ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวง
มันไม่พูด รุกคืบคลานไปข้างหน้าไม่มีหยุด เหมือนเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ในหนังฝรั่งประเภท
ไซไฟ (Sci-Fi) สภาพคล้ายเมือกฟองปุด ไหลกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นมฤตยูเงียบ เลือดเย็น มันคือกระแสน้ำ มิใช่หยดน้ำ...กระแสน้ำครั้งนี้เหมือนข้าศึกบ้านเมืองยุคปัจจุบัน ไม่มีการเจรจาพักรบ พักเหนื่อยพักหายใจ ไพร่พลมหาศาลหนุนเนื่อง หัวเมืองใหญ่น้อยจากเหนือลงใต้ถูกโจมตีแตกพ่าย มันกรีฑาทัพมุ่งโจมตีเมืองหลวง ที่มั่นสุดท้ายของเรา ปริมาณมหาศาล มาแรงและเร็ว มันคือกระแสน้ำ...มันเหมือนนักมวยลำหนักทรงพลัง เดินต่อยเราไม่มีหยุด หนักหน่วงรุนแรง หากยกแขนป้องกันไม่ดี ถอดใจเมื่อใด ถึงน็อก... แข็งใจไว้ทั้งนักมวยฝ่ายเรา พี่เลี้ยงคนดู อีกอึดใจเดียวหมดยกแล้ว เราจะชนะคะแนน เราปลอดภัย
มีตัวเลขหน้าสนใจ
การฟื้นฟูประเทศพุ่งเป็นแสนล้านบาทแล้ว จะได้ตัวเลขแน่นอนหลังกระทรวงต่างๆสรุปผล ส่วนศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) มีผู้โทรศัพท์เข้ามาทั้งหมด 104,497 ราย ขอความช่วยเหลือ 34,421 ราย สอบถาม 54,260 ราย แจ้งบริจาค 1,660 ราย ติดตามรายงานผล 272 ราย มีผู้โทรศัพท์ก่อกวน 13,884 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.3 ของผู้โทรศัพท์ทั้งหมด ไม่น่าเชื่อนะ สถานการณ์ที่คนไทยทุกแห่งหนได้รับความทุกข์ยากจากภัยน้ำท่วม ยังมีคนอุตริก่อกวนให้วุ่นวายปวดหัว ยังไม่พอขโมยถือโอกาสลักขโมยสิ่งของทรัพย์สินจากร้านจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม กระหน่ำซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ประชาชนคนไทยอีก ใช่ ! โจรย่อมไม่มีคุณธรรมจริยธรรม แต่สถานการณ์อย่างนี้ ทำให้เราหดหู่สังเวชยิ่งขึ้นอีก
ลูกจ้างได้รับผลกระทบ
จากน้ำท่วม ตัวเลขเมื่อ 18 ตุลาคม 2554 พบว่า ใน 20 จังหวัด มีลูกจ้างได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 663,218 คน สถานประกอบการได้รับผลกระทบ 14,172 แห่ง แต่น่ายินดี นิคมอุตสาหกรรม
บางปะอินและโรจนะ แจ้งการจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง 15 บริษัทจ่ายเงินเดือน 100 % อีก 14 บริษัทจ่ายเงินเดือน 75 % และ 1 บริษัทจ่ายเงินเดือน 50 %
ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 27 จังหวัด ราษฎรได้รับความเดือนร้อน 824,848 ครัวเรือน จำนวน 2,484,393 คน ผู้เสียชีวิต 315 ราย สูญหาย 3 คน ปีนี้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนมากกว่าปีก่อนหลายเท่า เพราะปีก่อนแม้จะเกิดน้ำท่วม ผู้คนยังพออาศัยอยู่ในบ้านได้ จะลำบากเรื่องอาหารการกิน การขับถ่าย การเดินทาง น้ำลดใช้เวลามานานก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้ แต่ปีนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก เพราะน้ำท่วมบ้านสูง จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หลายแห่งท่วมถึงหลังคาหรือชั้น 2 ของบ้าน ต้องอพยพออกมา
พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย
จำนวน 8.5 ล้านไร่ หรือคิดเป็นปริมาณผลผลิตข้าวเปลือก 4-5 ล้านตัน ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัด ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท นครสวรรค์ พิษณุโลก.
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ตื่นแล้ว ยังหนาวขอนอนงอเข่านิ่งๆต่ออีกหน่อย เสียงเจ้าเหมียวแมวตัวผู้ประจำบ้านร้องเหมียวๆที่ประตูห้องนอน ได้ยินเสียงเล็บมันข่วนประตูถี่ มันจะมาร้องทุกเช้าปลุกเจ้าของบ้าน ผมตะโกนบอกมันว่ายังไม่ลุกยังหนาวอยู่ มันไม่ยอมยังคงร้องเหมียวๆและข่วนประตูต่อไป ผมชักฉุนมันเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้อาศัย พูดกันคนละภาษา อับจนสุดปัญญาหาล่ามแปล มันอาจคิดว่าเราเป็นคนใช้ก็ได้ ถ้าหิวมันร้องเราก็เอาอาหารให้ มันหนาวมันร้องบอกอีก
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่เข้าอวยพรว่า “...ไม่ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อย่างไรเราก็น้อมรับ...ขอโอกาสให้ทำงานอยู่จนครบ เทอม จะได้ตอบว่า ผลงานที่ได้แถลงไว้ทำได้อย่างไร ได้คะแนนเท่าไรบ้าง.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ฮัก(รัก)รออยู่ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางมาบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เป็นการกลับมาบ้านเกิดครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดหลังพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ(10 สิงหาคม 2554) แต่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ จึงต้องอยู่กรุงเทพฯ เพื่อบริหารจัดการน้ำก่อน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
หากไม่ย้ายเมืองหลวง
คนไทยจะปักหลักอยู่ที่เดิมสู้ต่อไป มาในแนวสู้ไม่ถอย ขอแก้ตัวอีกสักครั้ง หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม กรุงเทพฯจะต้องมีระบบป้องกันน้ำท่วมที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าปัจจุบัน และคาดว่าจะใช้งบประมาณมหาศาลทีเดียว ลองมาดูตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ธนาคารโลกได้ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 1.36 ล้านล้านบาท แยกเป็นความเสียหายจากทรัพย์สิน 6.4 แสนล้านบาท ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ 7.16 แสนล้านบาท แรงงานว่างงาน 7-9.2 แสนคน และไทยจะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจจากน้ำท่วม ในวงเงินประมาณ 7.56 แสนล้านบาท…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ประเทศแรก
ที่จะจมมหาสมุทร คือประเทศมัลดิฟว์ ประเทศเป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย มีประชากรราว 270,000 คน มีพื้นที่ 298 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าภูเก็ตที่มีพื้นที่ 543.034 ตารางกิโลเมตร มัลดิฟว์เป็นหมู่เกาะปะการัง มีหาดทรายขาวและสวยงามมาก หมู่เกาะกระจายราว 1,200 เกาะ พื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1.5 เมตรเท่านั้น ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ นายโมฮัมเหม็ด แอนนี นาชิด กำลังหนักใจเกี่ยวกับการมองหาที่ตั้งประเทศแห่งใหม่ ได้มองไปที่ประเทศศรีลังกา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในอดีต
มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไทย เสนอแนวคิดการย้ายเมืองหลวงหลายครั้งหลายยุค ลองไล่ตามลำดับ
เริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2486 บุรุษผู้กล้าหาญคนแรก ท่านจอมพล ป.พิบูลสงคราม คิดจะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาในในสมัยรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จะย้ายเมืองหลวงไปที่เขาตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา พอมาถึงยุคท่านสมัคร สุนทรเวช เจ้าของวลีเด็ดๆ เช่น “ กระเหี้ยนกระหือรือ อะไรกันนักหนา ฯลฯ” ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าราชการกระทรวงมหาดไทย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
การย้ายเมือง
มักมีสาเหตุต่างๆ ที่สำคัญ ดังเช่น เมืองลำพูนในอดีต ในปี พ.ศ. 1490 เมืองลำพูนได้เกิดโรคระบาดร้ายแรงคือ “โรคห่า” หรืออหิวาตกโลก ผู้คนล้มตายมากมาย ผู้ที่ยังไม่ตายเห็นว่า ถ้าอยู่ต่อไปอาจต้องเสียชีวิต จึงพากันไปอยู่เมือง “สุธรรมวดี” คือเมืองสะเทิม ประเทศรามัญหรือมอญ และยังระหกระเหินย้ายไปอยู่เมืองอื่นนานถึง 6 ปี เมื่อทราบว่าโรคระบาดลดลง จึงพากันกลับมาอยู่เมืองลำพูนดังเดิม
เวียงกุมกาม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง
ที่อยุธยาถูกน้ำท่วม มูลค่าลงทุนหลายแสนล้านบาท ตามลำดับดังนี้
1.นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องหนัง ฯลฯ มูลค่าลงทุน 9,472 ล้านบาท คนงาน 14,000 คน โรงงาน 48 โรง พื้นที่ 2,050 ไร่
2.ส่วนอุตสาหกรรมโรจนะ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนไฟฟ้า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ฯลฯ มูลค่าลงทุน 58,000 ล้านบาท คนงาน 90,000 คน โรงงาน 183 โรง พื้นที่ 12,000 ไร่
3.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมฯ…