำลังอยู่ในระหว่างการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนผ่านทางการเมือง จากระบอบประชาธิปไตยที่บิดเบี้ยว เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เท่านั้นเอง...
 
ครับ เรื่องราวทั้งหมดข้างบนนั่นไม่เกี่ยวกับการร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษที่ทำให้กลุ่มพันธมิตรลุกฮือออกมา จนคุณทักษิณต้องรีบเขียนจดหมายมาชี้แจงออกตัวว่า
 
“...จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 84 ปี จึงมีข่าวว่าอาจจะมีผมรวมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำหลักการใดๆที่ให้ประโยชน์แก่ผม หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำใดๆในช่วงนี้ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤตจากภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่เท่านั้น
 
อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด และผมก็มั่นใจว่าท่านนายกฯ ของเรา มีแนวคิดและความตั้งใจเช่นเดียวกับผม...
ครับ นี่คือเกมการเมืองที่เท่าทันกัน
และสามารถแก้เกมกันได้อย่างทันควัน.
 
อ้างอิง; “หมาป่ากับลูกแกะ” จากนิทานอีสป ฉบับแบบสอนอ่าน ของ กรมราชบัณฑิต สำนวน พระจรัสชวนะพันธ์ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก 10,000 เล่ม ร.ศ. 131 ปกผ้าราคาเล่มละ 31 สตางค์ โรงพิมพ์ อักษรนิติ์
 
16 - 21 พฤศจิกายน 2554 กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 
 
 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 เพียงแค่คำพูดไม่ว่าจะสักกี่ร้อยกี่พันคำยากแสนยากที่จะทำให้เกิดความรักขึ้นมาได้แต่ความเกลียดนั้นสามารถทำให้เกิดขึ้นมาได้ในทันทีทันใดด้วยคำพูดเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อความรักเรียกร้องเธอ จงตามมันไปแม้ว่าทางของมันนั้น จะขรุขระและชันเพียงไรและเมื่อปีกของมันโอบกอดกายเธอ จงยอมทนแม้ว่าหนามแหลมอันซ่อนอยู่ในปีกนั้นจะเสียดแทงเธอและเมื่อมันพูดกับเธอ จงเชื่อตาม * * *
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ความรักอยู่ที่ไหน...ความรักอยู่ที่นี่                            อยู่ ณ ที่ความจริงใจไม่แปรผันเสมอต้นเสมอปลายคงมั่น              เอาใจใส่กันและกันใกล้ชิด ความรักอยู่ที่ไหน...ความรักอยู่ที่นี่                            อยู่ ณ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
หรือเป็นเพราะว่า... เป็นเพราะอำนาจอันลึกลับของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ควบคุมเอกภพนี้เอาไว้ หรือเป็นเพราะว่า... เป็นเพราะอำนาจของความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิตตามกฎของความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของไตรลักษณ์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ขอบคุณธรรมะของพระพุทธองค์ที่สอนให้ตัวข้าได้รู้จักการเป็นคนมีสติซึ่งเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุดของมนุษย์ในการต่อสู้ - เพื่อการอยู่รอดของชีวิตทั้งในทางโลกย์และทางธรรม ขอบคุณธรรมะของพระพุทธองค์ที่สอนให้ตัวข้ารู้จักการเฝ้ามอง อารมณ์ ความรู้สึก ความนึกคิด ภายในของตัวข้าทำให้ข้าได้รู้จักตัวเองได้รู้จักธรรมชาติของความเป็นมนุษย์และรู้จักกิเลสตัณหาซึ่งเป็นต้นตอสาเหตุของความทุกข์ทางใจทั้งมวลของมนุษย์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ฉันจะร้องเพลงเศร้าในคืนนี้ ถึงไม่มีคนฟังก็ร้องได้เพราะเป็นความต้องการของหัวใจในที่สุดยามต้องอยู่กับชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ตั้งแต่โบราณ ไม่มีใครที่ไม่ปรารถนาความสุข เพราะความสุขนี่เอง คือ เป้าหมายอันแรกและอันสุดท้ายของมนุษย์เรา ทั้งๆที่การศึกษา การอบรมขัดเกลา และความเพียรพยายาม เป็นสิ่งที่จะทำให้ได้ความสุขมา แต่จะมีคนสักกี่คน ที่ได้พบกับความสุขตามที่ตนหวังไว้ คนส่วนใหญ่ คิดถึงความสุขกันอยู่เสมอ แต่แล้วกลับต้องตกอยู่ในความทุกข์ และจากโลกนี้ไป โดยไม่ได้พบกับความปีติยินดี นี่คือสภาพความเป็นจริงของผู้คนโดยทั่วไป ถ้าเป็นเช่นนั้น ความสุขเป็นสิ่งที่ได้มา ด้วยความยากลำบากนักหรือ เปล่าเลย ทุกคนย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่เรียกว่าความสุขนั้น จะต้องมีรากฐานอยู่ที่การแก้ปัญหา 3 ประการ คือ โรคภัยไข้เจ็บ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. ทุกๆ ยามเช้า ชายในชุดสันยาสี จะมาเก็บดอกไม้จากในสวนที่อยู่ใกล้ๆ มือและดวงตาของเขาส่อแววแห่งความโลภที่มีต่อดอกไม้เหล่านั้น และเขาจะเด็ดดอกไม้ทุกดอกที่เอื้อมมือถึง เห็นได้ชัดว่า เขาจะถวายดอกไม้เหล่านั้นต่อรูปปั้นไร้ชีวิต อันเป็นสิ่งที่ทำขึ้นมาจากก้อนหิน ดอกไม้เหล่านั้น สวยงามน่ารัก อ่อนโยน เพิ่งจะผลิบานขึ้นรับแสงแดดยามเช้า แต่นักบวชคนนั้น หาได้เด็ดมันด้วยความอ่อนโยน เขาทึ้งดอกไม้ลงมาและกระชากเอาทุกสิ่งในสวนดอกไม้แห่งนั้น พระเจ้าของเขาต้องการดอกไม้อย่างมากมาย ต้องการสิ่งมีชีวิตเหลือคณานับ สำหรับรูปปั้นไร้ชีวิตทำจากก้อนหิน อีกวันต่อมา ฉันเฝ้าดูเด็กๆบางคนเก็บดอกไม้…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ฮะฮ้า ทักษิณ ชินวัตร เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา แห่งการเสพ...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
โอ้ การเมืองใช่ซินะไม่มีใครเป็นมิตรไม่มีใครเป็นศัตรูกันอย่างแท้จริง นอกจากผลประโยชน์ที่แปลว่า เงินเงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงินเงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงินเงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงินเงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงินที่ติดตามมา...ในนามของตำแหน่ง อำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์ เท่านั้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1.สาวสวยทรงเสน่ห์ ที่มีผู้ชายมารุมหลงรักกันอย่างมากมายคนหนึ่ง ได้เดินทางไปปรึกษาปัญหาคับข้องใจ เกี่ยวกับ "ตัวตน" ที่สวยทรงเสน่ห์ของเธอกับพระเจ้า ณ บนสรวงสวรรค์ที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ เมื่อเธอได้ไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ของพระองค์ เธอจึงย่อตัวลงคำนับและกล่าวว่า
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เราจะแก้ปัญหาความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ทางการเมืองในปัจจุบัน และวิกฤติการณ์ในโลกได้อย่างไร มีอะไรที่ปัจเจกบุคคลจะสามารถทำได้ เพื่อหยุดยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น สงคราม เป็นการแสดงออกที่มีขอบข่ายกว้างขวาง และทำให้สูญเสียเลือดเนื้อของชีวิตประจำวันของเราใช่หรือไม่ สงครามเป็นเพียงการแสดงออกภายนอกของสภาพภายใน เป็นส่วนขยายของการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน สงครามมีขอบเขตกว้างขวางกว่า นองเลือดกว่าและสร้างความพินาศได้มากกว่า แต่มันก็เป็นผลรวมของกิจกรรมแต่ละอย่างของเรา