Skip to main content

ตอนเช้า

จะกวาดบ้านทุกวัน เศษฝุ่น ขี้จิ้งจก จะมีเสมอ ลากไม้กวาดช้าๆไปที่หัวบันไดบ้าน บันไดจะอยู่ด้านข้างทอดสู่เบื้องล่าง มีเศษหญ้าแห้งหย่อมหนึ่ง ผมฉงนมันมาได้อย่างไร หรือเจ้าไส้กรอกสุนัขตัวเดียวในบ้านคาบมา เช้าวันที่สองเหมือนเดิม เศษต้นหญ้าแห้ง มีใบไม้แห้งเพิ่มมา คงไม่ใช่เจ้าไส้กรอกคาบมาเล่นแน่นอน แต่ยังหาคำตอบไม่ได้ กวาดที่หัวบันไดบ้านในเช้าอีกวันต่อมา เศษต้นหญ้าแห้งปรากฏที่เก่าเวลาเช้าเช่นเดิม ความสงสัยทวีคูณ ยืนครุ่นคิดที่หัวบันไดบ้าน มือถือไม้กวาดค้างไว้ เงยหน้าดูเพดานที่หัวบันได ใต้ชายคามีเศษหญ้าแห้งอัดตามช่องไม้ระแนง ที่ตีเป็นฝ้าเพดาน ไม้ระแนงจะตีห่างกันราว 1 นิ้วเศษ เป็นนกแน่เลย มันคงคาบหญ้าแห้งมาทำรัง หญ้าบางส่วนที่คาบมาคงหล่นลงมาที่หัวบันได เมื่อประจักษ์แจ้งผู้สร้างที่อยู่อาศัยโดยไม่บอกเจ้าของบ้าน ผมจึงซุ่มจับตัว ตอนกลางวันจะนั่งเก้าอี้ใต้ถุนบ้าน อ่านหนังสือเขียนหนังสือ ตาคอยสังเกตดูนกที่ปรากฏตัว


มันเปิดเผยตัวแล้ว

เป็นนกเอี้ยง 3 ตัว เวียนกันคาบหญ้าแห้งบินหายไปใต้หลังคาเหนือหัวบันไดตลอดวัน ผมยอมไม่ได้ มันอาจนำโรคมาให้ ยังทำให้บ้านรกรุงรัง มูลถ่ายออกมายังสกปรกอีกด้วย ผมจึงทำการต่อต้านโครงการของมัน มันขนหญ้าทำรังตอนกลางวัน ตอนเช้าผมใช้ไม้เขี่ยออก มันไม่ยอมแพ้ ผมก็ไม่ยอมหยุด มันขนผมรื้อ มาซิมา สู้กันด้วยความอึด ความทนทาน ผมจะไม่ใช้หนังสะติ๊กยิงมัน ไม่ส่งเสียงขับไล่มัน เราจะสู้กันอย่างมีกฎกติกา มารยาท ฝ่ายนกเอี้ยงมีกำลังนก 3 ตัว ฝ่ายผมมีกำลังคน 2 คนคือผมกับภรรยา การต่อสู้ระหว่างคนกับนกดำเนินไปได้ 1 เดือน ผมเริ่มเบื่อเริ่มท้อ ส่วนเจ้านกเอี้ยงยังส่งเสียงร้องแก๋ๆประสานงานกันเป็นทีมขนหญ้าอย่างคึกคัก ผมหารือกับภรรยา เราควรเปลี่ยนยุทธวิธี เธอแนะให้ใช้หุ่นไล่กา ผมหยุดคิดมันจะได้ผลหรือ มันเป็นเป็นเพียงหุ่นหลอกๆไร้ชีวิต เพราะความเบื่อความเหนื่อยใจจึงยอมให้เธอทำหุ่นไล่กาขับไล่นกเอี้ยง เธอนำเสื้อกั๊กไหมพรมสีดำแขวนไม้แขวนเสื้อ นำไปเกี่ยวใต้หลังคา ณ จุดที่นกบินแวบเข้าสร้างรัง


ผมสังเกตดูอย่างสนใจ

น่าแปลก น่าอัศจรรย์ สำหรับยุค พ.ศ.2555 เจ้านกเอี้ยงมันไม่บินมาทำรังอีกเลย ผมยิ้มหัวเราะฮ่าๆในใจ เจ้าแพ้ข้าแล้ว...ผิดคาด เจ้านกเอี้ยงยังไม่ยอมสะบัดยกธงขาวยอมแพ้ มันย้ายมาทำรังต่อใต้หลังคาที่จั่วด้านหน้าบ้าน มันอึดจริงๆ ยังขยันขนหญ้าแห้งมาทำรังทั้ง 3 ตัว ผมจะยอมแพ้มันได้อย่างไร ยอมมันก็เสียคน ผมรวบรวมพลังใจสู้มันอีกครั้ง ให้มันเสียนกไปเลยดีกว่าเราเสียคน ใต้ชายคามันสูงมาก ผมต้องใช้ไม้ยาวขึ้น ตรงปลายไม้ผูกตะขอแบนๆ ทำให้งอเพื่อใช้เกี่ยวหญ้าที่จุกช่องไม้ระแนง ผมต้องแหงนคอแหงนหน้าขณะเกี่ยวหญ้าแห้ง ที่นกคาบมาทำรังทุกเย็นออก ใช้เวลาเกี่ยวนานกว่าจะหมด ปวดเมื่อยลำคอมาก ร่ำๆจะยอมแพ้เจ้านกเอี้ยง แต่กลัวเสียคน กัดฟันสู้แบบปากกล้าขาสั่น สู้กับมันแบบ “เสือสั้นตวัก สุนัขจนตรอก” นานถึงครึ่งเดือน มันจึงไม่มาทำรังอีก มันเสียนกไปเลย เสียนกตั้ง 3 ตัว ผมหายใจโล่งอก ไม่ต้องปวดเมื่อยลำคออีกต่อไป...ขอบใจนายจริงๆ.                                     

 

 .........................................................................

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2553 ผมเดินทางโดยรถยนต์พร้อมภรรยา   ไปยังศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   อำเภอสันป่าตอง   เชียงใหม่   อีกครั้งหนึ่ง   หลังจากตอนเย็นวันที่ 6 กรกฎาคม 2553   ได้พูดคุยนัดหมายกับคุณสกุล มูลคำ   เรียบร้อยแล้ว  ให้ภรรยานั่งคอยในรถยนต์  ก้าวขึ้นบันไดที่ทำงานของผู้ที่ผมไปพบ   ยกมือไหว้คุณสกุลก่อนตามธรรมเนียม   คุณสกุลดูยิ้มแย้ม   เป็นกันเอง  ไม่มากพิธี
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
อ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553   มีข่าวหนึ่งสะดุดตาและสมอง   หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวว่า “ ทึ่ง ‘ ข้าวไม่ต้องหุง’   ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย.”   มันสะดุดตาตรงที่   ข้าวไม่ต้องหุง   ข้าวอะไรไม่ต้องหุง ?   ต้องเป็นข้าวที่มีคุณภาพพิเศษมากๆแน่นอน   สะดุดยิ่งขึ้นอีก   เมื่อบอกว่า   ศูนย์วิจัยคิดค้นรายแรกของไทย   อะไรที่มีคำว่าวิจัย   ผมสนใจเสมอ   เพราะมันหมายถึง   การค้นหาคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
6 กรกฎาคม 2010 รอบรองชนะเลิศ แข่งขัน เวลา 1.30 น.    ทีมอุรุกวัยพบฮอลแลนด์   สู้กันดุเดือด   สนุกมาก   ใครเป็นโรคหัวใจ   โรคความดันต้องหลีกเลี่ยง    ขณะดู   นิ้วมือผมกำเกร็งไปโดยไม่รู้ตัว   พอรู้สึกตัวตน   ต้องปรับอารมณ์ใหม่   เป็นทีมชาติของเราก็ไม่ใช่  ไฉนต้องปล่อยกายใจอยู่ใต้เกมการแข่งขัน   จึงได้ดูแบบไม่เครียดต่อไป   ทั้งนี้เพื่อชีวิตที่ยืนยาว   รอทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกสักครั้ง   จำได้ว่า  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ส่วนผู้เล่นฟุตบอล ได้แสดงฝีเท้าให้คนทั้งโลกได้ชมอย่างเต็มอิ่ม   เป็นประโยชน์ต่อทีมและตัวเอง   หากเล่นได้ดีเด่น   ค่าตัวจะสูงตาม   บรรดาสโมสรดังๆของโลก   อีตาลีมีสโมสร   อินเตอร์มิลาน   ยูเวนตุส   นาโปลี   ลาซิโอ ฟิออเรนติน่า   สเปนมีสโมสร เรอัล มาดริด บาร์เซโน่า   เยอรมันมีสโมสร  บาเยิร์นมิวนิก   มึนเช่นกลัดบัด   โบรุสเซีย   ฝรั่งเศสมีสโมสร   โอลิมปิก มาร์กเซย   บาเลนเซีย   ปาร์ม่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ใครๆ ก็ต้องมีทีมในดวงใจ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พี่วิเศษยืนจดมวย อย่างไม่กระตือรือร้น ยืนอยู่ด้านทิศ ตะวันออก   หันหน้าเข้าหาศาล   พี่ เอกสิทธิ์ยกมือจดมวยอยู่ทางทิศตะวันตก  ทั้งคู่รูปร่างพอกัน    ทึบตันไม่ ถึงล่ำสัน   พี่เอกสิทธิ์ขาว พี่ วิเศษคล้ำ   ผมยืนอยู่ข้างหลังพี่เอกสิทธิ์   เฉียงออกไปเล็กน้อย   พี่วิเศษไม่ขยับตัวเลย   ยืนนิ่งเฉย   พี่เอกสิทธิ์ตัวแทนผม   ผู้จะแก้ แค้นแทนผม   ดีดเท้าซ้ายเข้าที่ท้องพี่วิเศษดังบึบ   ไม่น่าเชื่อ   พี่วิเศษทรุดตัวลงนั่งยองๆ  …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ปี พ.ศ. 2500 ผมอายุได้ 11 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน “ครูหล้า”  เรียกชื่อเป็นทางการว่า โรงเรียนสุวรรณศิลป์   โรงเรียนนี้ต้องเข้าซอยไปราว 30 เมตร   โรงเรียนติดกับน้ำแม่ข่า  โดยมีถนนช้างม่อยตัดใหม่ตัดผ่าน  ปากซอยอยู่ตรงข้ามกับโรงหนังศรีนครพิงค์  ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของถนน  ถัดจากโรงหนังนี้ไปทางทิศตะวันออก จะเป็นตลาดนวรัฐ  คนทั่วไปเรียกติดปากว่า  “กาดเจ๊กโอ๊ว”  ต้องขออภัยเครือญาติของเถ้าแก่โอ๊ว  ที่เรียกคำนำหน้าชื่อว่า  “เจ๊ก”  เพราะทราบว่าคนจีนไม่ชอบให้ใครเรียกเช่นนั้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ฉันอดนึกถึง ครูสอนประวัติศาสตร์ชาติไทยในชั้นไม่ได้  ท่านสอนสาเหตุที่ตั้งกรุงธนบุรีเป็นเมืองหลวง  บอกจุดดีจุดแข็ง   พอมาถึงยุครัตนโกสินทร์ ครูสอนก็บอกถึงสาเหตุที่ย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรี  มาเป็นกรุงเทพมหานคร บอกจุดอ่อนของกรุงธนบุรี  บอกจุดแข็งจุดดีของกรุงเทพมหานคร ฉันนึกสงสัยในใจ ทำไมตอนแรกครูบอกว่า บริเวณที่ตั้งกรุงธนบุรีดีอย่างนั้นอย่างนี้  พอเวลาผ่านไปอีกช่วงหนึ่ง กรุงธนบุรีกลับมีจุดอ่อน  กรุงเทพฯเหมาะสมกว่า  หรือว่า...เมืองๆ หนึ่งย่อมเหมาะสมดีกับยุคสมัยหนึ่ง พออีกยุคอะไรๆ เปลี่ยนแปลงไป เมืองเดิมนั้นก็เริ่มไม่เหมาะสม  มีปัญหา เออนะ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อเลื่อนชั้นไปเรียน ม.6 ฉันได้รับคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลรุ่นใหญ่ของโรงเรียน รูปร่างผอมสูง น้ำหนักแค่ 48 กิโลกรัม เล่นไม่เก่งเท่าใด  มาหัดเล่นฟุตบอลช้าไป เพื่อนได้เสื้อสามารถกันหลายคน เขาก็สอนการเล่นฟุตบอลให้  เช่น ฝึกเตะลูกฟุตบอลให้กระทบใต้คาน  ลูกจะกระทบพื้นเข้าประตู เพื่อนว่าประตูเทวดาก็รับไม่ได้ ฉันฝึกแล้วมันยากเหลือเกิน อีกลูกเป็นลูกวอลเล่ย์ เพื่อนเสื้อสามารถบอกอีกว่า ต้องเหวี่ยงเท้าขนานพื้นดิน ใช้หลังเท้าเตะตรงกลางลูก ถ้าเตะใต้ลูกลูกจะลอยสูงพ้นตาข่าย  ถ้าเตะลูกคอร์นเน่อร์ต้องเตะให้ลูกโด่งมาตกตรงจุดยิงลูกโทษ ฉันฝึกดูลูกนี้เตะได้ไม่ยาก ผู้สอนและคนอื่นชมว่า…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มือซ้ายกอดเธอ ไว้กับอกตรงหัวใจอย่างทนุถนอมและแสนรัก ไปกับฉันเถอะ เราไปสนุกด้วยกัน ฉันและเพื่อนมีความสุขมากที่ได้เตะเธอ  ฉันอายุ  17  ปีแล้วนะ กำลังเรียนชั้น ม.5 อดทนสักนิดได้ไหม อย่าโกรธฉันเลย  ฉันอาจดิบ เถื่อน แต่ไม่ถ่อย เงยหน้าขึ้นซิ ตอบฉันได้ไหมว่า ไม่โกรธ  เธอไม่ตอบได้แต่นิ่งสงบ ซบกับอกหนุ่มบริสุทธิ์ใสอย่างฉัน...ใช่ !  เธอเป็นเพียงฟุตบอลลูกเก่าๆ รุ่นเก่า แบบมียางใน  เวลาเล่นต้องสูบลมให้เต็มก่อน แล้วใช้หนังยางรัดตรงหัวจุก หัวจุกนี้เป็นท่อยางเล็กๆ สำหรับสูบลมเข้าไป แล้วมัดให้แน่น พรรคพวกช่วยกันจับมันยัดเข้าตรงปากช่องยางนอก…