Skip to main content

ภาพประกอบถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ไม่ว่าคนจะเกิดดับนับเท่าใด
โลกนี้ไม่เคยแปลกแยกคุณค่า
ยังเป็นโลกที่เคยเห็นเป็นธรรมดา
ใครจักมาใครจักพรากไกลจากจร

ดวงอาทิตย์ยังเวียนวกขึ้นตกดิน
สายน้ำรินยังเริงไหลไม่หยุดหย่อน
ดวงดาวและดวงจันทร์ยังสัญจร
สายลมอ่อนหรือแรงจัดยังพัดพราย

ฟากฟ้ายังสูงส่งยังโล่งลึก
ดินยังผนึกมวลมิแยกแตกสลาย
กาลเวลายังเคลื่อนไหวไม่ว่างวาย
คนจักตายหรือก่อร่างมาอย่างไร

มวลแห่งความจริงแท้ไม่แปรผัน
ยังคงอยู่ชั่วนิรันดร์ไม่หวั่นไหว
ไม่ว่าคนจะเกิดดับนับเท่าใด
โลกยังคงหมุนไปไม่ใยดี

ไม่โกรธเกลียดไม่รักไม่ผลักไส
ไม่อาลัยหักห้ามปรามวิถี
ใครจะเริงใครจะร่ำลาเวที
โรงละครแห่งนี้ไม่สะเทือน

ยุคแล้วยุคเล่าเก่าไปใหม่มา
ใต้อำนาจกาลเวลาขับเคลื่อน
โอ้ผองเผ่าเราเกิดดับลับเลือน
เหมือนความฝันคงอยู่ชั่วครู่-ชั่วยาม.

 

ปล. นี่เป็นบทกวีที่ผมเขียน เมื่อ 2-3 ปีก่อน เพื่อเตือนตัวเองว่า ชีวิตคนเรานั้น....ไม่ว่าจะเป็นคนยิ่งใหญ่หรือเล็กกระจ้อยร่อยเพียงใด ล้วนแล้วแต่ต้องตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกาลเวลาที่ไม่อาจต่อรองได้ เมื่อถึงเวลาก็ต้องแตกดับลับไป ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า นอกจากโลกที่เป็นเสมือนโรงละครโรงใหญ่ ที่ผู้คนผลัดเปลี่ยนกันขึ้นไปแสดงบทบาท รุ่นแล้วรุ่นเล่า ยุคแล้วยุคเล่า ในช่วงเวลาอันแสนสั้นของชีวิตแต่ละคน

และคนทุกคนควรจะค้นหาความสุขให้พบ
ในช่วงเวลาอันจำกัดนี้

เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่  2551 ผู้เขียนขอมอบบทกวีบทนี้แด่ผู้อ่านประชาไท เป็นเสมือนของขวัญและคำอวยพร เผื่อบางทีท่านอาจจะได้ข้อคิดดี ๆ จากบทกวีนี้ในวันปีใหม่ ขอบคุณมากครับ ที่ติดตามอ่านคอลัมน์นี้        

** ภาพประกอบ โดย หนูนุค

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางลงมาจากยอดเขาสูงลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างเป็นเวลานานนับปีแล้วหลังจากต่อสู้ปีนป่าย...ขึ้นไปอยู่บนยอดสุดเป็นเวลานานหลายปีแต่ทันทีที่เขาก้าวย่างลงมาเหยียบฝ่าเท้าลงไปแตะผืนแผ่นดินเบื้องล่างเขาก็พลันพบว่า...พื้นดินบนผืนแผ่นดินไทยมิใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาเสียแล้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 เมื่อวานนี้ ข้าจำใจต้องตัดสินใจซื้อบัตรตีตั๋ว - ขึ้นชิงช้าสวรรค์กับเด็กๆในงานสวนสนุกข้างบ้านเพราะทนคำรบเร้าของเด็กๆที่ต้องการให้ข้าขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนไม่ไหว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  จริงหรือที่มีท่านผู้รู้กล่าวกันว่าต้นตอสาเหตุ - ของความขัดแย้งแตกแยกกันอย่างรุนแรงในสังคมไทย ที่กำลังลุกลามกันใหญ่...และยากจะหาข้อยุติในขณะนี้หาใช่เรื่องที่เกิดขึ้น...จากคนเพียงสอง - สามคน ขัดแย้งกันแล้วชักชวนคนอื่นๆมาเป็นพรรคพวกร่วมทะเลาะกันไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 มีคนเคยบอกฉันว่า "การเดินทาง คือกำไรของชีวิต" อาจเป็นเพราะความฝันกระมัง ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเดินทางอย่างมากมาย สมัยฉันเป็นเด็กเล็ก ฉันเคยฝันกับตัวเองเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง...ฉันจะเป็นดั่งซานตาคลอส นักบุญใจดี ที่ชอบแบกถุงผ้าใบใหญ่พาดไหล่ เดินทางเอาขนมไปแจกเด็กๆที่หิวโหยในวันคริสต์มาส...ฉันเชื่อว่าความฝันช่วยทำให้ชีวิตคนเราในแต่ละวัน - มีความหมาย และเฝ้าบอกแก่ตนเองเสมอว่า ความฝันต้องควบคู่กับการเล่าเรียนศึกษา เพื่อเป็นบันได...ทอดขึ้นไปสู่อนาคตอันสดใส สำหรับก้าวขึ้นไป - ไขว่คว้าความฝันให้เป็นจริง...จนกระทั่งฉันโตเป็นหนุ่มฉันจึงเริ่มฝัน เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมา ฉันฝันว่า วันหนึ่ง…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ภายในกำแพงที่คุมขังแห่งนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ป้องกันไม่ให้ผม ต้องถูกบังคับสับถูกโขกให้ออกไปตระเวนร้องเพลงตามข้างถนน ซึ่งไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกอย่างไร จะต้องทำเงินให้ได้ ตามยอดเงินที่นายพ่อตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด จะกินอิ่มหรือไม่ นายพ่อไม่เคยถาม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อเดินทางจากลำปางมาอยู่กับท่านเศรษฐีใจบุญที่กรุงเทพ ท่านให้ผมเรียกท่านว่า "นายพ่อ" ท่านได้สอนให้ผมร้องเพลงเล่นกับวงดนตรีคนพิการของท่าน รวมทั้งสอนให้ขายล็อตเตอรี่ด้วย เพื่อให้ออกไปหาเงิน ผมก็ไป ไม่เคยอิดออดอะไร เพื่อหวังจะได้เรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดีขึ้น...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
วันที่ฉันได้รับจดหมายจากแดน 3 ฉันกำลังมีความสุขกับงานขึ้นบ้านใหม่ บ้านที่ฉันกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ และขายวัวทั้งฝูงที่เลี้ยงเอาไว้ นำเงินมาสร้างให้แม่แก้ว แม่ผู้ให้กำเนิดชีวิตฉัน โดยยอมทิ้งความอยากได้รถยนต์เก๋ง วีออสสีดำ ป้ายแดง ที่ฝันจะขับตะรอนทัวร์ ออกไปช่วยเหลือผู้คนตามต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล แต่เอาเข้าจริงๆความฝันกับความเป็นจริง มักเดินสวนทางกันเสมอ...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เธอสวยถึงแม้เธอจะแต่งตัวขะมุกขะมอมด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและเก่าคร่ำคร่าแต่เปลือกกายภายนอกอันหม่นหมองของความยากไร้หาได้บดบังความงามของเธอไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ยามเช้าเปิดหน้าต่างตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างและข่าวคราวจากโลกภายนอก
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  สวยหรือไม่สวยเพราะหรือไม่เพราะหอมหรือไม่หอมอร่อยหรือไม่อร่อยสบายหรือไม่สบายดีหรือไม่ดี...ข้าใช้ความรู้สึกนึกคิดจากเลือดเนื้อชีวิต กว้างศอก ยาววา ของข้าตามกรอบความรู้สึกนึกคิดแบบทวิลักษณ์นี้แยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว ความผิดความถูกต้อง ความดีและความชั่ว ออกจากกันตั้งเล็กจนโตและตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้เพื่อเลือกรับและปฏิเสธสิ่งต่างๆในโลกครอบคลุมไปหมดทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตายและทำให้ชีวิตข้าอยู่รอดปลอดภัยในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความโหดร้ายของชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเกลียดและฉันรักเธอมาทักถามทำไมในเหตุผลเหตุใดรัก เหตุใดเกลียด เกิดในตนสิ่งใดดลดาลใจให้เกิดมา
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
รื่นเริงเถิดจงรื่นเริงเถิดชีวิตนี้เกิดมาสั้นนักหนารื่นเริงเถิดมิตรอย่ามัวรอช้าก่อนเวลารื่นเริงจะหมดสิ้นไป