Skip to main content

นึกถึงอำเภอ

ที่เคยทำงาน มีเหตุใดให้ระทึก น่าจดจำ มองไปที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ก่อนแห่งอื่น ดินแดนแห่งสวนส้มสายน้ำผึ้ง ที่ลือชื่อระดับประเทศ เข้าตัวอำเภอมองไปทางทิศตะวันตก จะเห็นสวนส้มปลูกเป็นแถวเขียวไปทั้งดอย สวนส้มที่มีมากบอกถึงปริมาณยาที่ต้องใช้ฉีด พื้นที่อยู่ใกล้เคียงสวนส้ม เช่น โรงเรียน บ้านที่อยู่อาศัย คงต้องระมัดระวัง อำเภอฝางมีร้านอาหาร สถานบันเทิงมากมาย พื้นที่กว้างขวาง ประชากรมาก แต่ยังคงเป็นอำเภอ ไม่ได้เป็นจังหวัดจนบัดนี้ มีแม่น้ำฝางไหลขึ้นทิศเหนือ ผิดแผกแม่น้ำทั่วไปที่ไหลล่องใต้ แม่น้ำฝางไหลไปพบกับแม่น้ำกก


อำเภอเชียงดาว

ผมย้ายมาทำงานในปี พ.. 2533 จนถึง พ.. 2546 รวมมาทำงานในอำเภอนี้ถึง 13 ปี เช้าวันหนึ่ง ผมขับรถยนต์ไปทำงานที่อำเภอเชียงดาว รถวิ่งผ่านหน่วยอุทยานแห่งชาติศรีลานนา หรืออุทยานห้วยกุ่ม กิโลเมตรที่ 65 ด้านฝั่งตะวันออกถนนเชียงใหม่-ฝาง มีรถยนต์กระบะจอด 2-3 คัน ผู้โดยสารยืนมองไปที่ริมตลิ่งฝั่งแม่น้ำปิงด้านตะวันออก ผมขับรถผ่านไป ตอนเย็นขับรถกลับ ก็เห็นคนจอดรถดูอีก คนมากกว่าตอนเช้า จุดนี้จะห่างจากสะพานแขวนข้ามแม่น้ำปิง ไปอีกฝั่งของอุทยานฯ ราว 10 เมตรเท่านั้น


วันที่สองที่สามขับรถผ่าน มีรถจอดดูเพิ่มขึ้น รถตู้นักทัศนาจร รถโดยสารสีส้มฝาง-ท่าตอน รถกระบะจอดแถวยาวขึ้น ผู้คนยืนดูเป็นแถวยาวเช่นกัน นักทัศนาจรถ่ายรูป ผมอยากรู้อยากดูขึ้นมาทันที น่าเสียดายผมตัดสินใจช้า รถวิ่งผ่านไปแล้ว จะกลับรถก็กลับยากด้วยทางแคบและเป็นทางโค้ง เช้ารุ่งขึ้นอีกวันต้องแวะมาดูใหม่ ถามบุคคลในที่ทำงาน เขาบอกว่า ผู้คนพูดกันว่างูกัดกัน และผู้เล่ายังบรรยายถึงเรื่องราว ที่ชวนติดตาม ค้นหา เป็นการจุดเชื้อความกระหายอยากรู้ของผมมากขึ้น


เช้ารุ่งขึ้น

ผมเหยียบรถออกบ้านพุ่งเร็วกว่าทุกวัน ถึงที่หมายต้องจอดรถ ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 20 เมตรที่เดียว ข้ามถนนแล้วเดินชิดรั้วที่โค้งไปตามถนน เกรงรถสวนไปมาจะเบียด ถนนแคบมากกว่าเดิมเพราะมีรถมาจอดสองข้างทาง เห็นแล้วตรงตลิ่ง มีงูกองกอดก่ายไปมา งูเหลือมตัวใหญ่นอนโค้งตัว หางหัวมองไม่เห็น งูเล็กๆ จับคู่งับปากกัน บางตัวเลื้อยเข้าไปใต้ต้นไม้ริมฝั่ง ตัวที่ตายเริ่มส่งกลิ่น มีร่องรอยกิ่งไม้ราบล้ม ผู้คนส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขรม


ไม่เคยพบเคยเห็น เกิดจากท้องป้อท้องแม่มา งูขบกั๋น” หญิงชราพูดขึ้น

ทำไมมันกัดกัน หรือมันหิว?” ผู้โดยสารจากรถทัศนาจรออกความเห็น

ตุ๊เจ้าวัดป่า ใกล้ตี้หนี้ เปิ้นว่า บ้านเมืองจะฮ้อนจะฮ้าย” ผู้ชายกลางคนบ้านใกล้อุทยานห้วยกุ่ม พูดหน้าตาขึงขัง


ผมมองดู

งูมันกัดกันจริง เสียงวิจารณ์ไม่ได้ตอบข้อสงสัยของผมได้หมด สักครู่ผมก็ขับรถไปทำงานอย่างครุ่นคิด กระแสข่าวงูกัดกันขยายวงกว้างยิ่งขึ้น ทางอำเภอต้องรายงานเรื่องต่อจังหวัดโดยด่วน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลงข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง ข่าวล่าสุดที่ลงหน้าหนึ่ง


“ ...
ฟาร์มงูแห่งหนึ่งในอำเภอ...ได้รับผลกระทบจากรายได้การแสดง ผู้ชมลดลง ทำให้รายได้ไม่พอรายจ่าย จึงได้นำงูส่วนหนึ่งมาปล่อยที่ริมแม่น้ำปิง ณ อุทยานห้วยกุ่ม ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์ป่ากล่าวว่า ที่งูกัดกันนั้น เป็นเพราะหิวอดอยากอาหารมานาน อีกประการหนึ่ง เป็นการกัดกันระหว่างงูในท้องถิ่น ที่ต่อสู้กับงูที่นำมาปล่อย เพราะไม่ต้องการให้งูต่างถิ่น เข้ามาแย่งอาหารในถิ่นที่อยู่ของตน...”

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…