Skip to main content

 


 

ได้ยินเสียงหมอเรียก
เราทั้งคู่รีบเข้าไป เห็นเจ้าเหมียวนอนตะแคงนิ่งเหมือนท่อนไม้ ลิ้นแดงเล็กห้อยคาปาก หมอบอกว่า เอาลิ้นมันคาปากไว้ หากลิ้นค้างในปากขณะมันสลบ ลิ้นอาจจุกปากหายใจไม่ออกอาจตายได้ มันจะสลบสัก 1 ชั่วโมง ลุงกับป้าช่วยกันอุ้มมันขึ้นรถ   วางมันบนเบาะหลังที่มีผ้าขนหนูรอง พอถึงบ้านอุ้มมันไปวางราบบนม้ายาวที่มีหมอนรอง ลิ้นยังคาปากเหมือนเดิม อดนึกไม่ได้ว่าตอนแมว
 
จะบาปไหมหนอ เคยถามหมอคนนี้ว่า ตอนแมวจะบาปไหม กลัวกรรมเวรจะตามทัน เจ้าของหรือ
หมออาจจะถูกตอนชดใช้ก็เป็นได้   หมอพูดปนยิ้ม
“บาปแบบอะไรกัน ! อย่างนี้หมอก็บาปหนักซี่ ? ตอนไม่รู้กี่รายมาแล้ว ไม่ต้องกลัวถูกตอนหรอกน่า...คุณลุง”
 
ครบ 1 ชั่วโมง
เจ้าเหมียวเริ่มรู้สึกตัว ตาเริ่มขยับและมีแวว ผมอุ้มวางบนพื้น มันพยายามลุกขึ้น ยืนสี่ขาเอียงไปมาและขาสั่น ครู่เดียวมันเดินเอียงซ้ายขวาเหมือนคนเมา มุ่งไปห้องน้ำ ผมเดินตาม   มันยืนเลียกินน้ำในถัง...หลังผ่าตัด เจ้าเหมียวไปเที่ยวกลางคืนบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่เริ่มอยู่ติดบ้านในยามกลางคืน
อย่างที่รู้กัน ยามกลางวันแมวมันจะนอนยาวเกือบตลอดวัน   ชอบนอนไปเรื่อยเปื่อย ที่ชอบมากเป็นบนเตียงนอนของเรา รองลงมาเป็นบนโต๊ะบนเก้าอี้ ท่านอนมีหลายลีลา นอนหงายงอขา นอนตะแคงเหมือนกุ้งแห้ง ฯลฯ
 
มันเริ่มโตและแข็งแรงขึ้น
เริ่มจับหนูตัวเล็กๆก่อน แล้วไต่บันไดจับหนูตัวใหญ่อ้วน มันคาบเต็มปากเดินเข้าบ้าน มันจับมาและนำมาเล่นขณะหนูยังไม่ตาย ใช้เท้าหน้าเขี่ยให้หนูวิ่งแล้วตบด้วยเท้าหน้า เล่นจนเบื่อ หรือจนหนูตาย บางทีมันกัดกินหนู แต่กินไม่หมดทิ้งเศษเนื้อเรี่ยราด แม่บ้านต้องมาทำความสะอาด
ยังไม่พอ มันนอนซุ่มใต้พุ่มไม้ นกเขาโผลงมาจิกทรายลานบ้าน เดินเพลินเข้าไปในพุ่มไม้โดยไม่รู้จักภัย แพล็บเดียว เจ้าเหมียวคาบนกเขาออกมาเต็มปาก ผมสงสารรีบไปง้างปากเจ้าเหมียวให้อ้าออก มันขืนไว้ไม่ยอม ต้องพูดกับมันดีๆ มันจะรู้หรือไม่มิอาจทราบได้ ปากเจ้าเหมียวอ้าออก นกเขาบินพรึบรอดตายไป มันยังแสดงผลงานจับกระรอกที่ชะล่าใจ ไต่ลงมาหากินตามต้นไม้เตี้ยๆ เจ้าเหมียวซุ่มมาหลายวัน มันตะครุบได้ครั้งละ 1 ตัว รวมทั้งสิ้น 3 ตัวแล้ว ฆ่าแล้วกินไม่หมด ทิ้งเศษเนื้อกระจายตามพื้นบ้าน ผมยังทันได้หางกระรอกไว้หางหนึ่ง ผมเริ่มชอบมันและกลายเป็นรัก พูดพ่อลูกกับมัน
 
เราตั้งชื่อมันว่า “เจ้าเหมียว”
มันอยู่ดีกินดี พุงเริ่มย้อยเหมือนพุงเจ้าของ เวลาเดินพุงที่เป็นแผงจะแกว่งไกวตามจังหวะย่างเท้า มันชอบนอนบนเก้าอี้หวายที่มีเบาะรอง บนที่นอน บนหลังคา ท่านอนแสนพิสดาร ถ้านอนหงาย
แข้งขากางบ้างงอบ้างเหมือนเด็กๆ...ระยะนี้เจ้าเหมียวมักพาแมวตัวอื่นมาเที่ยวบ้าน สังเกตดูมันน่าจะพามากินอาหาร ที่ผมวางไว้หน้าระเบียงห้องน้ำ กลางคืนผมเปิดประตูจะเข้าห้องน้ำ จะพบเสมอ มันพามา 2 ตัว สีดำสนิทตาเหลืองวาวน่ากลัว 1 ตัว สีขาวลายเหลือง หูใหญ่ตั้งอีก 1 ตัว..อ๋ออาหารเม็ดอย่างดีหมดเร็วเพราะเพื่อนๆของเจ้าเหมียวนี่เอง ผมส่งเสียงไล่เสียงดัง มัน 2 ตัวกระโจนแผล็วหายไปในความมืดอย่างรวดเร็วว่องไว.
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มองเข้าไปในมิติการเมืองไทย
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    หากไม่ย้ายเมืองหลวง คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป  มาในแนวสู้ไม่ถอย  ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง  หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม  กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน  และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว  ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท  แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท  ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท  แรงงานว่างงาน 7-9.2  แสนคน  และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม  ในวงเงินประมาณ 7.56  แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ประเทศแรก ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
     ในอดีต มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย  เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค  ลองไล่ตามลำดับ เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486  บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก  ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม  คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์  ต่อมาในในสมัยรัฐบาล  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ  จังหวัดฉะเชิงเทรา  พอมาถึงยุคท่านสมัคร  สุนทรเวช  เจ้าของวลีเด็ดๆ  เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ   อะไรกันนักหนา ฯลฯ”  ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง  รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  การย้ายเมือง มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ  ดังเช่น  เมืองลำพูนในอดีต  ในปี พ.ศ. 1490  เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก  ผู้คนล้มตายมากมาย  ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า  ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต  จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี”  คือเมืองสะเทิม  ประเทศรามัญหรือมอญ  และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี  เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง  จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้ 1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่ 2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่ 3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…