หลวงลุงสุเทพไม่ควรสึก
แม้ว่าเพื่อนมิตรหลายคนจะยังถกเถียงกัน
ในความที่เห็น “ลุงกำนันสุเทพ” ออกบวชอย่างกระทันหัน
และปัจจุบันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลาสิกขาเมื่อไหร่
แม้ว่าการบวชของหลวงลุงจะทำให้หลายคนแปลกใจ
และมีคำถามว่า ตกลงแล้วการบวชโดยพระ 3 รูป ทำการบวชให้นั้น
ถือเป็นการ “อุปสมบท” ที่ถูกต้องตามหลักการบวชแบบ “ญัตติจตุถกรรม” หรือไม่
เพราะ 1 องค์ประกอบของพระ หากมี 3 รูป ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้จริง ก็หมายความว่า
ไม่ครบองค์สงฆ์ ที่ต้องมีตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป
เพราะ 1 การบรรพชานั้นใช้กับการบวช “สามเณร” และ อุปสมบท ใช้กับ “พระภิกษุ”
ในพุทธบัญญัติระบุว่าให้บวชในจำนวนพระ 10 รูป ขึ้นไป หรือแล้วแต่กรณี
ในส่วนนี้จึงยังเป็นความคลุมเครือที่ว่า ตกลงการอุปสมบทของหลวงลุงสุเทพนั้น
ชอบธรรม ตามหลักธรรมวินัยจริงไหม? ถ้าไม่ชอบก็ถือว่าการบวชนั้นเป็นโมฆะ
และศักดิ์จริงๆ ของหลวงลุงก็คือแค่ “สามเณร” เท่านั้น
อันนี้ด้วยความด้อยความรู้ ข้าพเจ้าจึงไม่อาจสรุปได้ว่าจะเป็นอย่างไร?
เพราะหลักธรรมวินัย ก็ว่ากันไปตามสมมตินั้นๆ
แต่ประเด็นที่ข้าพเจ้ามองคือว่า ในเมื่อการออกบวชครั้งนี้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร
แต่ควรที่ “หลวงลุงสุเทพ” จะพึงตั้งตนไว้ชอบ ในการประพฤติปฏิบัติธรรม
ละเลิกในสิ่งที่เป็น “ฆราวาสนิสัย” ไปสู่ “นิสัยเพศบรรพชิต” ตามหลักคำสอนของหลวงปู่พุทธทาส
เพราะไม่เช่นนั้นแล้วการไปอยู่สวนโมกข์ของหลวงลุงสุเทพ ก็จะสูญเปล่า
เป็นการสร้างภาพหลอกลวงผู้คน ให้ลุ่มหลงศรัทธาเคารพเฉยๆ
แล้วก็หลอกกินข้าวที่ญาติโยมใส่บาตรมาให้ทุกๆ วัน
ตลอดจนทำลายจิตวิญญาณของสวนโมกข์ที่หลวงปู่พุทธทาสได้มีเจตนาสร้างไว้
แต่จริงๆ แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินข่าวและความเพียรในการปฏิบัติของหลวงลุงสุเทพอยู่เนืองๆ
ไม่ว่าจะเป็นการทำข้อวัตรปฏิบัติ การจำวัด พักกุฏิ การสวดมนต์ ทำวัตร ทำความสะอาดภายในวัด
ตลอดจนการเจริญสมาธิ วิปัสสนา เจริญอานาปานสติ ตามแนวทางที่หลวงปู่พุทธทาสสอนไว้
จึงขออนุโมทนาในความดีงามที่หลวงลุงสุเทพทำในครั้งนี้ ด้วยจิตคารวะ
และแม้ว่าการปฏิบัติธรรมของท่าน จะมีผลออกมาอย่างไร
ขอให้ท่านระลึกไว้ว่า แม้จะปฏิบัติไปโดยพ้นทุกข์ ดับกิเลสได้สิ้นเชิงแล้ว
แต่ก็ยังต้องรับวิบากกรรมที่ทำมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกุศลหรืออกุศล
ดังเช่น กรณีของท่านพระอหิงสกะ หรือที่คนรู้จักทั่วไปว่า “องคุลีมาล” นั่นเอง
เพราะการที่ในอดีตท่านอหิงสกะ จะทำอะไรมา เมื่อบวชแล้ว ปฏิบัติจนพ้นทุกข์แล้ว
ท่านก็ยังคงใช้กรรมของท่าน รับวิบากต่างๆ ที่ตามมาจากการที่ท่านเคยทำลายชีวิตคน
เศษกรรมที่ท่านรับนี้ คือ ผลจากการที่ท่านปฏิบัติตนดับกิเลสได้สิ้นเชิง
กุศลกรรมอย่างยิ่งยวดคือ อรหันตผล จึงทำให้ท่านชดใช้เพียงเศษกรรม
คือถูกคนเอาก้อนหินขว้างจนเลือดออกเป็นแผล เป็นต้น
และจิตของท่านอหิงสกะก็ยอมรับ วางใจอุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย
ยอมรับในผลของกรรมอย่างเต็มใจ ซึ่งหากท่านไม่ได้ปฏิบัติจนดับทุกข์ ดับกิเลสอย่างสิ้นเชิง
อบายภูมิคือ นรก ก็คือที่ไปจุติใหม่ของท่าน
ดังนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสบอกสติท่าน ก่อนที่จะออกบวชว่า
“ตถาคตหยุดแล้วซึ่งการทำความชั่วทั้งปวง”
ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สติ และต่อมาก็ออกบวชด้วยจิตสำนึกที่จะแก้ไขตนเอง
และปฏิบัติเพื่อละความชั่วในใจตนเอง และเข้าถึงซึ่งความดับทุกข์อย่างแท้จริง
เมื่อย้อนกลับมามองที่ “หลวงลุงสุเทพ” ข้าพเจ้าก็อยากให้ท่านบวชนานๆ
ปฏิบัติธรรมให้ถึงที่สุด และแม้ว่าผลคดีต่างๆ จะออกมาเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามสมมติโลก
เพราะกฏหมายย่อมต้องเป็นไปตามหลักกฏหมายด้วยหลักนิติธรรมจริงๆ
ส่วนกรรมอันเกิดจากที่ท่านทำสมัยที่ยังไม่บวช
เป็นอดีตที่ดับลงไปแล้ว ไม่ควรเอามาวุ่นวายใจในปัจจุบัน
แต่เมื่อผลวิบากต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นสุข ทุกข์ นินทา สรรเสริญ หรือใดๆ
ก็ต้องวางใจยอมรับ ด้วยจิตที่ตั่งมั่นและเป็นกลาง วางอุเบกขาอยู่เสมอๆ
ไม่ว่าอะไรจะเกิด ถ้าท่านหลวงลุงสุเทพ ยังไม่เข้าถึงภาวะความเป็นพระที่แท้จริง
คือเป็นพระอริยสงฆ์ พ้นทุกข์ หมดกิเลส ท่านก็ต้องเป็นไปตามกรรม ที่ยุติธรรมจริงๆ
กรรมใดที่ทำไว้ในอดีต ย่อมต้องส่งผลต่อสัมปรายภพอย่างไม่จบสิ้นในวัฏสงสาร
ข้าพเจ้าจึงสนับสนุนให้หลวงลุงสุเทพไม่ควรสึก คือ บวชไม่ต้องสึก
และควรจะตัดวิถีใดๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับโลกไปก่อน
ส่วนเรื่องเก่าๆ ก็แก้ไข ตามเหตุปัจจัย
เรื่องใหม่ๆ ไม่ต้องไปสร้าง ไปทำเพิ่มให้เป็นภาระ
และมันไม่ใช่หน้าที่พระ
และยังไม่ต้องไปสอนใครให้มาก สอนตัวเองก่อน เอาตัวเองให้รอด
ยิ่งเป็นผู้บวชใหม่แล้ว ควรเรียนให้มาก
ไม่ควรรีบชูงวง หรือ ตั้งตนเป็น คณาจารย์ใหญ่
ควรดำเนินรอยตามที่ที่หลวงปู่พุทธทาสสอนให้ “อยู่อย่างต่ำ มุ่งกระทำอย่างสูง”
ยิ่งปฏิบัติได้ผลเป็นที่ประจักษ์แจ้งจริงๆ แล้ว
ประโยชน์ก็เกิดที่ตัวท่านเอง
และเกิดประโยชน์ต่อพระศาสนา
ตลอดจนญาติมิตรทั้งหลายก็จะได้รับอานิสงส์ตรงนี้ไปตามๆ กัน
สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าหวังว่า ท่านจะเอาจริงเอาจังกับการออกบวช
ด้วยความจริงใจและเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างบริสุทธิ์ใจ
ขอเป็นกำลังใจให้หลวงลุงสุเทพ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมเวียนว่ายตายเกิดเสมอๆ กัน