Skip to main content

ข้อความที่ได้รับ
คล้ายที่ลงในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 ดังนี้

ข้าวไม่ต้องหุงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวพัฒนา   โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   จากข้าว 4 พันธุ์คือ   ข้าวดอกมะลิ 105   กข 39   ข้าวหลวงสันป่าตอง   และขาหนี่   เพื่อความสะดวกในการเตรียม   ให้เป็นอาหารพร้อมสำหรับบริโภค   โดยใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและประหยัดพลังงานในการทำให้สุก   ภายใต้กระบวนการแปรรูป   ให้เป็นข้าวที่นึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ   ลดความชื้น   และนำไปสีเป็นข้าวสาร   เมื่อต้องการบริโภค   จะนำมาทำให้คืนตัวเป็นข้าวสุก   โดยการนำข้าวนึ่งแช่น้ำร้อน 100 องศาเซลเซียสหรือน้ำเดือด อัตราข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน(หรือน้ำมากกว่าเล็กน้อย แต่ไม่เกิน 105 ส่วน   จะทำให้ข้าวสุกที่ได้แฉะไม่น่ารับประทาน) ทิ้งไว้ 20 นาที    สามารถนำไปรับประทานได้ หรือนำข้าวนึ่งแช่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส   ในอัตราข้าวต่อน้ำเช่นเดียวกับ   การแช่ในน้ำร้อนทิ้งไว้ 45 นาที   สามารถรับประทานได้   ข้าวที่ได้จากการเตรียมให้สุกโดยวิธีนี้   จะเป็นข้าวร่วน หากนำไปหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า   อัตราข้าว 1 ส่วน ต่อน้ำ 1.25 ส่วน   ใช้เวลา 15 นาที   จะได้ข้าวสุกที่มีความนุ่ม   เช่นเดียวกับข้าวสวยทั่วไป
             
จะเห็นได้ว่า
ข้าวไม่ต้องหุงเป็นผลิตภัณฑ์จากข้าว   ที่พัฒนาขึ้นมาให้ความสะดวกในการทำให้เป็นข้าวสุก   ที่ประหยัดพลังงาน   และเหมาะสำหรับพกติดตัวในการเดินทาง   ไปในพื้นที่ต่างๆ...คณะวิจัยประกอบด้วย   สกุล มูลคำ,วรรณิษา ต๊ะนันตา ,รัตนาภรณ์ กาวิละ ,จารุวรรณ พรคชรักษ์, ลือชัย อารยะรังสฤษฏ์
       
สถานที่ติดต่อ
ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   156 หมู่ 3 ตำบลมะขามหลวง   อำเภอสันป่าตอง   จังหวัดเชียงใหม่ 50120   โทร 053-311334-5 โทรสาร 053-311334.
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ระยะนี้ผมเป็นทุกข์กังวล เกี่ยวกับการเรียนต่อระดับปริญญาตรีของลูกชาย สถานที่เข้าเรียนเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าเล่าเรียนภาคเรียนละสี่หมื่นบาท ผมจะหาเงินจากที่ไหน ปีหนึ่งเกือบแสนบาท จะกู้เงินเพื่อการศึกษาได้นั้น ผู้ปกครองต้องมีเงินได้ไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี รายได้ผมเกินไปเล็กน้อย กลางคืนผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ลูกชายมีอาการหงุดหงิดกลัวไม่ได้เรียน ตัวผมผู้เป็นพ่อยิ่งกังวลใจมากกว่าลูก สุขและทุกข์ของลูก เป็นสุขทุกข์ของพ่อแม่อย่างแท้จริง...  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
อายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มโรยรา โรคต่างๆ ก็วิ่งเข้ามาหา เวียนหัว นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย ปวดตามส่วนต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อนิ้ว หลัง บั้นเอว ต้นแขน ยามวัยเด็ก วัยหนุ่มสาว ทานอะไรได้หมด ไม่มีปัญหาเจ็บป่วย ทานอร่อยและทานได้มาก ลองคิดทบทวนย้อนหลัง ด้านการใช้ชีวิตและการปฏิบัติงาน ในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาวออกกำลังโดยเล่นกีฬา สู่วัยทำงาน ไม่ได้ออกกำลังกายเลย งดเว้นการวิ่งหรือเดินเสียเฉยๆ ชอบนั่งสังสรรค์ร้องเพลงคาราโอเกะ ด้านการรักษาสุขภาพ เพียงแต่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน ที่น่าอายมากคืออารมณ์ทางเพศลดลงแทบหมด เหมือนน้ำมันแห้งขอดถัง...