Skip to main content

หัวมะพร้าวถูกมีดสับเป็นฝาเล็กๆ
เราใช้มือง้างออก เสียบหลอดดูดจากแม่ค้าลงไป กลิ่นหอมมะพร้าวเผาเข้าจมูกขณะเราก้มลงดูดน้ำมะพร้าวแสนหอมและหวาน เราแบ่งกันดูด พอน้ำหมด เราจะใช้นิ้วมือหยักเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมาชิมก่อน จับมะพร้าวทั้งลูกทุบลงกับพื้นหินผ่าเสียงดังโป๊ะๆ จนกะลาแตก เราใช้มือทั้งสองดึงง้างให้กะลาแยกเป็นสองส่วน เนื้อมะพร้าวที่ล่อนไม่ติดกับผิวข้างใน จะปรากฏเป็นผลกลมให้เราได้ลองลิ้ม เนื้อมันมันนุ่มหอมเหมือนน้ำมะพร้าว ถ้าเป็นมะพร้าวแก่เนื้อจะหนา เนื้อจะบางถ้ามะพร้าวหนุ่ม กะลาที่กินหมดแล้วเราโยนเข้าป่าเพราะไม่มีถังขยะ ในน้ำใสยังมีกะลาถูกทิ้งลงไปหลายแห่ง รับรองได้ว่าไม่ใช่พวกเรา ใครที่มาเที่ยวห้วยแก้วต้องซื้อมะพร้าวเผากิน ไม่มีขายทั่วไป พอนานเข้า พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ได้ใช้วิธีต้มมะพร้าวแทนการเผา พอได้ที่ดีแล้วนำมะพร้าวที่ต้มมาทำการเผาเปลือก พอให้ดำเล็กน้อยแล้วนำมาขาย ลูกค้าถามก็โกหกว่าเป็นมะพร้าวเผาไม่ใช่ต้ม ลูกค้าลองกินดูจึงรู้ว่าเป็นมะพร้าวต้ม เพราะรสชาติผิดไปจากเดิม มะพร้าวต้มขนานแท้รสชาติจะหอมและเนื้อหนุ่มกว่า เวลาต่อมา การซื้อกินมะพร้าวเผาลดความนิยมและหายไป คงเป็นเช่นเดียวกับข้าวหลามเผาแล้วบอกเป็นข้าวหลามต้มอย่างนั้น

 

 

โรงเรียนปิดเทอมใหญ่มาถึง
เป็นปลายเดือนมีนาคม กลุ่มพวกเรานัดกันไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนรุกขชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่อยู่ตีนดอยสุเทพ บริเวณสวนสัตว์จึงมีต้นไม้ร่มรื่น กรงสัตว์แทรกตัวตามร่มไม้ กระจายเป็นรูปวงกลม มีถนนทอดตัววนเวียนไปหากรงสัตว์ทุกชนิด บางตอนมีทางลัดข้างทาง พวกเราต่างเคยมาเที่ยวกันคนละหลายครั้ง มากับผู้ปกครองบ้าง ในวาระต่างๆกัน วันนี้เราพากันมาเที่ยวตามประสาเด็กวันรุ่น พอเดินเข้าประตูสวนสัตว์ ย่างเท้าเข้าเขตกรงสัตว์ เสียงชะนีร้องระงมต้อนรับเรา สอดสลับเสียงนกมากมายหลายชนิด ผมไม่เคยได้ยินเสียงสิงโตร้อง มีครั้งหนึ่งได้ยินมันร้อง เสียงมันดังมากและมีอำนาจ ถ้าได้ยินในป่าจริงๆ ขนเราคงลุกเกลียวด้วยความกลัวสุดขีด ยุคนั้นสัตว์ที่เป็นดาราไม่พ้น สิงโต เสือ งู จระเข้ ลิง ช้าง นกนานาชนิด ยังไม่มียีราฟ ฮิปโปโปเตมัส ไม่มีหมีแพนด้า
(พ่อช่วงช่วง แม่หลินฮุย ลูกหลินปิง)จากเมืองจีน ไม่มีอควาเลี่ยม เดินมาถึงกรงงู มันดูน่ากลัวขยะแขยง ใจผมนั้นกลัวงูที่สุด เห็นในหนังเรื่อง “ทาร์ซาร์”(Tarzan) ที่แสดงนำโดย จอนนี่ ไวสมูลเลอร์ อดีตแชมป์ว่ายน้ำฟรีไสต์ 100 เมตรของโอลิมปิกถึง 2 สมัยซ้อน ( เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดย Edgar Burroughs พิมพ์ครั้งแรก ค..1914) ถูกงูเหลือมทิ้งตัวจากกิ่งไม้ ลงมาทับตัวแล้วรัดคอกับลำตัว กว่าพระเอกจะฆ่ามันได้ ทำเอาผู้ชมหายใจอึดอัดทั้งโรงหนัง ส่วนฮิบโปโปเตมัส ช้าง เพิ่งนำเข้าภายหลัง พวกเราเที่ยวกันทั่วแล้วพากันมาเดินชมสวนรุกขชาติ มันร่มรื่นด้วยต้นไม้ หญ้าถูกตัดเตียนเรียบเขียวชวนนั่ง เห็นหนุ่มสาวนั่งคุยกันตามม้าหินอ่อน ตามโคนต้นไม้ พวกเรานอนเล่นตามสนามหญ้าเขียวใต้ต้นไม้ เพื่อนบางคนแกล้งหลับ สวนนี้เคยมีวงดนตรี เดอะ อิมโพสซิเบิ้ล(Tmpossible) แชมป์วงสตริง 3 ปีซ้อนมาแสดง ยังจำท่าทางเป่าทรัมเป็ตของคุณเต๋อ(เรวัติ พุทธินันท์)ได้ เป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด...จนเย็นเราจึงพากันกลับ โดยรถเมล์สีเหลืองสาย 3 พาหนะประจำของพวกเรา

 

ที่ดอยสะเก็ด
มีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่าหนองบัว มีนกกินปลาเดินไปมา น้ำแห้งลงทุกปี สถานที่ทรุดโทรมขาดการดูแล ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยว ดูบรรยากาศเงียบเหงา นานวันไปจึงหายไปจากการกล่าวถึง ปัจจุบันไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ที่เที่ยวของพวกเราก็มีงานวัด งานปอยหลวง ต้องเป็นวัดใกล้บ้าน และเป็นช่วงปิดเทอม พวกเราจึงไปเที่ยวกันได้ บางงานเราไปเที่ยวกันครบทีม บางงานไปเพียง
2 คน ที่เที่ยวอีกแห่งเป็นจุดที่รถขายยาฉายหนัง โดยตอนเย็นรถขายยา จะตระเวนเชิญชวนคนไปหนัง รถจะวิ่งช้าๆไปตามถนนสายต่างๆในตัวเมือง เด็กๆวิ่งตามรถ ส่งเสียงยินดีปรีดา รถขายยาจะไปกางจอหนังตามจุดที่มีผู้คนอยู่กันหนาแน่น เช่นที่ว่างๆแถวประตูช้างเผือก โรงเรียนวัดเชียงยืน วัดต่างๆ เวลาหนึ่งทุ่มเศษฉายหนังทันที สลับการขายยาดมยาหม่อง ยาแก้ปวด ยาเสริมพลังเพศชาย ฯลฯ จำได้ว่า ผมเดินจากบ้านซอย 3 ถนนราชวงค์ ไปกับเพื่อนสองคน เดินเลียบคูเมืองไปเรื่อยแบบสบายอารมณ์ หนังฉายเรื่อง “ไอ้แก่น” นำแสดงโดยพระเอกลักยิ้ม คุณลือชัย นฤนาท (ได้ตุ๊กตาทองแสดงนำชายจากเรื่อง ‘เล็บครุฑ’) คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง เป็นนางเอก

 

ผมไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว
ครั้งสุดท้าย พ
.. 2511 และว่างเว้นไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย นับเวลาได้ 41 ปี จนกระทั่งเมื่อวันพุธที่ 11 .. 2552 ผมชวนลูกชายคนเล็ก พาพ่อปีนป่ายไปดูน้ำตกห้วยแก้วอีกสักครา ให้ลูกเดินเคียงอยู่ใกล้ หากเราลื่นหกล้มจะได้ช่วยเหลือทัน ที่กลับไปดูน้ำตกห้วยแก้วเพราะ ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวน่าตกใจว่า น้ำตกห้วยแก้วเริ่มแห้ง ไม่มีน้ำไหลใสเย็น น้ำแห้งแล้งนั้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ น้ำในห้วยแก้วถูกดูดไปใช้ในสวนสัตว์ และสถานที่สำคัญๆรอบห้วยแก้ว ผมจึงเดินทางไปพิสูจน์ดูกับลูกชาย ขับรถยนต์ไปจอดลานใกล้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เดินไปตามถนนที่ชันเล็กน้อย ไปทางทิศตะวันตก ผ่านร้านอาหารนานาชนิดทางซ้ายมือ ร้านเหล่านี้ปลูกริมขอบของสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกห้วยแก้ว ทางเดินเป็นถนนคอนกรีต เดินมาจนถึงตู้ยาม ยิ้มให้ยามชายหญิงคู่หนึ่ง ทางเดินราบเรียบไปตามขอบสายน้ำคดเคี้ยว ถนนปูด้วยหินผาที่เชื่อมกันด้วยซีเมนต์ ถนนทอดตัวเข้าไปหาแอ่งน้ำ โดยไม่ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติ แต่เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติกับฝีมือเสริมสร้างของมนุษย์ มีป้ายบอกทางไปผาเงิบ ผมกับลูกเดินข้ามสะพานไป มีป้ายชี้ไปยังตำแหน่งน้ำตกห้วยแก้ว สังเกตดูน้ำยังไหลเล็กน้อยตามปรกติ แหงนมองสูงไปตามหน้าผาและแมกไม้ น้ำตกห้วยแก้วที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไหลลงสู่หินผาข้างล่าง มี 3 ชั้น มองดูเหมือนผ้าบางสีขาวสะอาดตา หูได้ยินน้ำตกไหลดังซู่ซ่า อดไม่ได้ให้ลูกชายไต่ขึ้นไปดู พยายามให้อยู่ใกล้น้ำตกมากที่สุด แต่ไม่วายห่วงลูกชายกลัวลื่นหกล้ม ลูกได้ถ่ายไว้หลายภาพ พอลงมาผมก็ถ่ายสายน้ำโขดหินอีกหลายภาพ กลับลงมา ถามยามที่นั่งในตู้ยาม เขาบอกว่า ฤดูแล้งยังมีน้ำไหล แต่อาจน้อยกว่าฤดูฝน ขณะนี้กำลังปรับปรุงน้ำตกห้วยแก้วให้สมบูรณ์ดังเดิม

 

นอกจากนั้นเป็นงานใหญ่ประจำปี
เช่น งานสงกรานต์ในเดือนเมษายน มีผู้คนมาเล่นน้ำที่ “สะพานนวรัฐ” กันมากมาย และยาวตลอดถนนท่าแพ ไม่มีเล่นน้ำรอบคูเมืองที่หนาแน่นดังปัจจุบัน วนมาอีกรอบ เป็นงานเดินขึ้นดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา งานลอยกระทงในแม่น้ำปิง งานฤดูหนาวเชียงใหม่ งานวันเด็ก งานเหล่านี้เป็นงานที่ผมได้เที่ยวในวัยเด็ก ไม่มีห้างสรรพสินค้า
(แมคโคร โลตัส คาร์ฟูร์ เทสโก้ กาดสวนแก้ว) ไม่มีร้านเกม ไม่มีร้านอินเตอร์เน็ต ดังปัจจุบัน.

 


 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อบิดาสาวทราบ จึงมอบไข่จำนวนหนึ่งให้ชายหนุ่ม และให้รีบกลับบ้านโดยเร็ว ทันใดนั้น ได้ยินเสียงม้าวิ่งดังก้องมาแต่ไกล เป็นเสียงผีม้าบ้อง ซึ่งได้ไปเลียซากหัวควาย จึงได้ลิ้มรสพริกแต้อันเผ็ดร้อน มันจึงรู้ว่าเพื่อนแกล้ง ชายหนุ่มรีบลงเรือนสาว วิ่งกลับบ้านโดยเร็ว โดยมีผีม้าบ้องวิ่งไล่ตามไปติดๆ เมื่อเกือบทัน ชายหนุ่มก็โยนไข่ให้ 1 ฟอง ผีม้าบ้องก็หยุดเลียกินไข่ที่ตกแตกบนพื้นดิน ชายหนุ่มก็วิ่งห่างออกไป เหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ทุกระยะ เมื่อไข่หมดก็ถึงบ้านพอดี วิ่งขึ้นบ้านแล้วก็กลับบันได ตามคำแนะนำของบิดาสาว ผีม้าบ้องมาถึง มันพูดว่า ‘ เรือนใช่ บันไดบ่ะใจ่…’ ชายหนุ่มได้ยินเสียงม้าร้อง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ครูที่เราเคารพศรัทธา มีตั้งแต่อนุบาลถึงมหาวิทยาลัย ท่านเป็นครูทั้งการสอนและความประพฤติ ใครหนอเป็นครูคนแรก ตอบได้เลยว่าพ่อแม่ พ่อแม่บางคนทันสมัย ได้ทราบถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่กล่าวว่า เด็กสามารถเรียนรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา มีการอ่านหนังสือให้เด็กฟังขณะอยู่ในท้องแม่ เป็นการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เด็กจะมีการพัฒนา เช่น ด้านภาษา กล้ามเนื้อ อารมณ์ ฯลฯ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ควันจะฟังรู้เรื่องหรือไม่มิอาจยืนยันได้ แต่เด็กๆอย่างพวกเรา มักจะพูดอย่างนี้ทุกคน มันได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง บางครั้งว่าแก้เคล็ดแล้ว ย้ายที่นั่งผิงแล้ว ไฟยังตามรังควานไม่เลิก แสบจนต้องหลิวตาเบนหน้าหนี ยุคสมัยนั้น แต่ละบ้านจะมีการนั่งผิงไฟยามกลางคืน ส่วนใหญ่หย่อมบ้านยังใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าด โทรทัศน์วิทยุยังไม่มี บ้านใครมีวิทยุใช้ถ่าน ถือว่าเยี่ยมยอด ทันสมัย ดังและเท่ ใครมักพูดถึงเสมอ วิทยุต้องใช้ถ่านเป็นลังทีเดียว วิทยุนี้จะมีหลอดตัวเร่งเสียงให้ดัง จึงได้เกิดสำนวนเปรียบเปรยคนพูดเสียงดังว่า “อู้ดังเหมือนวิทยุ 8 หลอด”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ใกล้ประตูบ้านอู๊ด เห็น “อุ๊ยลอย” ยายของอุ๊ด กำลังใช้ปลายนิ้วหมุนกระบอกข้าวหลาม กลับไปมาตามราวเหล็กเหนือกองถ่านแดง ราวเหล็กสำหรับผิงกระบอกข้าวหลามมีสองด้านขนานกัน ถ่านแดงๆกองอยู่ระหว่างราวทั้งสองนี้ กองถ่านแดงๆจะส่งความร้อนให้กระบอกข้าวหลามทั้งสองแถว แม่ของอุ๊ดเป็นลูกสาวของอุ๊ยลอย อุ๊ยลอยอายุ 60 กว่าปีไล่เลี่ยกับอุ๊ยคำของผม แต่ก็ยังขายข้าวหลามเลี้ยงตนเอง ผมวิ่งขึ้นบันไดไปหาอุ๊ยคำ กอดเอวอุ๊ยแล้วเหนี่ยวไหล่ลงมา กระซิบที่หูของตังค์ 1 บาท บอกจะไปซื้อข้าวหลาม “กิ๋นข้าวเจ้าแล้ว ยังบ่ะอิ่มเตี้ยกา ?” อุ๊ยบ่นแต่มือล้วงเข้าไปใต้เสื้อกันหนาว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ทำตามอุ๊ยบอก เดินลงบันได สวมรองเท้าแตะที่เย็นเล็กน้อยมานั่งก้อม (ม้านั่งเตี้ย) ข้างกองไฟ เจ้านากคงนอนต่อไป ปีกจมูกสีดำชื้นๆขยับขึ้นลง แสงแดดอ่อน ค่อยสาดส่องลอดใบไม้กิ่งไม้สู่ลานบ้าน ความหนาวเยือกถูกเทพแห่งความร้อนรุกไล่ เสียงอุ๊ยตะโกนจากบนบ้าน ให้ผมปัดกวาดสาดแหย่ง (เสื่อที่ทอจากผิวคล้า คือกกชนิดหนึ่ง) ที่ปูบนตั่ง (ที่สำหรับนั่ง ไม่มีพนัก อาจมีขาหรือไม่มีขาก็ได้) ให้สะอาด ตั่งนี้อยู่ข้างรั้ว ห่างจากกองไฟเล็กน้อย สักครู่อุ้ยถือถ้วยมายืนที่ตีนบันได เรียกผมให้ไปรับ ผมสาวเท้าไปหา อุ๊ยบอกว่า “แกงผักขี้หูด” ใส่ปลาแห้งมันร้อน ให้ถือย่างระมัดระวัง อีกถ้วยใส่แคบหมูกรอบๆขนาดชิ้นละคำน่ากิน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปีนี้หนาวเหน็บจนคางสั่น ฟันกระทบกันดังกึกๆ วิทยุรายงานว่า หนาวที่สุดในรอบ 30 ปี ผมวัย 10 ขวบกับอุ๊ยคำ (มารดาของพ่อหรือแม่)เข้านอนแต่หัวค่ำ ไม่ได้มาหิง(ผิง)ไฟข้างรั้วเหมือนทุกคืน พ่อแม่ผมที่อยู่อีกหลังหนึ่ง มานั่งหิงไฟสักพัก พ่อได้ส่งเสียงถามอุ๊ย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เวลา 13.00 น. เศษ ผมจำได้ว่าเป็นวัน “มาฆบูชา” เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โรงเรียนปิด ผมไม่ได้ไปฝึกสอนที่โรงเรียนเทศบาลวัดเชียงยืน บอกก่อนว่า ผมเป็นนักศึกษาวิทยาลัยครูเชียงใหม่ (มหาวิทยาลัยราชภัฏในปัจจุบัน) กำลังศึกษาในระดับ ป.ป.(ประโยคครูประถม) หลักสูตรเรียน 1 ปี ขณะนี้อยู่ระยะฝึกสอน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  อาจารย์ชูชัย อธิบายตัวอย่างพีชคณิตบนกระดานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ท่านหันมามองพวกเราสลับกับการบอกความเป็นมา เมื่อได้คำตอบของโจทย์แล้ว ท่านโยนเศษชอล์กกะให้ลงในกล่อง มันลงกล่องได้พอดิบพอดี เป็นครั้งแรกในการโยนราวสิบกว่าครั้ง ท่านยิ้มพอใจในผลงาน ขยับแว่นตานิดหนึ่ง หันมามองพวกเราอีกครั้ง “แค่นี้แหละ...เข้าใจไหม ? ใครไม่เข้าใจตรงไหนถามได้”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
หัวมะพร้าวถูกมีดสับเป็นฝาเล็กๆ เราใช้มือง้างออก เสียบหลอดดูดจากแม่ค้าลงไป กลิ่นหอมมะพร้าวเผาเข้าจมูกขณะเราก้มลงดูดน้ำมะพร้าวแสนหอมและหวาน เราแบ่งกันดูด พอน้ำหมด เราจะใช้นิ้วมือหยักเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมาชิมก่อน จับมะพร้าวทั้งลูกทุบลงกับพื้นหินผ่าเสียงดังโป๊ะๆ จนกะลาแตก เราใช้มือทั้งสองดึงง้างให้กะลาแยกเป็นสองส่วน เนื้อมะพร้าวที่ล่อนไม่ติดกับผิวข้างใน จะปรากฏเป็นผลกลมให้เราได้ลองลิ้ม เนื้อมันมันนุ่มหอมเหมือนน้ำมะพร้าว ถ้าเป็นมะพร้าวแก่เนื้อจะหนา เนื้อจะบางถ้ามะพร้าวหนุ่ม กะลาที่กินหมดแล้วเราโยนเข้าป่าเพราะไม่มีถังขยะ ในน้ำใสยังมีกะลาถูกทิ้งลงไปหลายแห่ง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าร้านนี้ ผมกินประจำ จะปั่นรถถีบ “ราเล่ห์” (RALEIGH) สีเขียวคู่ใจมาซื้อกินเสมอมา ซื้อไปกินกับข้าวเหนียวที่บ้านอร่อยมากครับ ไม่ใช่กินแบบประหยัด สาเหตุหนึ่งคงมาจากถูกสอน อะไรๆก็กินกับข้าวเหนียว เราเดินผ่านร้านนี้มาแล้ว แต่เสียงตะหลิวสัมผัสกระทะขณะผัดก๋วยเตี๋ยว ยังดังตามหลังเรามาแล้วห่างหายไป แต่ภาพเส้นราดหน้าขนาดขนาดใหญ่ ที่ถูกจับวางบนแผ่นวัสดุใส่ ซึ่งรองด้วยกระดาษหนังสือชั้นล่างสุด เจ้าตี๋คนผัดฝีมืออันดับหนึ่งของร้าน ใช้กระบวยตักน้ำราดหน้า ที่มีเนื้อหมูชิ้นหวาน คละเคล้าผักคะน้าคลุกน้ำขุ่นข้น ถูกเทราดลงบนเส้น…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ห้างตันตราภัณฑ์ เป็นร้านขายของที่ดังที่สุดของเชียงใหม่ขณะนั้น ใครซื้อสินค้าจากร้านนี้ถือว่าคุณภาพเยี่ยมแต่ราคาค่อนข้างแพง สินค้าขายมีนานาชนิด เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อ กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา แว่นตา ของเล่นเด็ก ฯลฯ พวกเราเดินกันไปจนสุดถนนท่าแพ มองข้ามถนนไปตรงหน้า จะเห็นประตูท่าแพ พวกเรานักเที่ยววัยรุ่นผู้ชอบเที่ยวแบบประหยัด เลี้ยวซ้ายตามกันไปเป็นพรวน เดินไปไม่กี่ก้าวจะถึงโรงหนังสุริวงค์ พาเหรดเข้าไปในโรงหนัง กระจายกันดูหนังแผ่นตามแผงที่ติดรูป โดยมีกระจกปิดอีกชั้น เป็นภาพโปรแกรมหนังที่ฉายในวันนี้ และโปรแกรมต่อไป…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา “เจียงใหม่” ครั้งกระนั้นเป็นอย่างไร อยากฉายภาพให้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันได้รับรู้ อยากเล่าเรื่องราวที่ผมได้พบเห็น ได้โลดแล่นบนแผ่นดินนี้ ได้เดินไปมาบนถนน ได้หายใจได้สัมผัส และยังเหลือร่องรอยเค้าเดิม มากบ้างน้อยบ้าง ให้ผู้คนในวันนี้ได้มองเห็นบ้านเรือน ถนนหนทาง สะพานนวรัฐ เจดีย์กิ๋ว เจดีย์หลวง ประตูท่าแพ ดอยสุเทพ ห้วยแก้ว ฯลฯ วัฒนธรรมอันดีงามของคนเมือง ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานกับปัจจุบันได้ โดยสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ สิ่งตีพิมพ์เก่าได้ไม่ยากนัก