ออกเดินบิณฑบาตไปทางถนนเพชรเกษม 91
โดยมีบุรุษคนวัดเดินตามหนึ่งคนไม่ห่างนัก
ผ่านชายสองคนยืนรอไปส่งเด็กนักเรียนสองคน
เขาทั้งสองแลเห็นข้าพเจ้าแล้วส่งยิ้มมาเป็นมิตร
ข้าพเจ้าทักทายชายทั้งสองและเด็กทั้งสองนั้น
ฉับพลันก็มีชายคนหนึ่งขี่จักรยานยนต์มาจอด
แล้วตะคอกใส่หน้าข้าพเจ้า
"ไอ้พระอัปปรีย์...!"
ข้าพเจ้ากำหนดรู้แต่ทำทีเป็นไม่รู้และเดินต่อไป
ได้ยินเสียงไล่หลังมาว่า "มึงพาคนไปชนตำรวจ"
คงหมายถึงการที่สมณะสันติอโศกพาคนไปชุมนุม
ข้าพเจ้าเดินต่อไปโดยไม่หันไปมองชายคนนั้น
เป็นเรื่องธรรมดาที่นักบวชสันติอโศกจะโดนเช่นนี้
แม้ข้าพเจ้าเองก็โดนหลายหน-แต่คราวนี้ต่อหน้า
กระแสสังคมยังไม่เข้าใจและค่อนข้างอึดอัดขัดใจ
ต่อการที่สันติอโศกออกไปร่วมชุมนุมทางการเมือง
แม้ข้าพเจ้าเองถ้าอยู่นอกสันติอโศกก็ต้องคิดเช่นนั้น
จึงไม่มีความโกรธชายคนที่มาตะคอกใส่ต่อหน้า
เราเข้าใจเขาว่าเขาไม่เข้าใจเราจึงไม่มีเราและเขา
ได้ทราบจากบุรุษผู้เดินตามว่าเขาคนนั้นด่าเพิ่มด้วย
กระทั่งแถมอวัยวะเพศฝ่ายชายอย่างไม่อายฟ้าดิน
การไม่โกรธตอบผู้หยาบคายในถ้อยคำเลิศล้ำยิ่งนัก
ถ้าเขาคนนั้นเข้าใจความจริงภายหลังเขาคงจะเสียใจ
บัดนี้เราทำได้เพียงเข้าใจและเห็นใจเขาไปก่อนเท่านั้น
ตลอดเวลาบิณฑบาตเช้าวันนี้มีคนใส่บาตรมากราย
แต่ละคนล้วนแสดงท่าทีแห่งความเป็นมิตรเป็นญาติ