Skip to main content
วาจาเป็นดังอาวุธ ในมรรค 8 นั้น เป็นทางเอก เพื่อความหลุดพ้น พระศาสดาตรัสว่า ตราบใดที่บุคคลเจริญตามมรรค8 ตราบนั้นโลกจะไม่ว่างจากพระอรหันต์ หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้ใดเดินตามมรรค 8 ผู้นั่นจะพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง คือ พ้นจากโลภ โกรธ หลง นั่นเอง มรรค 8 รายละเอียดก็ไปหาอ่านได้ที่อื่นๆ แต่ที่ย่อๆ ในที่นี้จะย่อๆ คือ การรักษาศีล การฝึกสมาธิ และเจริญปัญญา นั่นเอง การที่ตั้งมั่นในศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใน กาย วาจา ใจ การที่จะทำให้กายและวาจา บริสุทธิ์ ละทุกข์ ก็ต้องเริ่มจาก ใจ อันเป็น มหาเหตุ ถ้าใจนั้น มีโลภโกรธหลง ผลของกาย วาจา ก็คือทุกข์ โทมนัส ถ้าใจนั้น ไม่มีโลภโกรธหลง ผลของกาย วาจา ก็คือ ความไม่ทุกข์ นั่นเอง ดังนี้แล้ว ในสภาวปัจจุบัน บุคคลทั้งหลายพึงเตือนตนเองว่า ไม่ว่าจะทำการสื่อสาร การพูด การพิมพ์ หรือ ใดๆ พึงใช้สติ ปัญญา อบรมในใจตนเองก่อน เช่น การใช้วาจา เป็นต้น หากพูด ดี ชั่ว ตัวเองก็จะเป็นผู้รับผลของคำพูดนั้น จริงๆ ปาก ก็เป็น อวัยวะหนึ่ง ที่เราอาศัยใช้ร่างกายดำรงชีพในโลกสมมตินี้ ถ้าเรามีปาก แต่ไม่มีสติ พิจารณา รู้คิด รู้สึกตัว ทั่วพร้อม ก็จะทำให้เกิดภัยต่างๆ ผลกระทบต่างๆ ตามมา ทั้งเป็นการเบียดเบียนตน และผู้อื่น ดังคำกล่าวว่า อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่ร่วมมิตรให้ระวังคำพูด ฉะนี้แล้ว จึงต้องใช้สติปัญญาพิจารณา และประพฤติตนตามมรรค 8 อันเป็นธรรมแห่งความเจริญพ้นทุกข์ ถ้าทำได้จากใจ การแสดงออกทางกายและวาจา ก็จะเป็นประโยชน์ เกื้อกูล ต่อตนและผู้อื่นอย่างแท้จริง ท่ามกลางยุคสมัยแห่งความปรองดองและสร้างสุข จึงขอเสนอเรื่องนี้ให้ท่านๆ ทั้งหลายไตร่ตรองธรรม พิจารณาตนเพื่อสร้างประโยชน์อย่างยิ่งต่อบ้านเมือง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้ ถ้าเราทุกคน เอาวาจาเป็นอาวุธ เบียดเบียดผู้อื่น ดูถูก ตัดสิน ตีตรา กล่าวหา สร้างทุกข์อยู่ร่ำไป โดยที่มีเจตนาหรือไม่มีเจตนา ก็ต้องใช้สติปัญญาให้มาก จึงจะเป็นค่านิยมอันดีงามอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่เอามาท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง แต่ทำไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เข้าสู่จิตใจ ด้วยภาวะนี้ ธรรมะ โดย มรรค 8 จึงเป็นทางเอก ที่จะค้ำจุนสังคมได้อย่างแท้จริง และนำไปสู่สังคมที่เป็นธรรม เป็นสุข อย่างแท้จริง

บล็อกของ thesethings

thesethings
หลวงลุงสุเทพไม่ควรสึก